วันศุกร์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2559

3 เหตุผลที่ทำไมบริษัทดัง "กูเกิ้ล" ไม่สนใจ "จ้างงาน" คนที่จบจากมหาลัยดังๆ




ข้อมูลข่าวโดย : 
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์






บริษัทดังระดับโลก กูเกิ้ล ซึ่งด้านหนึ่งกูเกิ้ลมีการวิเคราะห์กลุ่มบุคคลที่ประสบความสำเร็จในการทำงานกับกูเกิ้ล โดยไม่ได้นำเรื่องของเกรดเฉลี่ย โรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยดัง และกลุ่มที่แสดงออกว่าฉลาดเฉลียวระหว่างการสัมภาษณ์งานมาเกี่ยวข้อง

ในการให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ของหัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการณ์ด้านบุคลากรของกูเกิ้ล ลาซโล บ๊อก ได้เล่าถึงรายละเอียดบุคลากรที่กูเกิ้ลมองหามาร่วมงานให้ฟัง และแน่นอนไม่ได้เกี่ยวกับโพรไฟล์ส่วนตัวอะไรด้วย

--กูเกิ้ล บอกว่า ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำ มีโอกาสที่จะขาดสิ่งที่เรียกว่า "ความอ่อนน้อมถ่อมตนทางปัญญา"


ขยายความได้ว่า คนที่เพิ่งเรียนหนังสือจบในแบบที่คะแนนเกรดเฉลี่ยดีเข้าข่ายประสบความสำเร็จในอายุยังน้อยอาจจะปรับตัวยากในการเรียนรู้อะไรที่ท้าทายเพราะคิดว่าไม่สามารถที่จะล้มเหลวได้

กูเกิ้ลจึงมองหาคนที่สามารถจะยอมถอยและรับฟังให้เกียรติความคิดคนอื่นๆถ้านั่นเป็นสิ่งที่ดีกว่าเรียกว่ามีความอ่อนน้อมถ่อมตนทางปัญหานั่นเอง เพราะถ้าไม่มีสิ่งนี้ ก็ยากที่จะเรียนรู้อะไรใหม่ๆ หรือไม่สามารถเรียนรู้อะไรจากความล้มเหลวได้

--กูเกิ้ล บอกว่า คนที่สามารถทำอะไรเจ๋งๆได้โดยไม่ต้องมีคำว่า "มหาวิทยาลัย"มาเกี่ยวข้อง มักจะเป็นกลุ่มคนที่มี "ความโดดเด่น" อยู่เสมอ

"บ๊อก" หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการณ์ด้านบุคลากรของกูเกิ้ล ให้ความเห็นว่า หลายครั้งที่พบว่าบุคลากรในหลายที่ตามที่ทำงานต่างๆใช้ความเป็นสถาบันการศึกษามาช่วยเป็นไม้ค้ำให้ตัวเองและมันก็ไม่ได้ผล(บ๊อก : ใช้คำว่า ไม้ยันรักแร้ช่วยพยุง)

บ๊อกมองว่าระบบการศึกษาขณะนี้ไม่ได้ให้การเรียนรู้ที่จะเป็นประโยชน์ในโลกการทำงาน

--กูเกิ้ล บอกว่า ความสามารถในการเรียนรู้เป็นสิ่งที่สำคัญกว่าไอคิว


ด้วยแนวคิดวที่ว่าคนที่ประสบความสำเร็จทางวิชาการหรือการศึกษาไม่ได้เป็นสัญลักษณ์ที่บอกได้ว่าจะมีความสามารถในการทำงานเสมอไป

"บ็อก" กล่าวว่า ระบบการศึกษาในมหาวิทยาลัยสามารถสร้าง "สภาพแวดล้อมเทียม" ขึ้นมาได้ นั่นคือการสร้างเงื่อนไขเฉพาะทางขึ้นมา เป็นต้นว่าเรื่อง "ไอคิว" ซึ่งเขามองว่า "ไอคิว" มีค่าน้อยกว่าการเป็นคนที่มีความสามารถในการที่จะเรียนรู้ หรือคนประเภท On the fly (คนที่สามารถปรับตัว เปลี่ยนแปลงได้ดีและรวดเร็ว) ซึ่งกูเกิ้ลจะประเมินโดยการใช้การสัมภาษณ์ที่พิจารณาผ่านพฤติกรรมด้วย

"การหาคนของกูเกิ้ล จึงเน้นหาคนที่สามารถที่จะเรียนรู้ และมีความสามารถในการปรับตัวทันท่วงที ไม่ได้เน้นต้องการหาคนแนวที่เคยเป็นผู้นำชมรมต่างๆในโรงเรียน หรือมหาวิทยาลัย แต่เราหาคนที่มีความสามารถจะก้าวขึ้นไปเป็นผู้นำในยามที่มีสถานการณ์จำเป็น"

เครดิต: ประชาชาติฯออนไลน์แปลและเรียบเรียง

รีไทร์พระ บทความโดย : วินทร์ เลียววาริณ

ชาวพุทธแต่โบราณมีกฎกติกาจัดการกับพระไม่ดีอย่างชัดเจนและเข้มงวด ผู้ที่บวชแล้วทำให้ศาสนาเสื่อม จะถูกอัปเปหิจากวัดทันที

อย่าว่าแต่การทำผิดวินัยสงฆ์เลย แม้แต่พระที่ไม่มีความรู้ทางธรรม บวชแล้วไม่ศึกษาจนรู้ ก็ให้สึกเหมือนกัน

พระพรหมคุณาภรณ์เคยเล่าว่า ในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช มีหน่วยทดสอบความรู้ของพระ ถ้าพระผู้เข้าสอบไม่รู้พอ กรรมการก็จะยื่นผ้าขาวให้ เป็นความหมายว่าให้สึกเสียนะ

สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชก็มีกองสอบความรู้เหมือนกัน สอบไม่ผ่าน ก็รีไทร์สถานเดียว

สมัยนี้ถ้าให้พระทั้งประเทศสอบแบบนี้ เราอาจเหลือพระน้อยลงไปมาก

ก็เหมือนทุกระบบที่เมื่อคนรักษากฎอ่อนแอ กฎก็หย่อนยาน มีตัวอย่างในบ้านเรามากมายจนเบื่อหน่าย

ถ้าเป็นพระระดับเล็กๆ หนีเที่ยวกลางคืนหรือพาสีกาเข้ากุฏิ ก็ถูกจับสึกทันทีทันใจ เจ้าหน้าที่มาเร็วเคลมเร็ว

ถ้าเป็นพระระดับใหญ่ ทำเรื่องชั่วขนาดไหน ก็ต้องตีความก่อน

"เรื่องมันละเอียดอ่อน"

อืม! เห็นปลวกขึ้นบ้านตำตาแล้วต้องตีความก่อนว่า "ปลวกมาทำอะไรกันจ๊ะ" และ "เรื่องมันละเอียดอ่อน" คงไม่นานหรอกนะที่บ้านพังครืนลงมา

นานมาแล้วรัชกาลที่ 9 ทรงมีพระบรมราโชวาทว่า "ในบ้านเมืองนั้นมีทั้งคนดีและคนไม่ดี ไม่มีใครจะทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด การทำให้บ้านเมืองมีความปรกติสุขเรียบร้อย จึงมิใช่การทำให้ทุกคนเป็นคนดี หากอยู่ที่การส่งเสริมให้คนดีได้ปกครองบ้านเมือง และควบคุมคนไม่ดีไม่ให้มีอำนาจ ไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้"

พระบรมราโชวาทดังกล่าวสามารถขยายความไปยังหมู่สงฆ์ได้ด้วย เนื่องจากพระสงฆ์เป็นผู้นำทางจิตวิญญาณ หากอลัชชีนำทางชาวบ้านหลงทาง ก็ย่อมเป็นอันตรายมิเพียงต่อจิตวิญญาณของคนคนเดียว แต่ทั้งประเทศ

นี่ไม่ใช่เรื่องเล่น เพราะหากคนไร้คุณภาพ หัวมีแต่ความโลภหลง บ้านเมืองก็พังได้

ดังนั้นอยากให้พุทธศาสนาขนานแท้อยู่คู่กับประเทศไทย พุทธบริษัททั้งสี่ก็ต้องช่วยกันดูแลอย่างเข้มงวด ไม่ยอมให้ปลวกเกาะกิน

ไม่เพียงแต่สอบเช็กระดับความรู้เท่านั้น ความจริงเราควรเริ่มระบบสอบเข้าเหมือนเอนทรานซ์เข้ามหาวิทยาลัย ผู้ที่อยากบวชควรจะศึกษาก่อน ไม่ใช่ไม่รู้จะทำอะไร ก็ไปบวช

ถ้ามีการสอบเข้าและสอบไล่เป็นพักๆ ศาสนาก็น่าจะแข็งแรงขึ้น

ปลวกน่ะไม่มีทางหมดไปจากโลกหรอก แต่คนมีปัญญาต้องรู้จักเชิญปลวกไปอยู่นอกบ้าน

ยอมมีพระน้อยรูปดีกว่ามีมาก และสร้างปัญหามาก

………………..

ขอขอบคุณบทความโดย : วินทร์ เลียววาริณ
เฟซบุ๊ค https://www.facebook.com/winlyovarin/


วันพุธที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

เล่นไอจีต้องรู้! Instagram เปิดระบบแจ้งเตือนคนแอบแคปภาพหน้าจอ

เล่นไอจีต้องรู้! Instagram เปิดระบบแจ้งเตือนคนแอบแคปภาพหน้าจอ โดย ไทยรัฐออนไลน์ 30 พ.ย. 2559 13:07 7,316 ครั้ง กลายเป็นเรื่องฮือฮาและพูดถึงใน

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/797796

สมเด็จพระราชาคณะรูปสุดท้ายในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

ในวโรกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่9 
5 ธันวาคม 2559 
   ทรงโปรดให้มีการสถาปนาสมเด็จพระราชาคณะชั้นสุพรรณบัฏ 1 รูป คือ พระพรหมคุณาภรณ์ (ประยุทธ์ ปยุตฺโต ป.ธ.9) วัดญาณเวศกวัน อ.สามพราน จ.นครปฐม เป็นสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ญาณอดุลสุนทรนายก ปาพจนดิลกวรานุศาสน์ อารยางกูรพิลาส นามานุกรม คัมภีรญาณอุดมวิศิษฏ์ ตรีปิฎกบัณฑิต มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี อรัญวาสี

ทั้งนี้พระพรหมคุณาภรณ์ (ประยุทธ์ ปยุตฺโต ป.ธ.9) ได้รับสถาปนาเป็นสมเด็จพระราชาคณะชั้นสุพรรณบัฏ ในราชทินนามที่สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ เป็นสมเด็จพระราชาคณะรูปสุดท้ายในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

วันอังคารที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

พัทยา เมืองท่องเที่ยวชายทะเลระดับโลก #แนะนำที่พักดีๆ

Pattaya City
 เที่ยวทะเลพัทยา กินลม ชมวิววสวย และแหล่งท่องเที่ยวหลากหลาย ธรรมชาติแสนงาม หรือ เที่ยวชมศาสนสถาน ศิลปะ วัฒนธรรมท้องถิ่น คาบาเร่โชว์ อาหารการกิน อีกทั้งยังมีสวนสัตว์ สวนน้ำหรือสวนสนุก ตลาดน้ำ ตลาดสด อาหารทะเลสดๆ ศูนย์รวม แหล่งซ็อปปิ้งนำสมัย หรือจะท่องราตรีให้สนุกสุดเหวี่ยงกันตลอดคืนในรูปแบบไนท์ เอ็นเตอร์เทนเมนต์หลายหลายรูปแบบ ร้านอาหารชั้นเลิศ ผับ บาร์ ตอบสนองความต้องการทุกไลฟ์สไตล์
ซึ่งในแต่ล่ะปี เมืองพัทยาจะตอนรับแขกบ้าน แขกเมือง นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศจำนวนมาก โดยเฉพาะในฤดูท่องเที่ยว หรือไฮ ซีซั่น (ราวเดือนพฤศจิกายนเรื่อยไปจนถึงพฤษภาคมปีถัดไป) มีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นทุกๆปี จากห้า หกล้านคนจนถึงราวเกือบสิบล้านคนต่อปีกันเลยทีเดียว (ส่วนหนึ่งเป็นนักท่องเที่ยวแบบลองเทอร์ม คือมาอยู่ยาวๆ เป็นสี่ ห้าเดือน จึงจะบินกลับ) ซึ่งนั่นคือเม็ดเงินมหาศาลที่เข้าสู่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในเมืองพัทยานับหลายพันล้านบาทต่อปี

 และนักท่องเที่ยวไทยเราเองก็เช่นกัน อยากไปเที่ยวทะเล คงมีที่นี่อยู่ในความคิดอยู่แล้วนะครับ เป็นซ้อยส์หนึ่งที่อยากไปเที่ยว...
เที่ยวทะเลพัทยา..... เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ใช่ไหมล่ะครับ

#พัทยาเมืองน่าเที่ยว
ผมขอแนะนำที่พักดีๆราคาโดนๆในพัทยาให้หนึ่งที่นะครับ

โรงแรมปาล์มการ์เด้น....  
โฉมไหม่ ไฉไลกว่าเดิม  ปรับปรุงใหม่ให้มีคุณภาพอยู่สม่ำเสมอ
ในช่วงสองสามปีนี้ มีการปรับปรุงหลังจบฤดูท่องเที่ยวให้พร้อมตอบสนองนักท่องเที่ยวอย่างดีขึ้นเรื่อยๆ เช่นทาสีใหม่ทั้งสามตึก เปลี่ยนตู้เย็นใหม่ เปลี่ยนแอร์ใหม่ ล่าสุดในปีนี้ได้ทำสระน้ำใหม่ ทาสีบาร์สระน้ำใหม่อีกด้วย พักผ่อนสบายๆ บรรยากาศร่มรื่น ในมารตฐานโรงแรมขนาดไม่ต้องใหญ่ สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน การเดินทางสะดวกสบาย นักท่องเที่ยวต่างชาติที่นี่ 80 % ขึ้นไปเป็นแขกประจำ ส่วนใหญ่เป็นชาวยุโรป ออสเตรเลีย และอเมริกา เข้าพักแบบลองเทอร์ม สาม สี่เดือนขึ้นไป ไม่มีแขกกรุ๊ปทัวร์เข้าพัก จึงทำให้สามารถพักผ่อนได้อย่างเป็นส่วนตัว สงบ และสะดวกสบาย...
....  วันหยุดสุดสัปดาห์ มาเที่ยวพัทยา เชิญลองมาพักที่

                  โรงแรมปาล์มการ์เด้น พัทยา
ริมถนนพัทยาสาย 2 ติดวงเวียนโลมา พัทยาเหนือ-ลงชายหาดพัทยา









พุทธศาสนสุภาษิต

นตฺถิ โลเก อนินทิโต
ผู้ไม่ถูกนินทา ไม่มีในโลก

-พุทธศาสนสุภาษิต-

พุทธศาสนสุภาษิต

หทยสูส สทิสี วาจา
วาจาเช่นเดียวกับจิตใจ

-พุทธศาสนสุภาษิต-

พุทธศาสนสุภาษิต

สากัจฺฉาย ปญฺญา เวทิตพฺพา
ความมีปัญญา ย่อมรู้ได้จากการสนทนา

-พุทธศาสนสุภาษิต-

วันจันทร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

คำคมธรรมะ เตือนใจ

หากมีปากไว้แค่กินข้าว
หรือนินทาชาวบ้าน
สู้เกิดเป็นใบ้ดีกว่า ยังไม่ต้องสร้างวจีกรรม

-คำคมธรรมะ เตือนใจ-

ความคิดของไอน์สไตน์


"ข้าพเจ้าไม่ใช่เป็นผู้มีสติปัญญาเลอเลิศแต่อย่างไร
แต่ข้าพเจ้าเป็นผู้มีความกร
ะหาย อยากรู้อยู่เสมอ
มีความพากเพียรในการค้นหาสิ
่งที่อยากรู้อย่างอดทนรวมทั้ง
วิจารณ์ตนเอง สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยนำมา
ซึ่งความคิดของข้าพเจ้า"

อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์

วันอาทิตย์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

อย่ารีบตัดสินความผิดของคนๆหนึ่ง เพียงเพราะคำตอบของเรา

ครูคนหนึ่งตั้งคำถามกับเด็กว่า " ถ้ามีเงินอยู่ 10 บาท ซื้อของ 3 บาท จะได้รับเงินทอนเท่าไร? "

เด็กส่วนใหญ่ตอบว่า
" 7 บาท "

แต่มีเด็ก 2คนที่ตอบไม่เหมือนกับคนอื่น

คนหนึ่งตอบว่า
" 2 บาท "

อีกคนหนึ่งตอบว่า
" ไม่ต้องทอน "

ครูถามเด็กคนแรกว่าทำไมถึงได้เงินทอน 2 บาท คำตอบที่ได้ก็ คือ ภาพในใจของเขาสำหรับเงิน10 บาท คือ เหรียญห้า 2 เหรียญ เมื่อซื้อของราคา 3 บาท เขาก็ให้เหรียญห้า 1 เหรียญ ดังนั้นจึงได้เงินทอน 2 บาท

ถามเด็กคนที่สองว่าทำไมไม่เหลือเงินทอนเลย คำตอบก็ คือ เด็กคนนี้คิดว่าในกระเป๋ามีเหรียญบาท 10 เหรียญ เมื่อซื้อของราคา 3 บาท เขาก็ส่งเหรียญบาทให้ 3 เหรียญ เพราะฉะนั้นคนขายจึงไม่ต้องทอนเงินให้เขา

โชคดีที่เป็นการถาม - ตอบในห้องเรียน
ลองนึกดูสิครับว่า
ถ้าโจทย์นี้เป็นข้อสอบ
ที่มีคำตอบเป็น ก-ข-ค-ง
เด็ก 2 คนนี้ก็คงไม่ได้คะแนน
จากคำตอบที่ผิดเพี้ยนจากคนส่วนใหญ่

การสร้างโจทย์ที่ " เสมือนจริง "
จินตนาการของ " ครู " อาจถูก
จำกัดเพียงแค่ " ตัวเลข "
แต่สำหรับเด็ก จินตนาการของเขาไร้กรอบ

10 บาท จึงสามารถเปลี่ยนเป็นเหรียญสิบ เหรียญห้า หรือ เหรียญบาทก็ได้ เดี๋ยวนี้เมืองไทยมีเหรียญ 2 บาท เราจึงได้คำ ตอบเพิ่มอีก 1 คำตอบ คือได้เงินทอน 1 บาท

โลกในห้องเรียนกับโลกของความเปป็นจริงนั้นแตกต่างกัน

-- โลกในห้องเรียนทุกคำถามส่วนใหญ่ มีเพียง 1 คำตอบ
-- แต่โลกของความเป็นจริง ทุกคำถามอาจมีคำตอบที่ถูกต้องได้เกิน 1 คำตอบ

อย่ารีบตัดสินความผิดถูกของคนๆ หนึ่ง
เพียงแค่ คำตอบ ของเรา
อย่าหยุดความคิดสร้างสรรค์ของคนๆ หนึ่ง
ด้วยกรอบความคิดของเรา

Cr : วิศวกรมนูญ

เลื่อนสมณศักดิ์พระพรหมคุณาภรณ์(ป.อ.ปยุตโต) ขึ้นเป็นสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์

การเลื่อนสมณศักดิ์ พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต) ขึ้นเป็นสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ เป็นการแทนที่ตำแหน่งนี้ของเจ้าอาวาสวัดสุทัศน์เทพวราราม ซึ่งมรณภาพเมื่อต้นปี เป็นเสมือนก้อนหินโยนตูมลงบนบ่อน้ำนิ่งสนิทของมหาเถรสมาคม

พระพรหมคุณาภรณ์เป็นเจ้าอาวาสวัดธรรมดาแห่งหนึ่งที่นครปฐม ไม่มีเส้นสายการเมือง อยู่ดีๆ ก็โผล่มา แน่นอน - ด้วยความยินดีของชาวพุทธจำนวนมาก เพราะในรอบหลายปีนี้ ข่าวเกี่ยวกับวงการสงฆ์มัวหมองมืดมนเสียจนชาวพุทธส่ายหน้า หลายคนถามซ้ำซากว่าผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องทำอะไรกันอยู่ ทำไมปล่อยให้อลัชชีครองเมือง ศาสนาพุทธสูญพันธุ์ไปแล้วหรือไม่

และเมืองไทยยังมีพระดีหลงเหลืออยู่หรือเปล่า

ดังนั้นการขึ้นสู่ตำแหน่งของพระสายพันธุ์ 'endangered species' จึงเป็นเรื่องน่ายินดี

เรื่องนี้มีความนัยอะไรหรือไม่?

ข่าวนี้ย่อมสร้างความหวังให้ชาวเราบ้างว่า เป็นไปได้ไหมว่านี่คือก้าวแรกของการสังคายนามหาเถรสมาคม? เพราะตำแหน่งนี้ส่งท่านเข้าไปเป็นกรรมการของ ม.ส. โดยอัตโนมัติ

พระพรหมคุณาภรณ์เป็นพระที่เป็นพระ ไม่มีรังสีเปล่งออกจากหัว ไม่มีความสามารถพิเศษขึ้นสวรรค์ชั้นไหน เป็นคนไทยคนแรกที่ได้รับรางวัล Prize for Peace Education จากองค์การ UNESCO

พูดสั้นๆ คือ เป็นพระปราชญ์ ไม่ใช่พระทำมาหารับประทาน

และที่น่าสนใจอย่างยิ่งคือเป็นพระผู้เขียนต่อต้านลัทธิธรรมกายมาแต่แรก

ส. ศิวรักษ์ เคยเขียนไว้เมื่อต้นปีนี้ว่า "แท้ที่จริง ถ้าสมเด็จพระสังฆราชไม่ทรงพระประชวร และทรงบัญชาการพระศาสนาได้ ย่อมต้องเสนอให้พระพรหมคุณาภรณ์ (ประยุทธ์ ปยุตฺโต) ขึ้นเป็นสมเด็จพระพุฒาจารย์แท้ทีเดียว เพราะเจ้าพระคุณสมเด็จทรงยกย่องพระเถระรูปนี้ตลอดมา ทรงถือว่าพระคุณท่านเป็นเพชรเม็ดเอกของพระศาสนาเอาเลยทีเดียว"

ต่อให้เป็นเสียงเดียวในมหาวาตะแห่งพุทธพาณิชย์ ด้วยตำแหน่งระดับนี้ หากจัดการเรื่องประชาสัมพันธ์ได้ถูกจุด ก็อาจอาศัยกระแสสังคมช่วยสร้างแรงกระเพื่อม นำพาวงการสงฆ์สู่แผ่นดินธรรมจริงๆ สักที (หรือเปล่า?)

ชักตื่นเต้น!

………………..

ขอขอบคุณบทความโดย : วินทร์ เลียววาริณ
เฟซบุ๊ค https://www.facebook.com/winlyovarin/


วันเสาร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

สุขพอที่พ่อสอน

"..คนที่จะสามารถเหมาะจะทำงานใช้ชาตินั้น จำเป็นจะต้องมีใจตั้งมั่นในการงาน มีความอดทนเสียสละ มีความอุตสาหะพยายามไม่ขาดสาย และที่สำคัญกว่าอื่น จะต้องมีความคิดความเข้าใจที่กระจ่าง แน่นอน และเที่ยงตรงตามเหตุผลและความจริง..."

#สุขพอที่พ่อสอน

วันศุกร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

การเห็นพระองค์โดยแท้จริงมีอย่างเดียววิธีเดียวเท่านั้น คือการเห็นธรรม

เมื่อพระองค์ยังทรงอยู่ก็ดี เมื่อทรงล่วงลับไปแล้วโดยพระกายก็ดี การเห็นพระองค์โดยแท้จริงมีอย่างเดียววิธีเดียวเท่านั้น คือการเห็นธรรม

จาก ความลับสุดยอด
พุทธทาสภิกขุ

…………
Cr.
เฟซบุ๊ค https://www.facebook.com/winlyovarin/
ภาพโดย Dhanes Wongtun-yakorn


วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

"พุทธธรรม" โดย พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)

"ตามหลักพุทธธรรม ย่อมไม่มีสิ่งที่อยู่เหนือธรรมชาติ หรือนอกเหนือธรรมชาติ ในแง่ที่ว่ามีอิทธิฤทธิ์บันดาลความเป็นไปในธรรมชาติได้ หรือแม้ในแง่ที่ว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างหนึ่งอย่างใดกับความเป็นไปในธรรมชาติ สิ่งใดอยู่นอกเหนือธรรมชาติ สิ่งนั้นย่อมไม่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติ คือย่อมพ้นจากธรรมชาติสิ้นเชิง สิ่งใดเกี่ยวข้องกับธรรมชาติ สิ่งนั้นไม่อยู่นอกเหนือธรรมชาติ แต่ต้องเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ

อนึ่ง กระบวนการความเป็นไปทั้งปวงในธรรมชาติย่อมเป็นไปตามตามเหตุปัจจัย ไม่มีความเป็นไปลอยๆ และไม่มีการบันดาลให้เกิดขึ้นได้โดยปราศจากเหตุปัจจัย ความเป็นไปที่ประหลาดน่าเหลือเชื่อ ดูเป็นอิทธิปาฏิหารย์ หรืออัศจรรย์ใดๆ ก็ตาม ย่อมเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นและเป็นไปตามเหตุปัจจัยทั้งสิ้น แต่ในกรณีที่เหตุปัจจัยในเรื่องนั้นสลับซับซ้อนและยังไม่ถูกรู้เท่าทัน เรื่องนั้นก็กลายเป็นเรื่องประหลาดอัศจรรย์ แต่ความประหลาดอัศจรรย์จะหมดไปทันทีเมื่อเหตุปัจจัยต่างๆ ในเรื่องนั้นถูกรู้เท่าทันหมดสิ้น ดังนั้น คำว่าสิ่งเหนือหรือนอกเหนือธรรมชาติจึงเป็นเพียงสำนวนภาษาเท่านั้น ไม่มีอยู่จริง"

จาก "พุทธธรรม" โดย พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)

ที่มาข่าวสารโดย Ekkapop Sittiwantana

วันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

งดเข้าถวายสักการะพระบรมศพ วันที่ 1-2 ธันวาคม นี้

เมื่อเวลา 19.45 น. วันที่ 22 พ.ย. สำนักพระราชวังแจ้งว่า สำนักพระราชวังจะปิดการจำหน่ายบัตรเข้าชมพระบรมมหาราชวังสำหรับนักท่องเที่ยว และงดการเข้าถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง เนื่องในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลปัญญาสมวาร (50 วัน) ในวันที่ 1-2 ธ.ค. 2559 เป็นเวลา 2 วัน
สำหรับวันจันทร์ที่ 5 ธ.ค. 2559 และวันอังคารที่ 6 ธ.ค. 2559 จะมีพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ สำนักพระราชวังจะปิดการจำหน่ายบัตรเข้าชมพระบรมมหาราชวังสำหรับนักท่องเที่ยว ทั้ง 2 วัน แต่ยังคงเปิดให้ประชาชนเข้าถวายสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ได้ตามปกติ

วันจันทร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

ข้าวหอมสุรินทร์เก็บเกี่ยวใหม่ๆในราคาพิเศษสุด จากชาวนาโดยตรง

ข้าวหอมสุรินทร์แท้
เก็บเกี่ยวเสร็จใหม่ๆ 
โดยตรงจากชาวนา   ไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง
ข้าวหอมใหม่อย่างดี
ในราคาข้าวขาวธรรมดาตามห้าง

จากชาวนา บ้านหนองคู ตำบลพระแก้ว อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์
สั่งซื้อจำนวนมากยินดีส่งให้ถึงที่ 
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม 
โทรฯ : 09-1678-7156 
คุณกัณณิกา(นาง)

วันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

รู้ในสิ่งที่ควรรู้

การรู้ นั้นสำคัญ...
คือต้อง รู้ให้เท่า รู้ให้ทัน รู้ให้แจ้ง...

1.บางคนรู้ ว่าตัวเองรู้...
2.บางคนรู้ ว่าตัวเองไม่รู้... ส่วนจะไปใฝ่รู้หรือไม่......แล้วแต่ แต่ละคนไป...
3.บางคนไม่รู้ ว่าตัวรู้... คือเก่ง คือรู้...แต่ถูกคนอื่นพูดซะจนงงไปหมด...เลยสงสัยในสิ่งที่ตัวเองได้รู้มา...ส่วนจะไปหาคำตอบให้ตัวเองหรือไม่...
4.บางคน... ไม่รู้ ว่าตัวเองไม่รู้...ได้แต่รอโอกาส รอความรู้...เพราะไม่รู้ว่าจะต้องไปไขว่คว้า...เพราะไม่รู้ว่าต้องไปหาโอกาส...เพราะไม่รู้จริงๆ ว่าตัวเอง ยังไม่รู้ในเรื่องอะไร...

บางคนคิดว่าตัวเองรู้... แต่ไม่รู้..นึกว่าตัวเองรู้... แต่แท้จริง ไม่รู้...คนพวกนี้น่าสงสาร... หวังว่าวันหนึ่ง คงจะหาทางให้ตัวเองได้รู้...หรือจะจ่อมจมงมอยู่กับสิ่งที่หลงเชื่อ... สักวันหนึ่ง ก็น่าจะได้รู้...

จากบทความ โดย หาวเป็นดาวเดือน


วันเสาร์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

สุขพอที่พ่อสอน

การพยายามศึกษาวิทยาการและเทคโนโลยีอันก้าวหน้าทุกสาขาจากทั่วโลก แล้วเลือกสรรส่วนที่สำคัญเป็นประโยชน์ นำมาปรับปรุงใช้ให้พอดีพอเหมาะกับสภาพและฐานะของประเทศของเรา เพื่อช่วยให้ประเทศของเราสามารถนำเทคโนโลยีอันทันสมัยมาใช้พัฒนางานต่างๆได้อย่างมีประสิทธิพภาพและไม่สิ้นเปลือง

พระบรมราโชวาท ในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินเปิดงาน พระจอมเกล้าลาดกระบังนิทรรศ์ ๒๖ ณ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า วิทยาเขตเจ้าคุณทหารลาดกระบัง วันพฤหัสบดีที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๒๖ #สุขพอที่พ่อสอน

วันพุธที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

สุขพอที่พ่อสอน

ความพอเพียงนี้ ก็แปลว่า ความพอประมาณ และความมีเหตุผล พอเพียงนี้อาจจะมีมาก อาจจะมีของหรูหราก็ได้ แต่ว่าต้องไม่ไปเบียดเบียนคนอื่น ต้องให้พอประมาณตามอัตภาพ

พระราชดำรัส พระราชทานแก่คณะบุคคลต่างๆ ที่เข้าเฝ้าฯถวายชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต วันพฤหัสบดีที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๔๑

  #สุขพอที่พ่อสอน

วันศุกร์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

ข้ามหอมมะลิ อ.โนนนารายณ์ จ.สุรินทร์ ได้นำข้าวเปลือกมาสีและขายตรงสู่ผู้บริโภค


ข้ามหอมมะลิ อ.โนนนารายณ์ จ.สุรินทร์ ได้นำข้าวเปลือกมาสีและขายตรงสู่ผู้บริโภค

สั่งซื้อข้าวสารตามนี้
- ข้าวใหม่ ก.ก. ละ 30 บาท
- ข้าวเก่า ก.ก. ละ 20 บาท

เบอร์ ติดต่อ : 091-350-1738

วันพฤหัสบดีที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

หัวรบรุ่นใหม่ RS28 Sarmart (รัสเซีย) พลังทำลายล้างเทียบเท่าที่ทำลายฮิโรชิมาและนางาซากิถึง2,000ครั้ง

นับวันรอยร้าวความขัดแย้งของมหาอำนาจของโลก ระหว่างรัสเซีย กับทวีปยุโรป และสหรัฐฯ ก็เริ่มเห็นชัดขึ้นมากขึ้นไปทุกที ทำให้ต่างคนต่างระแวงกันทั้งสองฝ่าย และแน่นอนการประกาศว่าตนมีอาวุธทำลายล้างสูง ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่รัสเซีย ได้เผยให้เห็น ดังนั้น วันนี้เราจะไปทำความรู้จักกับ หัวรบนิวเคลียร์รุ่นใหม่ ที่เป็นไปได้ว่ามันอาจถูกใช้ในสงครามโลกครั้งที่ 3 หากทั้ง 2 ฝ่ายเปิดฉากทำสงครามขึ้น
เจ้าหัวรบรุ่นใหม่ ที่รัสเซียได้พัฒนาขึ้น RS-28 Sarmat หรือ ซาตาน 2 ที่ขนานนามโดยกองกำลังนาโต้ มันสามารถเดินทางได้ด้วยความเร็ว 4.3 ไมล์ต่อวินาที ราว 400 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่แบกน้ำหนักระเบิดนิวเคลียร์ 40 เมกาตัน ซึ่งมีพลังทำลายล้างเทียบเท่า นิวเคลียร์ที่ทำลาย ฮิโรชิมา และนางาซากิ ในปี 1945 ถึง 2,000 ครั้งเลยทีเดียวยิงได้ไกลกว่า 10,000 กิโลเมตร เป็นขีปนาวุธข้ามทวีป ที่ทำลาย ลอนดอน ของอังกฤษ และสหรัฐอเมริกาได้อย่างสบายๆ

ทำไม ชาวนาญี่ปุ่น จึงรวย?

ทำไม ชาวนาญี่ปุ่น จึงรวย?
ในช่วงไตรมาส4 ของทุกปี เราจะพบว่า มีชาวญี่ปุ่น มาเล่นกอล์ฟ ที่ประเทศไทย มากมาย หลายคนคงไม่รู้ว่า มากกว่าครึ่งนั้น พวกเขาคือชาวนา ที่มาท่องเที่ยวพักผ่อน ชาวนาญี่ปุ่นรวย มีความสามารถที่จะกันเงินส่วนหนึ่งออกท่องเที่ยวไปทั่วโลก บางคนสงสัยว่า ทำไมชาวนาญี่ปุ่น จึงร่ำรวย ในขณะที่ชาวนาไทย จึงยากจน อย่าว่าแต่จะเก็บเงินไปท่องเที่ยวเลย เพียงแค่ให้สามารถดำรงชีพได้ ไม่เป็นหนี้ ก็ยังไม่สามารถทำได้
ชาวนาญี่ปุ่น มาถึงวันนี้ได้ ไม่ใช่เพราะญี่ปุ่นคิดและทำเอง แต่เพราะคนญี่ปุ่นมีวินัย เมื่อเห็นว่าใครมาวางพื้นฐานที่ดีให้ พวกเขาสานต่อและพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นๆ
ชาวนาญี่ปุ่นรวยเพราะ ญี่ปุ่นแพ้สงครามในสงครามโลกครั้งที่2 ในสงครามครั้งนั้น แม้จะสูญเสียอย่างใหญ่หลวง เพราะโดนระเบิดปรมาณูถึง2 ลูก ที่ฮิโรชิมาและนางาซากิ ผู้คนตายหลายแสน กัมมันตภาพรังสีตกค้างจนมีคนพิการมากมายเป็นล้านคน
แต่ในความโชคร้ายนั้น ก็มีโชคดีที่ส่งผลให้ชาวนาญี่ปุ่นกลายเป็นกลุ่มคนที่มีรายได้สูง เป็นกลุ่มอาชีพ ที่ร่ำรวยจากการทำนา ของญี่ปุ่นในปัจจุบัน
เมื่อสหรัฐอเมริกา ชนะสงครามเหนือญี่ปุ่น รัฐบาลสหรัฐได้ส่งกองกำลังทางทหารเข้าปกครองเหนือรัฐบาลญี่ปุ่น สหรัฐมองว่า การแพ้สงครามครั้งนี้ ญี่ปุ่นบอกช้ำมาก มากถึงระดับที่หากไม่แก้ไข ภาระความรับผิดชอบต่อการหิวโหย อดอยาก ขาดอาหารของประชาชนชาวญี่ปุ่น ต้องตกแก่รัฐบาลสหรัฐอเมริกา เป็นแน่แท้
ในสมัยนั้น สภาพสังคมของญี่ปุ่น เจ้าของที่ดินรายใหญ่ จะเป็นราชวงศ์ ขุนนาง และพ่อค้าคหบดี เท่านั้น ชาวนาส่วนใหญ่ ต้องเช่าที่ดินของคนกลุ่มนี้ ซึ่งราคาค่าเช่า ขึ้นอยู่กับเจ้าของที่ดิน อีกทั้งเมื่อเกิดผลผลิตขึ้นมา ต้องขายให้เจ้าของที่ดิน เพราะภาวะหลังสงคราม อาหารไม่เพียงพอ ผลผลิตข้าว จะตั้งราคาขายให้สูงอย่างไรก็ได้ ผลที่เกิดขึ้นคือ ชาวนาผู้ปลูกยากจน แต่เจ้าของที่ดินร่ำรวยมหาศาล
ในปี 1946 รัฐบาลสหรัฐ จึงใช้อำนาจทางทหาร สั่งให้รัฐบาลญี่ปุ่น ปฏิรูปที่ดิน ทั้งประเทศ โดยบังคับให้เจ้าของที่ดินรายใหญ่ ที่กล่าวมาแล้ว ข้างต้น ขายที่ดินให้รัฐบาล ใครคัดค้านโดนจับโดนยึดทรัพย์ แล้วรัฐบาลก็เอาที่ดินเหล่านั้น มาแบ่งขายให้เกษตรกร ที่ทำการเกษตรด้วยตัวเองแต่ไม่มีที่ดินทำกิน โดยให้สามารถผ่อนจ่ายได้ ตามรอบของผลิตผลที่ออกมา โดยราคาขายรัฐบาลตั้งไว้เป็นที่แน่นอน ไม่ขึ้นลงตามสภาพตลาด
ในภาวะ หลังสงคราม ของกินของใช้มีน้อย พ่อค้ากำหนดราคาขายที่สูงได้ เกิดภาวะเงินคั่งอยู่ในกลุ่มพ่อค้า แต่ผู้บริโภคไม่มีเงิน ขาดความสมดุล รัฐบาลต้องพิมพ์เงินเติมเข้าไปในกลุ่มผู้บริโภค จึงส่งผลให้เกิดเงินเฟ้อ ค่าของเงินมีค่าต่ำ ข้าวกิโลกรัม เดียวต้องใช้เงินเป็น1000 เยน แต่ในความโชคร้ายนั้น กลับเป็นโอกาสให้ ชาวนามีเงินในมือมากพอที่จะชำระค่าที่ดินได้ เพราะราคาที่ดินไม่ได้ขึ้นตามภาวะเงินเฟ้อ
มาตรการนี้ ได้รับการชื่นชมไปทั่วโลกว่าเป็นการปฏิรูปเชิงเกษตรที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด เพราะ นอกจากทำให้ชาวนามีที่ดินเป็นของตัวเองแล้ว ยังเป็นการปลดพันธนาการ ระหว่างนายทุน นายเงิน กับ ชาวนา ออกจากกันได้ ทำให้ชาวนาเริ่มมีอิสระ ที่แท้จริงในการประกอบอาชีพ
ต่อมา เป็นกฎเกณฑ์สำคัญ ที่ทำให้ชาวนา เป็นอาชีพที่มั่นคง และร่ำรวยในปัจจุบัน
ในประเทศญี่ปุ่นนั้น ไม่ใช่ใครอยากจะทำนาก็เข้าไปทำได้ คนจะเป็นชาวนาได้ ต้องใช้วิธีสืบทอด เท่านั้น หมายถึงพ่อเป็นชาวนา เมื่อพ่อทำไม่ไหว คนที่จะทำต่อได้ต้องเป็นลูกหรือผู้เข้ารับมรดก แทนที่เท่านั้น หากประชาชนทั่วไป อยากมาทำนา ต้องเข้าระบบสหกรณ์ รัฐจะจัดสรรที่ดินให้ทำ โดยไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินดังกล่าว
มาถึงตรงนี้ พอเห็นภาพแล้วใช่ไหมว่า การทำนาในประเทศญี่ปุ่น ถูกควบคุมด้วยปริมาณ ทำให้รัฐบาลรับรู้ถึงผลผลิตที่จะออกมาว่า เกินการบริโภคภายในจำนวนเท่าไร ส่วนที่เกินจะเอาไปขายที่ใหน
  ต่อมา เป็นยุคของการพัฒนา
ในปี 2005 เกิดการปฏิวัติเขียว คือการเอาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี่เข้ามาใช้ในวงการเกษตร (ผมเคยเขียนไปแล้วเรื่องการปฏิวัติเขียว) ญี่ปุ่นก็ขึ้นขบวนรถไฟขบวนนี้ด้วย(แต่ไทย ไม่รู้แม้กระทั่ง มีรถไฟขบวนนี้ ฮา)
ญี่ปุ่นได้ทำการวิจัย เพื่อสร้างข้าวพันธุ์ใหม่ขึ้นมาด้วยวิธีการตัดต่อยีน โดยตั้งโจทย์ของงานวิจัยไว้ว่า
1.ทนทานโรคและแมลง
2.ทนอากาศหนาว
3.ต้นเตี้ย
4.แตกกอดี
5.ผลผลิตสูง
6.ปริมาณสารอาหารสูง
7.รสชาติดี
8.ระยะเวลาเก็บเกี่ยวสั้น
9.ตอบสนองการเจริญเติบโต ด้วยสารอาหารจากอินทรีย์ (ศูนย์วิจัยข้าวไทย กระตุ้นด้วยเคมีล้วนๆ มูลนิธิข้าวขวัญทำข้าวอินทรีย์ต้องใช้วิธีค่อยๆเก็บพันธุ์ด้วยตนเอง)
10.เมื่อนำไปสี ได้ปริมาณข้าวสารเมล็ดเต็มสูง(ข้าวญี่ปุ่นได้ข้าวเมล็ดเต็ม 60% นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไม จึงวิจัยออกมาให้ ข้าวญี่ปุ่นจึงเมล็ดสั้น ส่วนข้าวไทย ได้ข้าวต้น (ข้าวเต็มเมล็ด) 40-45% ข้าวหักใหญ่(ยี่จ้อ) 5% ข้าวหักกลาง(ซาห่อ) 5-10% ข้าวหักเล็ก(ก๊วย) 10-15% ที่เหลือเป็นรำ เป็นแกลบ)
ด้วยการวางมาตรการที่ผ่านมา ทำให้ปริมาณผลผลิตของข้าวญี่ปุ่น ควบคุมได้ ไม่เกิดการล้นตลาดเป็นพันธุ์เฉพาะตัว เพราะวิจัยสายพันธุ์ใหม่ มีสารอาหารสูง แปลงสภาพจากข้าวเปลือกเป็นข้าวสาร ได้ปริมาณสูง ถึง 60% จึงทำให้ราคาข้าวของญี่ปุ่นมีราคาสูงและนิ่ง ระยะเวลาเก็บเกี่ยวสั้น ทนสภาพอากาศ ทนต่อโรคและแมลง จึงเป็นผลให้มีต้นทุนการปลูกต่ำ เมื่อต้นทุนต่ำ ราคาขายสูง ชาวนาญี่ปุ่น จึงร่ำรวยอย่างที่เราเห็นกัน
ลองเปรียบเทียบเอาเองครับว่า แต่ละช่วงเวลาของการพัฒนาการ ชาวนาไทย กับ ชาวนาญี่ปุ่น ต่างกันมากมายขนาดใหน วิสัยทัศน์รัฐบาลเรา กับรัฐบาลเขา จากอดีต จนถึงปัจจุบันแตกต่างกันอย่างไร ชาวนาเรากับชาวนาเขามีวินัย แตกต่างกันอย่างไร ทุกอย่างล้วนมีที่มาที่ไปทั้งสิ้น นี่ยังไม่ได้กล่าวถึงสวัสดิการ โครงสร้างพื้นฐาน ทั้งถนนคอนกรีต ที่รัฐบาลทำไปจนถึงที่นาให้ขนปัจจัยและผลผลิต ระบบไฟฟ้า ที่ทำไปถึงที่นาให้สูบน้ำ เลยนะครับ
โดย นายเกษตรดี

ขอบคุณเรื่องราวดี ๆ จากเว็บไซค์ kasetdee

วันพุธที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

ข่าวฝากจากชาวนา




ชาวนาเขวาสินรินทร์ฮึดสู้ !!! ซื้อเครื่องสีข้าวขายข้าวสารเอง
ชาวนาชุมชนเขวาสินรินทร์ โดยได้รับเรื่องราวจาก คุณสุพจน์  คนึงเพียร ชาวนาบ้านตระแบกใหญ่  หมู่ 10 ต.เขวาสินรินทร์ อ.เขวาสินรินทร์  จ.สุรินทร์ ชาวนาผู้มีไอเดียซื้อเครื่องสีข้าวขนาดเล็ก ราคา 15,000 บาท นำมาสีข้าวในครอบครัวเพื่อบรรจุถุงขายเองในสภาวะทวนกระแสที่ข้าวเปลือกราคากิโลกรัมละ 5 บาทในช่วงนี้   คุณสุพจน์ คนึงเพียร เล่าว่า "ชีวิตต้องสู้ อยู่เพื่อวันพรุ่งนี้มาดูโรงสีขนาดเล็กสีข้าวได้เร็วคุณภาพเยี่ยม แกลบไม่มีมีแต่รำต้องสีข้าวสารขายแล้วครับท่าน"

Credit : ชุมชนเขวาสินรินทร์

วันอังคารที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

ข่าวฝากจากชาวนา ฝ่าวิกฤตราคาข้าว

ชาวตำบลสะกาด อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ผ่าวิกฤตราคาข้าว ด้วยการรวมกลุ่มสีข้าวหอมมะลิขายเอง 
โดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง
สั่งซื้อติดต่อ นายเมธา ขอชัย ปลัด อบต.สะกาด
098-121-8398 หรือ 093-4545-979,
096-416-9165 


(โฆษณาฟรี สำหรับพี่น้องชาวนา)

++++++++++++++++++++++++
พ่อ แม่ พี่ น้อง ชาวนาทุกๆท่านครับ
 
   ท่านใดที่กำลังจะขายข้าวสารเอง ปลูกเอง ขายเอง  ผมยินดีเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการช่วยประสาสัมพันธ์ผ่านทางเวปบล็อกของผมทั้ง 4 บล็อกนะครับ ผมจะวางโฆษณาในด้านบนหรือด้านล่างบทความในหน้าเวปฯให้ท่านฟรีครับ แค่ท่านส่งรายละเอียด รูปถ่าย และเบอร์โทรศัพท์ ซึ่งผมจะลงไว้ให้ผู้ที่สนใจติดต่อกับท่านผู้จำหน่ายโดยตรงครับ
  ผมแค่จะช่วยโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้ท่านเท่านั้น
แม้เวปฯติ๊งต๊องของผมจะไม่หวือหวาอะไรนัก แต่ก็พอมีผู้เข้าชมอยู่ราวๆเกือบห้าหมื่นคน น่าจะพอช่วยท่านได้บ้าง เผื่อจะมีคนสนใจซื้อข้าวสารโดยตรงจากชาวนาอยู่บ้างไม่มากก็น้อยนะครับ

   บล็อกผมเชื่อมกับโชเซียลเน็ตเวอร์คเกือบทุกแฟลตฟอร์มครับ จะเผยแพร่อัตโนมัติและโฆษณาจะไปทุกๆบทความที่เผยแพร่ครับ
Facebook,Tweeter,Line Aplication,Google+ เป็นต้นครับ

ส่งรายละเอียดมาให้ผมที่ Line id : subankampaeng
ติดต่อสอบถาม Mobile : 089-6035977 นะครับ

คำสอนหลวงพ่อชา สุภัทโท

อะไรมันหนัก ก็วางลงเถิด
สิ่งที่พระพุทธเจ้าสอนมีเพียงเท่านี้

-หลวงพ่อชา สุภัทโท-

-------------------------------------------------
พ่อ แม่ พี่ น้อง ชาวนาทุกๆท่านครับ
 
 ท่านใดที่กำลังจะขายข้าวสารเอง ปลูกเอง ขายเอง  ผมยินดีเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการช่วยประสาสัมพันธ์ผ่านทางเวปบล็อกของผมทั้ง 4 บล็อกนะครับ ผมจะลงโฆษณาในเฟลตฟอร์มด้านบนหรือด้านล่างบทความในเวปฯให้ท่านฟรีครับ แค่ท่านส่งรายละเอียด รูปถ่าย และเบอร์โทรศัพท์ ซึ่งผมจะลงไว้ให้ผู้ที่สนใจติดต่อกับท่านผู้จำหน่ายโดยตรงครับ
  ผมแค่จะช่วยโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้ท่านเท่านั้น
แม้เวปฯติ๊งต๊องของผมจะไม่หวือหวาอะไรนัก แต่ก็พอมีผู้เข้าชมอยู่ราวๆเกือบห้าหมื่นคน น่าจะพอช่วยท่านได้บ้างนะครับ

   บล็อกผมเชื่อมกับโชเซียลเน็ตเวอร์คเกือบทุกแฟลตฟอร์มครับ
Facebook,Tweeter,Line Aplication,Google+ เป็นต้นครับ

ส่งรายละเอียดมาให้ผมที่ Line id : subankampaeng
ติดต่อสอบถาม Mobile : 089-6035977 นะครับ
(ตัวอย่างรายละเอียดครับ)
++++++++++++++++++++++++++++++++++
 (โฆษณาฟรี สำหรับพี่น้องชาวนา)
ชาวตำบลสะกาด อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ผ่าวิกฤตราคาข้าว ด้วยการรวมกลุ่มสีข้าวหอมมะลิขายเอง โดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง
สั่งซื้อติดต่อ นายเมธา ขอชัย ปลัด อบต.สะกาด
098-121-8398 หรือ 093-4545-979,096-416-9165


วันจันทร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2559

ช่วยชาวนาประชาสัมพันธ์ขายขาวสารโดยตรงจากชาวนาเอง

พ่อ แม่ พี่ น้อง ชาวนาทุกๆท่านครับ
 
 ท่านใดที่กำลังจะขายข้าวสารเอง ปลูกเอง ขายเอง  ผมยินดีเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการช่วยประสาสัมพันธ์ผ่านทางเวปบล็อกของผมทั้ง 4 บล็อกนะครับ ผมจะลงโฆษณาในเฟลตฟอร์มด้านบนหรือด้านล่างบทความในเวปฯให้ท่านฟรีครับ แค่ท่านส่งรายละเอียด รูปถ่าย และเบอร์โทรศัพท์ ซึ่งผมจะลงไว้ให้ผู้ที่สนใจติดต่อกับท่านผู้จำหน่ายโดยตรงครับ
  ผมแค่จะช่วยโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้ท่านเท่านั้น
แม้เวปฯติ๊งต๊องของผมจะไม่หวือหวาอะไรนัก แต่ก็พอมีผู้เข้าชมอยู่ราวๆเกือบห้าหมื่นคน น่าจะพอช่วยท่านได้บ้างนะครับ

   บล็อกผมเชื่อมกับโชเซียลเน็ตเวอร์คเกือบทุกแฟลตฟอร์มครับ
Facebook,Tweeter,Line Aplication,Google+ เป็นต้นครับ

ส่งรายละเอียดมาให้ผมที่ Line id : subankampaeng
ติดต่อสอบถาม Mobile : 089-6035977 นะครับ
(ตัวอย่างรายละเอียดครับ)
++++++++++++++++++++++++++++++++++
 (โฆษณาฟรี สำหรับพี่น้องชาวนา)
ชาวตำบลสะกาด อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ผ่าวิกฤตราคาข้าว ด้วยการรวมกลุ่มสีข้าวหอมมะลิขายเอง โดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง
สั่งซื้อติดต่อ นายเมธา ขอชัย ปลัด อบต.สะกาด
098-121-8398 หรือ 093-4545-979,096-416-9165


วันอาทิตย์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2559

10 พฤติกรรม "ไลค์ เม้นท์ แชร์ โพสต์ เสี่ยงคุก" ที่ประชาชนมักกระทำผิดไว้ ประกอบด้วย

10 พฤติกรรม "ไลค์ เม้นท์ แชร์ โพสต์ เสี่ยงคุก" ที่ประชาชนมักกระทำผิดไว้ ประกอบด้วย


1.การอัพโหลดรูปลามกอนาจาร ทั้งรูปตัวเอง และบุคคลอื่น
2.ตั้งตัวเป็นเจ้ากรมข่าวลือ ปล่อยข่าวให้บ้านเมืองเกิดความชุลมุนวุ่นวาย 3.ชอบใช้วิทยายุทธเฉพาะตัว คือ การตัดต่อภาพบุคคลอื่นทั้งภาพนิ่ง และภาพเคลื่อนไหว มาเผยแพร่ทางอินเทอร์เนต ทำให้เจ้าของภาพ เสียหาย อับอาย
4.แอบบันทึกข้อมูลของผู้อื่น แล้วนำไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว เพื่อหากำไร หรือ ใช้กลั่นแกล้ง
5.ใส่ร้ายป้ายสีคนอื่น หรือ กุเรื่องให้บุคคลอื่นเสียหาย อับอาย
6.มีความอยากรู้อยากเห็นสูง หรือ เรื่องชาวบ้านคืองานของเรา คือการ นำ ไอดี หรือ พาสเวิร์ด บุคคลอื่น ไปใช้เพื่อแอบดูข้อมูล
7.แก้ไขเพิ่มเติมไฟล์งานของบุคคลอื่น ทำให้เกิดความเสียหายแก่เจ้าของไฟล์
8.ส่งอีเมล์ลูกโซ่โดยไม่บอกที่มา หรือ ส่งอีเมล์ที่ขายสินค้าที่ผู้รับไม่ต้องการ สร้าวความเบื่อหน่ายและรำคาญ
9. ตั้งสำนักข่าวเป็นของตัวเอง หรือ กดแชร์ข้อมูล ทั้งในแอพพลิเคชั่น ไลน์ เฟสบุ๊ก และ ทวิตเตอร์ โดยไม่ตรวจสอบและเป็นข้อความที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และ
10. การโพสต์ข้อความหมิ่นสถาบันเบื้องสูง


วันอาทิตย์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2559

วันออกพรรษา 2559

วันออกพรรษา เข้าพรรษา เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "วันมหาปวารณา" คือ วันที่สิ้นสุดระยะการจำพรรษาของพระเป็นเวลา 3 เดือน หรือพูดง่ายๆ ว่า วันสุดท้ายที่ต้องอยู่จำพรรษาในแต่ละปี และพระสงฆ์จะต้องอยู่ให้ครบอีกหนึ่งราตรีจึงจะครบถ้วนบริบูรณ์ ในวันออกพรรษานี้พระสงฆ์จะประกอบพิธีทำสังฆกรรมใหญ่ เรียกว่า มหาปวารณา ถือเป็นการเปิดโอกาสให้ภิกษุว่ากล่าวตักเตือนกันด้วยจิตที่เมตตา เพราะในช่วงระหว่างเข้าพรรษา พระสงฆ์บางรูปอาจมีข้อบกพร่องที่ต้องแก้ไข และยังเปิดโอกาสให้ซักถามข้อสงสัยซึ่งกันและกันด้วย

วันเข้าพรรษาของประเทศไทย

ถือเป็นโอกาสอันดีที่พุทธศาสนิกชนจะเข้าวัดเพื่อบำเพ็ญกุศลแก่พระสงฆ์ที่ตั้งใจจำพรรษาและตั้งใจปฏิบัติธรรมมาตลอดจนครบไตรมาสพรรษากาลในวันออกพรรษา และวันถัดจากวันออกพรรษา 1 วัน ก็ได้มีการทำบุญตักบาตรครั้งใหญ่ เรียกว่า ตักบาตรเทโว หรือ ตักบาตรเทโวโรหณะ เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์สำคัญในพุทธประวัติ นอกจากนี้ ช่วงเวลาออกพรรษายังถือเป็นเวลากฐินกาลตามพระวินัยปิฎกเถรวาท เป็นช่วงเวลาที่พุทธศาสนิกชนชาวไทยจะเข้าร่วมบำเพ็ญกุศลเนื่องในงานกฐินประจำปีในวัดต่าง ๆ ด้วย โดยถือว่าเป็นงานบำเพ็ญกุศลที่ได้บุญกุศลมาก

วันที่ใช้จัดกิจกรรมในวันออกพรรษา

วันที่ใช้จัดกิจกรรมในวันออกพรรษา จะตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือนสิบเอ็ด(๑๑) หลังวันเข้าพรรษา 3 เดือน 

ปฏิทินวันออกพรรษา

วันออกพรรษา พ.ศ.2550 ตรงกับ วันศุกร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ.2550 / วันศุกร์ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือนสิบเอ็ด(๑๑) ปีกุน
วันออกพรรษา พ.ศ.2551 ตรงกับ วันอังคารที่ 14 ตุลาคม พ.ศ.2551 / วันอังคาร ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือนสิบเอ็ด(๑๑) ปีชวด
วันออกพรรษา พ.ศ.2552 ตรงกับ วันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ.2552 / วันอาทิตย์ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือนสิบเอ็ด(๑๑) ปีฉลู
วันออกพรรษา พ.ศ.2554 ตรงกับ วันพุธที่ 12 ตุลาคม พ.ศ.2554 / วันพุธ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือนสิบเอ็ด(๑๑) ปีเถาะ
วันออกพรรษา พ.ศ.2555 ตรงกับ วันอังคารที่ 30 ตุลาคม พ.ศ.2555 / วันอังคาร ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือนสิบเอ็ด(๑๑) ปีมะโรง
วันออกพรรษา พ.ศ.2556 ตรงกับ วันเสาร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ.2556 / วันเสาร์ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือนสิบเอ็ด(๑๑) ปีมะเส็ง
วันออกพรรษา พ.ศ.2557 ตรงกับ วันพุธที่ 8 ตุลาคม พ.ศ.2557 / วันพุธ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือนสิบเอ็ด(๑๑) ปีมะเมีย
วันออกพรรษา พ.ศ.2558 ตรงกับ วันอังคารที่ 27 ตุลาคม พ.ศ.2558 / วันอังคาร ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือนสิบเอ็ด(๑๑) ปีมะแม
วันออกพรรษา พ.ศ.2559 ตรงกับ วันอาทิตย์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ.2559 / วันอาทิตย์ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือนสิบเอ็ด(๑๑) ปีวอก
วันออกพรรษา พ.ศ.2560 ตรงกับ วันพฤหัสบดีที่ 5 ตุลาคม พ.ศ.2560 / วันพฤหัสบดี ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือนสิบเอ็ด(๑๑) ปีระกา

ประวัติวันออกพรรษา

ในวันออกพรรษาในพระไตรปิฎกกล่าวไว้ว่า เป็นวันที่ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์มายังโลกมนุษย์ หลังจากที่พระองค์ได้เสด็จไปจำพรรษา และแสดงพระธรรมเทศนาโปรดเทพบุตรพุทธมารดา ซึ่งอยู่สวรรค์ชั้นดุสิต แต่ลงมาฟังพระธรรมเทศนาที่ชั้นดาวดึงส์ ซึ่งวันออกพรรษาตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือนสิบเอ็ด(๑๑) ถือเป็นวันสิ้นสุดการจำพรรษา หรือออกจากพรรษาที่ได้อธิษฐานเข้าจำพรรษาตลอดระยะเวลา 3 เดือน ซึ่งเป็นสำคัญวันหนึ่งของพระภิกษุสงฆ์

วันออกพรรษา หมายถึงวันที่พ้นจากข้อกำหนดทางพระวินัยที่ต้องอยู่ประจำที่หรือในวัดแห่งเดียวตลอด 3 เดือน ในฤดูฝน กล่าวคือ เมื่อพระภิกษุได้อธิษฐานอยู่จำพรรษาในวันแรม ๑ ค่ำ เดือนแปด (๘) แล้วอยู่ประจำที่หรือวัดนั้นเรื่อยไป จนสิ้นสุดในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือนสิบเอ็ด(๑๑) หลังจากวันออกพรรษาแล้วก็สามารถจาริกไปค้างแรมที่อื่นได้ และวันออกพรรษา เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "วันปวารณา" คือวันที่พระสงฆ์ทำปวารณากรรม โดยเปิดโอกาสให้เพื่อนพระภิกษุว่ากล่าวตักเตือนกันด้วยเมตตาจิตได้ เมื่อได้เห็นได้ทั้งหรือสงสัยในพฤติกรรมของกันและกัน

วันออกพรรษาหรือวันพระพุทธเจ้าเปิดโลกในวัน แรม ๑ ค่ำ เดือนสิบเอ็ด(๑๑) ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงสู่โลกมนุษย์ เรียก "วันเทโวโรหณะ" และ วันพระพุทธเจ้าเปิดโลก เพราะวันนั้นโลกทั้ง 3 คือ สวรรค์ มนุษย์ และ บาดาล (นรก) ต่างสามารถแลเห็นกันได้ตลอดทั้ง 3โลก

ชาวพุทธจึงยึดถือปรากฎการณ์นี้ ต่างมารอรับตักบาตรภัตตาหารกันอย่างเนืองแน่น เพราะเมื่อถึงวันปวารณาออกพรรษา ในวันแรม ๑ ค่ำ เดือนสิบเอ็ด(๑๑) นี้พระพุทธองค์เสด็จลงสู่โลกมนุษย์ทางบันไดทิพย์ ทั้ง 3 ได้แก่ บันไดเงิน และ บันไดทอง และ บันไดแก้ว ซึ่งสักเทวราช (พระอินทร์) ให้พระวิษณุกรรมเนรมิตทอดจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์สู่โลกมนุษย์ ที่ ประตูเมืองสังกัสนคร หลังจากเทศนาพระอภิธรรมปิฎกโปรดพระพุทธมารดาอยู่หนึ่งพรรษา (3 เดือน) ซึ่งก่อนหน้านั้น พุทธองค์ได้จำพรรษาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ นับแต่ปีที่ตรัสรู้ ในพรรษาที่ 7

วันออกพรรษา เป็นวันสำคัญของพุทธศาสนา และหลังจากวันออกพรรษาพระสงฆ์ได้รับพระบรมพุทธานุญาตให้จาริกไปค้างแรมที่อื่นได้ เมื่อออกพรรษาแล้วพระสงฆ์จะได้นำความรู้จากหลักธรรมและประสบการณ์ที่ได้รับระหว่างพรรษาไปเผยแผ่แก่ประชาชน ซึ่งในวันออกพรรษาพระสงฆ์ได้ทำปวารณา เปิดโอกาสให้เพื่อนพระภิกษุว่ากล่าวตักเตือนเรื่องความประพฤติของตนเพื่อให้เกิดความบริสุทธิ์ ความเคารพนับถือและความสามัคคีกัน ทำให้พุทธศาสนิกชนได้นำแบบอย่างไปทำปวารณาเปิดโอกาสให้ผู้อื่นว่ากล่าว ตักเตือนตนเองเพื่อประโยชน์ต่อการพัฒนาตนและสร้างสรรค์สังคมต่อไป

กิจกรรมในวันออกพรรษา

เพราะเป็นประเพณีที่สืบต่อกันมาอย่างยาวนาน ในวันออกพรรษา เหล่าพุทธศาสนิกชน ต่างพากันร่วมทำกิจกรรมต่างๆ ส่วนพระภิกษุที่จำพรรษามาตลอดสามเดือน อาจจะมีบางรูปที่บวชต่อ เพราะติดใจในรสพระธรรม หรือ มีบางรูปที่สึกออกไป เพื่อประกอบอาชีพ หรือทำงานต่อ ส่วนกิจกรรมในครองครัวของพุทธศาสนิกชนนั้นก็มีแตกต่างกันไป

ทำความสะอาด 

วันออกพรรษา แต่ละครอบครัวก็ช่วย ทำความสะอาดบ้าน ประดับธงธรรมจักร ทำความสะอาดบริเวณโรงเรียน ประดับธงชาติและธงธรรมจักร จัดแต่งโต๊ะหมู่บูชา สมาชิกในครอบครัว ปรึกษา หารือ หาแนวทางในการป้องกันการแก้ปัญหา โดยใช้หลักธรรม คือ ปวารณา ศึกษาเอกสารและสนทนาเกี่ยวกับความสำคัญของวันออกพรรษา รวมทั้งหลักธรรม การปวารณาและแนวทางปฏิบัติในครอบครัว และร่วมกันบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ ปลูกต้นไม้ บริจาคโลหิต

เข้าวัด ทำบุญ 

วันออกพรรษา นำครอบครัวไปบำเพ็ญกุศล ทำบุญตักบาตร บริจาคทาน ปฏิบัติธรรมที่วัด รักษาศีล ไหว้พระสวดมนต์ ฟังธรรมเจริญภาวนา ในกรณีที่เป็นวันหยุดเนื่องในวันออกพรรษา ครูพานักเรียนไปร่วมกิจกรรมกับชุมชนที่วัด บำเพ็ญกุศลทำบุญตักบาตร บริจาคทาน รักษาศีล ฟังธรรม สนทนาธรรม เจริญภาวนา ในกรณีที่เป็นวันหยุด และกิจกรรมอื่นที่เหมาะสม

จัดนิทรรศการ 

ครูและนักเรียนร่วมกันศึกษาถึงความสำคัญของวันออกพรรษา รวมทั้งหลักธรรม เรื่องปวารณาและแนวทางปฏิบัติในสถานศึกษา และให้นักเรียนจัดทำป้ายนิเทศ หรือจัดนิทรรศการ ประกวดเรียงความ ทำสมุดภาพ ตอบปัญหาธรรม บรรยายธรรม อภิปรายธรรม หรือจัดทำรายงานเกี่ยวกับพฤติกรรมที่ดีกับพฤติกรรมที่ไม่ดี และวางแผนพัฒนาพฤติกรรมไม่ดีให้น้อยลง และประกาศเกียรติคุณนักเรียนที่ประพฤติตัวเป็นแบบอย่างที่ดี ประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับความสำคัญของวันออกพรรษา รวมทั้งหลักธรรมเรื่อง ปวารณาและแนวทางปฏิบัติ และจัดให้มีการบรรยายธรรมและสนทนาธรรม

นอกจากนี้ยังมีประเพณีตักบาตรเทโวโรหณะ การเทศน์มหาชาติเทศน์มหาชาติ คือ เทศนาเวสสันดรชาดก เป็นบุญพิธีที่นิยมจัดให้มีกันมาแต่โบราณ ส่วนมากจัดให้มีในวัดเป็นหน้าที่ของชาวบ้านและวัดนั้น ๆ และประเพณีถวายผ้ากฐินทาน

งดเหล้าในระหว่างช่วงเข้าพรรษา

เป็นที่นิยมกันอย่างมาก สำหรับกิจกรรม งดเหล่าเข้าพรรษา ซึ่งถือเป็นการรณรงค์งดเหล้าตลอดเข้าพรรษา และยังเป็นการกระตุ้นให้ประชาชนเริ่มลดละเลิก ซึ่งหลังจากออกพรรษาแล้วก็สามารถลด ละ เลิกต่อได้ ถือเป็นเรื่องที่ดี ซึ่งคนที่อยากเลิกอย่างต่อเนื่องให้สำเร็จนั้น คือกลุ่มคนที่ดื่มเป็นประจำจนติด หลายคนที่ดื่มถึงขั้นติดไม่สามารถหยุดดื่มได้ง่ายๆ เพราะสารเคมีในสมองมีความผิดปกติไป เลิกดื่มแล้วมีอาการข้างเคียงตามมา หากสามารถงดการดื่มในช่วง 3 เดือนเข้าพรรษาได้ ถือว่าเป็นโอกาสที่จะลดการดื่มอย่างต่อเนื่องได้ มีเทคนิควิธีการเลิกดื่มเหล้าอย่างต่อเนื่องไปถึงช่วงออกพรรษา คือ
- ปรับสิ่งแวดล้อม ในช่วงแรกๆ ควรปรับสิ่งแวดล้อม ที่ดี และไม่ควรอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่กระตุ้นให้เกิดความอยากดื่ม คือไม่พยายามไปหาเพื่อนฝูงที่มีการตั้งวงดื่มเหล้าประจำ เพราะจะทำให้อดใจไม่ได้
- ปรับร่างกาย การพักผ่อนให้เพียงพอ กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ และออกกำลังกาย ถือเป็นการปรับร่างกาย และเป็นการฟื้นฟูร่างกายได้เป็นอย่างดี เพราะการดื่มเหล้าอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานจะส่งผลต่อสุขภาพได้
- ปรับสภาพจิตใจ  บอกให้คนรอบข้างทราบว่าคุณกำลังเลิกดื่ม เพื่อช่วยกันให้กำลังใจด้วยการฝึกจิตใจให้มีความเข้มแข็ง สามารถทำได้ทั้งขอกำลังใจจากครอบครัว คนรัก โดยเฉพาะเมื่อเกิดปัญหาชีวิตหรือปัญหาที่กระทบต่อจิตใจ คนที่เคยดื่มจะมีโอกาสกลับไปดื่มซ้ำ จึงต้องหาคนที่คอยเตือนและให้กำลังใจ หรือ เป็นที่ปรึกษา
- หาแรงจูงใจ ตั้งเป้าหมายในการเก็บเงิน และหาแรงจูงใจในการเลิกดื่ม การนำค่าใช้จ่ายระหว่างดื่ม และไม่ดื่ม มาเปรียบเทียบกันเพื่อให้เห็นความสิ้นเปลือง สามารถปรึกษาสายด่วนศูนย์ปรึกษาปัญหาสุรา 1413 เพื่อขอความช่วยเหลือในการเลิกดื่มได้อีกทางด้วย สำหรับคนที่ต้องการเลิกดื่มหากไม่ทราบว่าจะทำอย่างไร

แนวทางการส่งเสริม กิจกรรมวันออกพรรษา

เพื่อให้พุทธศาสนิกชนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความสำคัญของวันออกพรรษารวมทั้งหลักธรรม เรื่อง ปวารณาและแนวทางปฏิบัติ การส่งเสริมกิจกรรมวันออกพรรษา จึงเป็นส่วนหนึ่ง ที่จะทำให้พุทธศาสนิกชน ได้ยึดถือประเพณีนี้สืบต่อกันมา เช่น

ให้มีแนวคิด

เพื่อให้พุทธศาสนิกชนสามารถเลือกสรรหลักธรรม คือปวารณา ไปใช้ในการดำเนินชีวิตเพื่อพัฒนาตนและสังคม และมีทักษะในการคิดและการปฏิบัติตนอย่างถูกต้องในวันออกพรรษา และเกิดเจตคติที่ดีต่อวันออกพรรษา และเห็นคุณค่าของการดำเนินชีวิตตามหลักธรรมคือ ปวารณา

ให้เกิดความศรัทธา

อาจเชิญชวนให้ประชาชนทั่วไปเข้าร่วมกิจกรรม ปฏิบัติธรรม เพื่อให้พุทธศาสนิกชนเกิดศรัทธา ซาบซึ้งและตระหนักถึงความสำคัญของพระพุทธศาสนา และเพื่อให้ปฏิบัติตนตามหน้าที่ของพุทธศาสนิกชนได้อย่างถูกต้องรวมถึงเข้าร่วมพิธีกรรมศาสนา เช่น ทำบุญตักบาตร ฟังธรรม รักษาศีล สวดมนต์

แจกเอกสาร

อาจมีการรณรงค์ทางสื่อมวลชนต่างๆ ให้ลด ละ เลิก อบายมุข และให้งดจำหน่ายสิ่งเสพติดทุกชนิด และจัดพิมพ์เอกสารเกี่ยวกับความสำคัญของวันออกพรรษารวมทั้งหลักธรรมเรื่อง ปวารณา และแนวทางปฏิบัติเพื่อเผยแผ่ให้แก่ประชาชนในท้องถิ่น และตามสถานที่ชุมชน เช่น สนามบิน สถานีรถไฟ สถานีขนส่ง โรงธรรม ศูนย์การค้า รวมทั้งบนยานพาหนะต่างๆ

เพื่อสังคมที่ดี
การรณรงค์ให้มีการรักษาสภาพแวดล้อม ปลูกต้นไม้ ทำความสะอาดที่สาธารณะ มีการประกาศเกียรติคุณสถาบันหรือบุคคลผู้ทำคุณประโยชน์ต่อสังคม รวมถึงจัดประกวด สวดสรภัญญะ บรรยายธรรม คำขวัญ บทร้อยกรอง บทความเกี่ยวกับวันออกพรรษา และกิจกรรมอื่นที่เหมาะสม

วันเสาร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2559

ประกาศสำนักพระราชวัง เรื่อง การถวายสักการะพระบรมศพ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช


ประกาศสำนักพระราชวัง เรื่อง การถวายสักการะพระบรมศพ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ด้วยสำนักพระราชวังได้รับพระราชานุญาตในการถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ดังนี้
๑.พระราชทานพระราชานุญาตให้ประชาชนทั่วไปเข้าถวายสักการะเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง ทุกวันเวลา๐๘.๓๐-๑๖.๐๐น. ในการนี้ได้จัดสมุดหลวงลงนามถวามความอาลัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย
๒.พระราชทานพระราชานุญาตให้ประชาชนเข้าเฝ้าฯ กราบบังคมพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ภายหลังจากการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลครบ ๑๕ วันตั้งแต่๐๙.๐๐-๑๖.๐๐น.ทุกวันเริ่ม๒๘ตุลาคม ๒๕๕๙ เวลา๑๓.๐๐น.
๓.พระราชทานพระราชานุญาตให้ภาคต่างๆทั้งคณะบุคคล ภาครัฐบาล รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน และประชาชนทั่วไป ร่วมเป็นเจ้าภาพบำเพ็ญพระราชกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ หลังจากการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลครบ๕๐วัน
จึงประกาศมาให้ทราบโดยทั่วกัน สำนักพระราชวัง ๑๕ ตุลาคม พุทธศักราช๒๕๕๙

Most watched