พระพรหมคุณาภรณ์เป็นเจ้าอาวาสวัดธรรมดาแห่งหนึ่งที่นครปฐม ไม่มีเส้นสายการเมือง อยู่ดีๆ ก็โผล่มา แน่นอน - ด้วยความยินดีของชาวพุทธจำนวนมาก เพราะในรอบหลายปีนี้ ข่าวเกี่ยวกับวงการสงฆ์มัวหมองมืดมนเสียจนชาวพุทธส่ายหน้า หลายคนถามซ้ำซากว่าผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องทำอะไรกันอยู่ ทำไมปล่อยให้อลัชชีครองเมือง ศาสนาพุทธสูญพันธุ์ไปแล้วหรือไม่
และเมืองไทยยังมีพระดีหลงเหลืออยู่หรือเปล่า
ดังนั้นการขึ้นสู่ตำแหน่งของพระสายพันธุ์ 'endangered species' จึงเป็นเรื่องน่ายินดี
เรื่องนี้มีความนัยอะไรหรือไม่?
ข่าวนี้ย่อมสร้างความหวังให้ชาวเราบ้างว่า เป็นไปได้ไหมว่านี่คือก้าวแรกของการสังคายนามหาเถรสมาคม? เพราะตำแหน่งนี้ส่งท่านเข้าไปเป็นกรรมการของ ม.ส. โดยอัตโนมัติ
พระพรหมคุณาภรณ์เป็นพระที่เป็นพระ ไม่มีรังสีเปล่งออกจากหัว ไม่มีความสามารถพิเศษขึ้นสวรรค์ชั้นไหน เป็นคนไทยคนแรกที่ได้รับรางวัล Prize for Peace Education จากองค์การ UNESCO
พูดสั้นๆ คือ เป็นพระปราชญ์ ไม่ใช่พระทำมาหารับประทาน
และที่น่าสนใจอย่างยิ่งคือเป็นพระผู้เขียนต่อต้านลัทธิธรรมกายมาแต่แรก
ส. ศิวรักษ์ เคยเขียนไว้เมื่อต้นปีนี้ว่า "แท้ที่จริง ถ้าสมเด็จพระสังฆราชไม่ทรงพระประชวร และทรงบัญชาการพระศาสนาได้ ย่อมต้องเสนอให้พระพรหมคุณาภรณ์ (ประยุทธ์ ปยุตฺโต) ขึ้นเป็นสมเด็จพระพุฒาจารย์แท้ทีเดียว เพราะเจ้าพระคุณสมเด็จทรงยกย่องพระเถระรูปนี้ตลอดมา ทรงถือว่าพระคุณท่านเป็นเพชรเม็ดเอกของพระศาสนาเอาเลยทีเดียว"
ต่อให้เป็นเสียงเดียวในมหาวาตะแห่งพุทธพาณิชย์ ด้วยตำแหน่งระดับนี้ หากจัดการเรื่องประชาสัมพันธ์ได้ถูกจุด ก็อาจอาศัยกระแสสังคมช่วยสร้างแรงกระเพื่อม นำพาวงการสงฆ์สู่แผ่นดินธรรมจริงๆ สักที (หรือเปล่า?)
ชักตื่นเต้น!
………………..
ขอขอบคุณบทความโดย : วินทร์ เลียววาริณ
เฟซบุ๊ค https://www.facebook.com/winlyovarin/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น