วันจันทร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

คุณรักคน คนนึงเพราะอะไร???

   .. ถ้าใครสามารถตอบคำถามได้ว่า... "รักคนคนหนึ่งเพราะอะไร" ...นั่นเป็นรักจากสมอง สมองมักมีเหตุผล มีคำตอบในการที่ต้องรัก และอาจไม่ใช่รักแท้... เพราะรักแท้ เป็นรักที่ไม่มีคำตอบ ...เป็นความรัก ที่มาจากความรู้สึกถ้ารักจากสมอง ชีวิตรักเหมือนอยู่ในโลกความจริง มักไม่อ่อนหวาน ทำอะไรก็มีแผนการ ...มีเหตุผล มีคำอธิบายร้อยแปด ต่างจากรักที่มาจากความรู้สึก ...ชีวิตเหมือนอยู่ในความฝัน ...อ่อนหวาน อบอุ่น ใช้หัวใจในการตัดสิน กลายเป็นคนไม่มีสมอง...ถ้าใครบอกว่ารักคุณเพราะอะไร... พึงจำไว้ว่ารักแท้จะไม่มีเหตุผล จะไม่มีคำว่าอะไร มาทำให้รักเพราะถ้าบอกว่ารัก เพราะคุณสวย ...เมื่อความสวยหมด อาจเลิกรักได้ หรือถ้ารักเพราะคุณเป็นคนดี วันหนึ่งก็อ้างได้ว่า ตอนนั้นเห็นคุณเป็นคนดีได้อย่างไร... หรือถ้ารักเพราะคุณเป็นคุณ ...ก็คงเบื่อที่จะหาคำอื่นมาพูด คำนี้ใช้ง่ายที่สุด...จงฟังคนที่บอกว่า รักคุณ และไม่เข้าใจว่าทำไมถึงรัก นั่นเเสดงว่าใช้หัวใจรัก ไม่ว่าวันข้างหน้า คุณจะเป็นอย่างไร หัวใจก็จะยังไม่มีเหตุผลในการรักอยู่ดีจะเลือกคนที่ใช้หัวใจรัก หรือคนที่ใช้สมองรัก...ขึ้นอยู่กับคุณ

การที่เราจะรักใครสักคน
การที่เราจะรักใครสักคน...ไม่จำเป็นต้องหาเหตุผลว่าทำไมเราจึงไปรักเขาได้ แต่ให้รู้ไว้ว่าทุกวันนี้เรารักเขาและต้องรักให้ดีที่สุดก็พอ การที่เราจะรักใครสักคน...ไม่ต้องสนว่าหนทางข้างหน้าจะมีอุปสรรคมากมายแค่ไหน แต่ควรนึกขอบคุณโชคชะตาที่สร้างให้มีอุปสรรค เพื่อให้เราทั้งสองได้ร่วมฟันฝ่าไปด้วยกันการที่เราจะรักใครสักคน...ไม่ต้องไปเสียเวลาคิดว่าเขาทำอะไรเพื่อเราบ้าง แต่ให้มานั่งถามตัวเองดูว่า วันนี้เราทำอะไรเพื่อคนที่เรารักแล้วหรือยัง การที่เราจะรักใครสักคน...ไม่ต้องไปมัวระแวงว่าเขาจะไปมีใครอื่นนอกเหนือจากเรา แต่ควรระวังใจของตัวเองให้เข้มแข็งพอที่จะไม่รับใครเข้ามาในใจอีก การที่เราจะรักใครสักคน...ไม่ต้องไปขุดคุ้ยเรื่องราวในอดีตของเขา ว่าเขาเคยมีใครยังไง แต่ให้คิดไว้ว่าทุกวันนี้มีเขาและเราอยู่ด้วยกัน...อดีต..ถึงอย่างไรก็คืออดีต การที่เราจะรักใครสักคน...เมื่อทะเลาะกัน คำว่าแพ้หรือชนะ ก็ไม่สำคัญ เราจึงยอมให้เขาเป็นฝ่ายชนะเสมอ ถ้าทำให้เขาสบายใจ การที่เราจะรักใครสักคน...ไม่ควรพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเขา แต่ควรพยายามปรับตัวเองให้เข้ากับเขาจะดีกว่า การที่เราจะรักใครสักคน...ไม่ควรหูเบา เพราะอาจทำลายความสัมพันธ์ระหว่างเรากับคนที่เรารักได้ การที่เราจะรักใครสักคน...ไม่ใช่การสัมผัสกันด้วยร่างกาย แต่เป็นการสัมผัสกันด้วยหัวใจต่างหาก การที่เราจะรักใครสักคน...ไม่จำเป็นต้องบอกรักกันทุกวัน เพราะการที่เราคอยห่วงใยกันอยู่เสมอๆ ก็สามารถทดแทนคำว่ารักได้ดี แม้สักล้านคำ การที่เราจะรักใครสักคน...ไม่เกี่ยวกับสิ่งของนอกกายใดๆเลย เพราะความรักไม่สามารถซื้อได้ด้วยเงิน หรือแลกมาได้ด้วยทรัพย์สิน การที่เราจะรักใครสักคน...ไม่ต้องคอยนับว่าเขามีข้อเสียมากมายสักกี่ข้อ เพราะข้อดีของเขาก็มีมากพอที่จะทำให้เราลืมข้อเสียทั้งหมดของเขาได้ การที่เราจะรักใครสักคน....ไม่จำเป็นต้องตัวติดกันตลอดเวลา แค่เรามีเขาอยู่ในใจทุกนาทีก็พอ การที่เราจะรักใครสักคน...เมื่อเห็นเขาเสียใจ ไม่ต้องรอจนกระทั่งเขาเสียน้ำตา แล้วค่อยเข้าไปปลอบใจ แต่ควรรีบเข้าไปแบ่งเบาความทุกข์ของเขาเสียตั้งแต่เมื่อเราเห็นเขาเงียบๆซึมๆไป เพราะหากเราปล่อยเขาไว้จนสายเกิน ผลสุดท้ายแล้วคนที่จะเสียใจที่สุดเมื่อรู้ตัวก็คือตัวเราเอง การที่เราจะรักใครสักคน...อย่ารอที่จะบอกรัก ให้รีบบอกคนที่เรารักซะ ก่อนที่จะไม่มีเขาคนนั้นให้บอกอีกต่อไป
------------------------------------------
รัก และทำวันนี้ให้ดีที่สุด
การที่เราจะรักใครสักคน...แม้ว่าอาจทำให้เราตาบอด แต่ก็ทำให้เราได้รับรู้และเข้าใจ ว่าความสุขจากการที่ได้รักใครสักคน มันมีมากมายแค่ไหน
การที่เราจะรักใครสักคน...จงเชื่อมั่นในตัวเขาให้มากๆ การที่เราจะรักใครสักคน...ง่ายยิ่งกว่าการพยายามลบเขาออกไปจากหัวใจ ...ความรัก สอนให้เราได้เรียนรู้หลายๆสิ่ง ความรักเป็นบทเรียนดีๆ ที่ไม่อาจเข้าใจได้ถ่องแท้ถ้าไม่ได้สัมผัสด้วยตัวเอง ความรัก ทำให้เราเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ทำให้เราเข้าใจอะไรๆมากขึ้น
ความรัก ทำให้เราเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบ
นี่คือสิ่งที่เราได้เรียนรู้ ....จากการที่เราได้....รัก..
..ใครสักคน...

วันพฤหัสบดีที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

เชื่อกันมั๊ยว่า เจ๊คนนี้ อายุ 61 ปี !!!!


61 ปี แถวบ้านต้องเรียกคุณยาย แต่นี่ นางฟ้า ชัดๆ

ดาราจีน วัย 61 ขึ้นแท่น "แม่มดสวยสุดอันดับสองของโลก"

หลิว เสี่ยวชิ่ง ได้รับการจัดอันดับ "แม่มดแสนสวย" อันดับสองของโลก โดยโทรทัศน์ญี่ปุ่นเมื่อไม่กี่วันมานี้


แต่สิ่งที่ทำให้ผู้ชมรายการฯตะลึงตาลุกกัน ก็คือ “สาวใหญ่” พราวเสน่ห์ หลิว เสี่ยวชิ่ง เธออายุถึง 61 ปี แล้ว


ทั้งนี้ “แม่มดแสนสวย” (美魔女) เป็นหนึ่งในวลียอดฮิตของเครือข่ายสังคมออนไลน์ญี่ปุ่น หมายถึงผู้หญิงทำงานวัย 40 ปี ขึ้นไป ที่ยังรักษาสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง และรูปโฉมโนมพรรณได้อย่างดีเยี่ยม

หลังจากที่ได้ตำแหน่ง “แม่มดแสนสวยแพรวเสน่ห์"จากญี่ปุ่น หลิว เสี่ยวชิ่ง ก็ได้ โพสต์ภาพของตัวเองในเว็บบล็อก “เวยปั๋ว” ให้ชาวเน็ตได้ยลโฉมงามวัย 61 ปีของตน ชาวเน็ตต่างอุทานกัน “ดูไม่ออกเลยว่า 60 ปี แล้ว” 

วันพุธที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

งดของมัน!!

ญ: ที่รัก คืนนี้จัดป่ะ ไม่โดนมานานแล้วนะ 
ช: จัดไม่ได้หรอก เจ็บคออยู่ 
ญ: แล้วเกี่ยวอะไรกับเจ็บคอด้วยล่ะ 
ช: ก็หมอเค้าบอกให้งดของมันส์ !!

ญ : ??
5555555555555555555+

วันอังคารที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

พี่ขา.. เอาหนูไหม๊ค่ะ หนูสะอาดนะ ร้อยเดียวเอง!!

ค่ำวันหนึ่ง ในเมืองหลวงรถราติดขัด ผมขับรถผ่านความวุ่นวายมาจนถึงย่านชานเมืองเส้นหนึ่ง เป็นสายรอง รถเริ่มน้อยบางตาลงผิดกับตอนแรก ในขณะที่รถจอดติดไฟแดงอยู่ คิดอะไรเพลินๆสายตาก็ไปหยุดอยู่ที่กลุ่มเด็กสาวรุ่นๆ 3-4 คนนั่งจับกลุ่มกันอยู่ สังเกตุจากหน้าตาไม่ธรรมดา แต่งตัวสวย สายเดี่ยว นุ่งสั้น แต่ละคนเห็นแล้วอดมอง (แบบแอบเสียว) ไม่ได้
ผมจ้องมองอยู่นาน.....และแล้ว......
มีเด็กคนหนึ่งในกลุ่มแยกตัววิ่งตรงมาที่รถผมแล้วส่งยิ้มหวานให้ เธอเคาะกระจกรถ ทำให้ผมตื่นจากอาการลืมตัว ผมลดกระจกลงครึ่งบาน
เด็กสาว : พี่ๆพี่หล่อจัง
ผม : (เอาละวะขาวอวบซะด้วยสเป็คเลย คิดในใจแต่เก็บอาการไว้)
เด็กสาว : พี่สุดหล่อคะ....เอาหนูป่ะ (เฮ้ย! ถามกันตรงๆอย่างงี้เลยเหรอ) 100 เดียวเองค่ะ (กินส้มตำยังแพงกว่าเลยวุ้ย) สะอาดด้วย หอมด้วยนะคะ (ผมยิ้มเขิ้ลๆ)
ผม : เฮ้ย......น้องตรงนี้เลยเหรอ...(จริงๆอ่ะอยากแต่เก็บอาการไว้)
เด็กสาว : เอาป่ะคะ.....(หนอย..ทำมาถามย้ำ)
ผม : (100เดียวเอาดิ)....จะดีเหรอน้อง....(แกล้งทำหน้าเครียดไว้ฟอร์มแต่มือน่ะ ล้วงตังค์ออกมารอแล้ว)
เด็กสาว : (พนมมือไหว้รับเงิน) พี่รอหนูแป๊บนะคะหนูไปเอาถุงก่อนค่ะ...(มีถุงให้ด้วยรอบคอบมาก...แล้วเธอก็วิ่งอย่างเร็วกลับไปที่กลุ่มเพื่อนๆ..ทุกคนมองมาที่ผม บางคนยิ้มหวานให้..)
ผม: (เขิ้ลจะตายอยู่แล้ว..แต่ในใจลิงโลดสุดๆ) ขับรถแอบข้างทาง รออย่างกระหยิ่มใจ
เด็กสาว : (วิ่งกลับมาพร้อมกับยื่นถุงพลาสติกให้)...ขอบคุณนะคะพี่สุดหล่อ....(วิ่งกลับทันที)
ผม : อึ้ง....เปิดถุงดู มีหนูย่างสามตัว สะอาดและหอม 100เดียวตามที่โฆษณาแป๊ะ ไม่มีหลอกลวง


มันน่าจะแถมหญ้ามาด้วยเลยนะ
กรูจะได้ไปเคี้ยวเอื้องให้มันส์เลย.....  55555555555


วันอาทิตย์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

วันเสาร์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

นาฬิกาชีวิต


ช่วงเวลา ระบบที่เกี่ยวข้อง 
01.00-03.00 น. ตับ นอนหลับพักผ่อนให้หลับสนิท
03.00-05.00 น. ปอด ตื่นนอน สูดอากาศบริสุทธ์
05.00-07.00 น. ลำไส้ใหญ่ ขับถ่ายอุจจาระ
07.00-09.00 น กระเพราะอาหาร กินอาหารเช้า
09.00-11.00 น. ม้าม พูดน้อย กินน้อย ไม่นอนหลับ
11.00-13.00 น. หัวใจ หลีกเลี่ยงความเครียดทั้งปว
13.00-15.00 น. ลำไส้เล็ก งดกินอาหารทุกปะเภท
15.00-17.00 น. กระเพาะปัสสาวะ ทำให้เหงื่อออก ( ออกกำลังกายหรืออบตัว )
17.00-19.00 น. ไต ทำให้สดชื่น ไม่ง่วงเหงาหาวนอน
19.00-21.00 น. เยื่อหุ้มหัวใจ ทำสมาธิหรือสวดมนต์
21.00-23.00 น. ระบบความร้อนของร่างกาย ไม่ควรอาบน้ำเย็น และตากลม ควรทำให้ร่างกายอบอุ่น
23.00-01.00 น. ถุงน้ำดี ดื่มน้ำปริมาณน้อยก่อนเข้านอน

การแพทย์ตะวันออกถือว่า กลางวันและกลางคืนมีความสัมพันธ์กับสุขภาพของมนุษย์ อย่างแยกไม่ออก โดยมองลึกลงไปอีกว่า ช่วงเวลา 24 ชั่วโมงในหนึ่งวันนั้น ภายในร่างกายของมนุษย์ยังมีการไหลเวียนของพลังชีวิตที่ผ่านอวัยวะภายในร่างกายซึ่งประกอบด้วย อวัยวะตันและอวัยวะกลวง

อวัยวะตัน หมายถึง หัวใจ เยื่อหุ้มหัวใจ ปอด ม้าม ตับ ไต

อวัยวะกลวง หมายถึง กระเพาะอาหาร ถุงน้ำดี ลำไส้ใหญ่ ลำไส้เล็ก กระเพาะปัสสาวะ ระบบความร้อนของร่างกาย ( ชานเจียว )

การไหลเวียนของพลังชีวิต ( ลมปราณ ) ที่ผ่านแต่ละอวัยวะนั้นจะใช้เวลา 2 ชั่วโมง ทั้งหมดมี 12 อวัยวะ รวม 24 ชั่วโมง คือ หนึ่งวัน เรียกว่า “ นาฬิกาชีวิต “

ตัวอย่าง เช่นการไหลเวียนของเส้นลมปราณปอด จะมีพลังไหลเวียนเริ่มต้นที่เวลา 03.00 น. และสูงสุดในช่วงประมาณ 04.00 น. จากนั้นจะค่อย ๆ ลดลง และออกจากเส้นลมปราณปอดไปยังเส้นลมปราณลำไส้ใหญ่ เวลา 05.00 น. การรักษาโรคของเส้นลมปราณปอดที่ให้ประสิทธิภาพสูงสุดจึงควรอยู่ระหว่างเวลา 05.00 น.

ได้มีการศึกษาวิจัยพบว่า ผลของการใช้ยาตะวันตก คือ ยาดิติตาลิส ในการรักษาโรคหัวใจล้มเหลว ( มีการคั่งของน้ำในปอด ) การให้ยาในช่วงเวลา 04.00 น. จะให้ผลออกฤทธิ์ประมาณสี่สิบเท่าของการให้เวลาอื่นเป็นต้น

การเคลื่อนไหวของพลังชีวิตของอวัยวะภายในมีกฎเกณฑ์แน่นอนและสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับเวลา ( นาฬิกาชีวิต ) ร่างกายเราจึงมีกลไกการปรับตัวมีการสร้างสารคัดหลั่งฮอร์โมน การทำงานของระบบต่าง ๆ ฯลฯ เป็นไปตามสภาพธรรมชาติที่เปลี่ยนแปลงไป

การดำเนินชีวิตและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวันให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ จึงเป็นหลักฐานของการมีสุขาพที่ดีและมีอายุยืน ปราศจากโรค โดยแบ่งเป็นช่วงเวลาดังนี้

01.00 - 03.00 น. เป็นช่วงเวลาของตับ ควรนอนหลับพักผ่อนกลางคืนถ้าใครนอนหลับได้ดีเป็นประจำในช่วงเวลานี้ ตับจะหลั่งสารมีราโทนิน
( melatonin ) เพื่อฆ่าเชื้อโรคทำให้หน้าอ่อนกว่าวัย นอกจากร่างกายจะหลั่งมีราโทนินประจำแล้ว ยังหลั่งสารเอนโดฟิน ( endorphin ) ออกมาด้วยจึงไม่ควรกินอาหารเพราะจำทำให้ตับทำงานหนักและเสื่อมเร็ว
หน้าที่หลักของตับคือ ขจัดสารพิษในร่างกาย ส่วนหน้าที่รองคือ
1. ช่วยไตในการดูแลผม ขน เล็บ ถ้าตับมีปัญหา ผม ขน เล็บ จะไม่สวย
2. ช่วยกระเพาะย่อยอาหาร ถ้ากินบ่อย ๆ จะทำให้ตับทำงานหนัก ตับจะหลั่งน้ำย่อยออกมามาก จึงไม่ได้ทำหน้าที่หลัก เป็นเหตุให้สารพิษตกค้างในตับ

03.00 - 05.00 น. เป็นช่วงเวลาของปอด จึงควรตื่นนอนลุกขึ้นเพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์และรับแสงแดดในยามเช้าผู้ที่ตื่นนอนในช่วงนี้เป็นประจำปอดจะดี ผิวดีขึ้น คนตื่นสาย ปอดจะไม่แข็งแรง

05.00 - 07.00 น. เป็นช่วงเวลาของลำไส้ใหญ่ ควรขับถ่ายอุจจาระทำให้เป็นนิสัยทุกเช้า ให้ดื่มน้ำ 2 แก้ว เพื่อขับของเสียออกจากร่างกายผ่านอุจจาระและปัสสาวะ

07.00 - 09.00 น. เป็นช่วงเวลาของกระเพาะอาหาร กระเพาะอาหารจะทำงาน ถ้ากินอาหารเช้าในช่วงนี้ทุกวัน กระเพาะอาหารจะแข็งแรง ถ้าปล่อยให้กระเพาะอาหารอ่อนแอ จะส่งผลให้เป็นคนตัดสินใจช้า ขี้กังวล ขาไม่ค่อยมีแรง ปวดเข่า หน้าแก่เร็วกว่าวัย

09.00 - 11.00 น. เป็นช่วงเวลาของม้าม ม้ามจะอยู่ชายโครงด้านซ้ายและมีหน้าที่ควบคุมเม็ดเลือด สร้างน้ำเหลือง ควบคุมไขมัน คนที่ปวดศีรษะบ่อยมักมาจากความผิดปกติของม้าม อาการเจ็บชายโครงสาเหตุมาจากม้ามกับตับ
- ม้ามโต ม้ามจะไปเบียดปอด ทำให้เหนื่อยง่าย ผอมเหลือง ตาเหลือง สร้างเม็ดเลือดขาวได้น้อย
- ม้ามชื้น อาหารและน้ำที่กินเข้าไปจะแปรสภาพเป็นไขมันจึงทำให้อ้วนง่าย

ผู้ที่มักนอนหลับในช่วงเวลา 09.00 – 11.00 น. ม้ามจะอ่อนแอ

11.00 - 13.00 น. เป็นช่วงเวลาของหัวใจ หัวใจทำงานหนักในช่วงเวลานี้จึงควรหลีกเลี่ยงความเครียด เหตุที่ทำให้ต้องใช้ความคิดหนัก และหาทางระงับอารมณ์ตื่นเต้นหรืออาการตกใจให้ได้

13.00 - 15.00 น. เป็นช่วงเวลาของลำไส้เล็ก จึงควรงดกินอาหารทุกประเภท เพื่อเปิดโอกาสให้ลำไส้ทำงาน ลำไส้เล็กมีหน้าที่ดูดซึมสารอาหารที่เป็นน้ำทุกชนิด เช่น วิตามิน ซี บี โปรตีนเพื่อสร้างกรดอะมิโน สร้างเซลล์สมองซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ

15.00 - 17.00 น. เป็นช่วงเวลาของกระเพาะปัสสาวะ แนวพลังของกระเพาะปัสสาวะเริ่มจากหัวตา ผ่านหน้าผาก ศีรษะ ท้ายทอย แผ่นหลังทั้งแผ่น สะโพก ด้านหลังขา หัวเข่า น่อง ส้นเท้า
นิ้วก้อย กระเพาะปัสสาวะจะเกี่ยวข้องกับระบบความจำ ไทรอยด์และระบบเพศทั้งหมด
ช่วงเวลานี้จึงควรทำให้เหงื่อออก อาจจะออกกำลังกายหรืออบตัว กระเพาะปัสสาวะจะได้แข็งแรง
การอั้นปัสสาวะบ่อย ๆ ปัสสาวะจะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้เหงื่อออกมามีกลิ่นเหม็นเหมือนปัสสาวะ

17.00 - 19.00 น. เป็นช่วงเวลาของไต จึงควรทำใจให้สดชื่น ไม่ง่วงเหงาหาวนอนในช่วงเวลานี้ ผู้ใดมีอาการง่วงนอนช่วงเวลานี้ แสดงว่ามีปัญหาเรื่องไตเสื่อม ถ้านอนหลับแล้วเพ้อ แสดงว่าอาการหนักมาก
- ไตซ้าย จะคุมสมองด้านขวา ซึ่งควบคุมด้านความคิดสร้างสรรค์ อารมณ์สุนทรีย์ รักสวยรักงาม ชอบแต่งตัว ถ้าไตซ้ายมีปัญหา อารมณ์รักสวยรักงามจะหมดไป กลายเป็นคนปล่อยเนื้อปล่อยตัว และเป็นคนขี้ร้อน
- ไตขวา จะคุมสมองด้านซ้าย ซึ่งควบคุมด้านความจำ ถ้าไตขวามีปัญหาความจำจะเสื่อม และเป็นคนขี้หนาว ( ผู้ที่ไตแข็งแรงจะเป็นคนที่มีอายุยืน เป็นคนกล้า )
ถ้าลำไส้เล็กมีไขมันเกาะมาก อาหารที่อยู่ในรูปสารละลายจะผ่านลำไส้เล็กไม่ได้ จึงตกเป็นภาระของไต เป็นผลให้ไตทำงานหนัก จึงกลายเป็นโรคไต ผู้ที่เป็นโรคไต สมองจะเสื่อม ปวดหลัง เป็นหวัดง่าย มีเสลดในคอ
การดูแล คือ แช่เท้า ในน้ำอุ่นควรใส่สมุนไพรที่ถูกกับโรคของผู้ป่วย เช่น ขิง ข่า กระชาย อย่างใดอย่างหนึ่ง และใช้สมุนไพรขับเมือกมันในลำไส้ เช่น จตุผลาธิกะ

19.00 - 21.00 น. เป็นช่วงเวลาของเยื่อหุ้มหัวใจ ช่วงเวลานี้ควรจะสวดมนต์ทำสมาธิ ปัญหาเกี่ยวกับเยื่อหุ้มหัวใจ คือหัวใจโต หัวใจรั่ว เส้นโลหิตหัวใจตีบ ดังนั้นผู้ป่วยต้องระวังเรื่องตื่นเต้น ดีใจ การหัวเราะ กรณีเส้นเลือดขอด ต้องดูแลเยื่อหุ้มหัวใจให้แข็งแรง
เยื่อหุ้มหัวใจ มีผลต่อการทำให้โคเรสเตอรอลสูง มีผลทำให้ลิ้นหัวใจรั่ว เส้นเลือดตีบในสมองหรือคนที่เป็นเส้นเลือดขอด ให้ใช้กระเจี๊ยบแดงต้มกับพุทราไทยหรือจีนก็ได้ เติมน้ำตาลกรวดเล็กน้อย เอาไว้ล้างไขมันในเลือดได้ดีครับ

21.00 - 23.00 น. เป็นช่วงเวลาที่ต้องทำให้ร่างกายอบอุ่น ไม่ควรอาบน้ำเย็น หรือตากลมในช่วงเวลานี้ เพราะจะทำให้เจ็บป่วยได้ง่า

23.00 - 01.00 น. เป็นช่วงเวลาของถุงน้ำดี ( ถุงน้ำดีเป็นถุงสำรองเก็บน้ำย่อยที่ออกมาจากตับ ) อวัยวะใดในร่างกายเมื่อขาดน้ำ จะมาดึงน้ำจากถุงน้ำดี ทำให้ถุงน้ำดีข้น เป็นผลให้อารมณ์ฉุนเฉียว สายตาเสื่อม เหงือกจะบวม ปวดฟัน นอนไม่หลับ ตื่นกลางดึก หรือตอนเช้าจะจาม ( ถุงน้ำดีจึงโยงไปถึงปอด ) จะปวดศีรษะข้างเดียวหรือสองข้างโดยไม่ทราบ ดังนั้นควรดื่มน้ำปริมาณน้อย ก่อนเข้านอน 


Cr 

"ความล้มเหลวนั้น ถือเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคนเรา ถ้าใครไม่เคยล้มเหลว ก็จะไม่ได้เรียนรู้ และคนที่ไม่ได้เรียนรู้ ก็จะไม่เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น"

"ความล้มเหลวนั้น ถือเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคนเรา
ถ้าใครไม่เคยล้มเหลว ก็จะไม่ได้เรียนรู้
และคนที่ไม่ได้เรียนรู้ ก็จะไม่เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น"

คำว่าทำไม่ได้ มันไม่มีหรอก มันอยู่ที่ว่าเราเอาจริงกับมันหรือไม่


ถ้าคิดจะ "ก้าวเดิน" ก็ต้องกล้าที่จะยอมรับทุกๆสิ่ง..ที่จะผ่านเข้ามา...


วันศุกร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

โจรขโมยล้อ ใช้เวลาเพียง 2 นาที ระวังกันด้วยครับ

โจรขโมยล้อ ใช้เวลาเพียง 2 นาที ระวังกันด้วยครับ
---------------------------------------
ข้อความเจ้าของคลิป : จอดรถไว้ทุกคืนหน้าบ้าน เห็นไฟสว่าง และไปมาเยอะแยะ จอดมาหลายปี ไม่น่าเชื่อว่าจะมีแก๊งมาเอายางไปง่ายๆ แถมแค่ 2 นาทีก็เอาไป 4 ล้อ ใครพบเจอช่วยกันแจ้งด้วยนะครับ ยางเส้นหนึ่งไม่ใช่ถูกๆ ครับ 

ที่มา : www.youtube.com/watch?v=GXwPes_vvb8

วันพฤหัสบดีที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

T_T &*

ฉันเดินเล่นอยู่ในห้าง ขณะที่เดินผ่านแคชเชียร์แผนกตุ๊กตา ก็ได้ยินพนักงานพูดกับเด็กชายตัวน้อยๆว่า "เงินไม่ครบนะจ๊ะ ไปหาเงินให้ครบก่อนแล้วค่อยมาซื้อใหม่" เด็กชายตอบว่า "ช่วยลองนับใหม่อีกทีได้เปล่าครับ" แคชเชียร์ก็ลองนับดู ซึ่งก็ไม่ครบเหมือนเดิม จึงบอกเด็กน้อยว่า "เงินมันไม่ครบจ๊ะ ไว้มีครบค่อยมาใหม่นะจ๊ะ" เด็กน้อยยังคงถือตุ๊กตาไว้ "ฉันจึงเข้าไปถามเด็กน้อยว่าหนูอยากได้มากเลยเหรอ" เด็กน้อยตอบกลับมาว่า "พี่สาวผม เค้าชอบและอยากได้ตุ๊กตาตัวนี้มากครับ" "ผมต้องการให้เป็นของขวัญวันเกิดพี่ ผมจะเอาไปให้แม่ เพราะแม่สามารถเอาไปให้พี่เค้าได้" เด็กน้อยแววตาเต็มไปด้วยความโศรกเศร้า และพูดต่อว่า "พี่สาวผม เค้าไปอยู่กับพระเจ้าแล้ว..." "พ่อผมบอกว่า แม่ ก็กำลังจะตามไปเร็วๆนี้ ผมเลยตั้งใจจะฝากแม่ผมไปให้พี่" ฉันฟังแล้วหัวใจแทบหยุดเต้น เด็กน้อยมองมาที่ฉัน และพูดต่อ "ผมบอกพ่อว่า อย่าเพิ่งให้แม่ไปจนกว่าผมจะกลับมาจากห้าง" จากนั้นเด็กน้อยให้ดูรูปๆหนึ่ง เป็นรูปของเขากับพี่สาวกำลังหัวเราะกันอย่างมีความสุข แล้วเล่าต่อว่า "ผมอยากเอารูปนี้ ฝากให้แม่ไปด้วย เอาไปให้พี่สาวผม เค้าจะได้ไม่ลืมผม" "ผมไม่อยากให้แม่จากไปเลย แต่พ่อบอกว่าแม่ต้องไปหาพี่" พูดจบเด็กน้อยก็ก้มมองตุ๊กตาด้วยใบหน้าน้ำตาไหลนอง ทุกอย่างนิ่งเงียบสนิท ครั้งตั้งสติได้ ฉันก็ควักกระเป๋าสตางค์ และถามแคชเชียร์ว่า "ยังขาดอีกเท่าไหร่ค่ะ" แล้วฉันก็จ่ายส่วนที่ขาดให้ เด็กน้อยพูดขึ้นมาว่า "ขอบคุณพระเจ้า" เด็กน้อยมาหน้าฉันแล้วเล่าให้ฟังว่า "เมื่อคืน ผมวิงวอนขอจากพระเจ้าให้มีเงินซื้อตุ๊กตานี้เพื่อที่จะฝากให้แม่ไปให้พี่สาวผม และผมยังขอดอกกุหลาบสีขาว ซึ่งแม่ผมชอบมากไว้ด้วย ผมรู้สึกได้ พระเจ้าบอกให้ผมมาที่นี่ แต่ผมไม่ได้ถามอะไรมากไปกว่านั้น"

หลังจากเดินห้างเสร็จ ในหัวฉันคิดวนไปวนมาแต่เรื่องเด็กน้อย และก็นึกขึ้นได้ถึงข่าวในหนังสือพิมพ์ของสองวันก่อน เป็นข่าวอุบัติเหตุรถบรรทุกชนกับรถเก๋ง ในรถเก๋งเด็กหญิงตายในที่เกิดเหตุ และคุณแม่อาการหนัก ส่วนฝ่ายรถบรรทุกบาดเจ็บสาหัสเช่นกัน ตรวจสอบแล้ว คนขับรถบรรทุกเมาแล้วขับ ซึ่งตอนนี้ คุณพ่อของเด็กหญิงที่ตาย อยู่ที่โรงพยาบาลดูอาการของ แม่เด็กหญิงที่ตาย และตัดสินใจ จะให้หมอ ถอดสายช่วยชีวิตออก เนื่องจากอาการหนักมากๆ ไม่สามารถรักษาได้ ทำได้แค่เพียงรั้งชีวิตไว้ให้ได้นานที่สุด ซึ่งคนไข้ จะทรมานมาก ฉันก็เริ่มคิดว่า คนในข่าวนี้ ใช่ครอบครัวของเด็กน้อยในวันนี้รึเปล่า

สองวันหลังจากนั้น ฉันก็เห็นข่าวว่า คุณแม่คนนั้น ได้เสียชีวิตแล้ว ด้วยความคาใจ ว่าใช่ครอบครัวของเด็กน้อยในวันนั้นรึเปล่า ฉันจึงลองหาข้อมูลของผู้ตาย สอบถามจากคนละแวกนั้นว่าผู้ตายทำพิธีศพที่ไหน และฉันก็ตามไปจนเจอ

สิ่งที่ฉันพบจากหลุมฝังศพผู้หญิงในข่าวก็คือ รูปภาพประดับบนโลงศพ เป็นรูปเธอยืนถือช่อกุหลาบสีขาวด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอย่างมีความสุข , รูปภาพของเด็กชายกับเด็กหญิง กำลังหัวเราะกันอย่างร่าเริง และ ตุ๊กตาหน้าตาละม้ายคล้ายคลึงกับตัวที่เด็กน้อยซื้อไปในวันนั้น ฉันเดินออกจากสถานที่นั้น ด้วยความรู้สึกเหมือนมีใครมาบีบหัวใจไว้ และไม่อยากจะเชื่อ ว่าเด็กน้อยคนนั้นจะเป็นลูกของเธอจริงๆ ได้แต่คิดถึงความรักของเด็กน้อยที่มีต่อแม่ และพี่สาวของเขา และสิ่งที่ทำลายทุกอย่างของเด็กน้อยผู้นี้ คือ ความเห็นแก่ตัว ของผู้ที่ เมาแล้วขับ มันทำลายทุกอย่างไปจากเขา

ถ้าดื่มได้โปรด อย่าขับเลย

ตอนนี้คุณมีทางเลือก 2 ทาง

1 ช่วยกันส่งต่อเรื่องนี้ หรือ

2 ไม่ต้องสนใจ




**** เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่ประเทศอังกฤษ ****

วันพุธที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

แค่ได้คิดถึง - ญารินดา


ตั้งแต่ครั้งที่เราจากกันแสนไกล
เหตุและผลมากมายไม่เคยสำคัญ
เท่ากับความรู้สึกที่ใจของฉันนั้นเก็บให้เธอ

แต่ละครั้งที่เราผ่านมาพบกัน
อาจบังเอิญได้ยินข่าวคราวของเธอ
นั่นคือความรู้สึกที่ใจของฉันคอยอยู่เสมอ

ขอบฟ้าที่เรานั่งบอกคราวนั้นยังมีความหมาย
ต้นไม้ลำธารยิ่งมองยิ่งคิดถึงเธอมากมาย
ชีวิตที่มันขาดเธอวันนี้ยังเดินต่อไป
แค่ได้คิดถึงก็เป็นสุขใจ

หยิบเอาภาพที่เรากอดคอด้วยกัน
ได้แต่ยิ้มกับมันด้วยความชื่นใจ
และก็ยังเสียดายกับการสูญเสียเธออยู่เรื่อยมา

ได้ยินเสียงบทเพลงที่เธอชอบฟัง
และทุกครั้งยังแอบมีน้ำตา
ยิ่งเวลารู้สึกไม่มีไม่เหลือใครอยู่ตรงนี้

ขอบฟ้าที่เรานั่งบอกคราวนั้นยังมีความหมาย
ต้นไม้ลำธารยิ่งมองยิ่งคิดถึงเธอมากมาย
ชีวิตที่มันขาดเธอวันนี้ยังเดินต่อไป
แค่ได้คิดถึงก็เป็นสุขใจ

ขอบฟ้าที่เรานั่งบอกคราวนั้นยังมีความหมาย
ต้นไม้ลำธารยิ่งมองยิ่งคิดถึงเธอมากมาย
ชีวิตที่มันขาดเธอวันนี้ยังเดินต่อไป
แค่ได้คิดถึงก็เป็นสุขใจ

และจะคิดถึงเธอตลอดไป

Via : Shared fr. FB : พี่แป๋ว 
แด่ พี่แ๋ป๋ว  พี่สาว ที่แสนดีเสมอมา

วันอังคารที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

>> ถึง...เธอผู้เป็นเพื่อน.....


....ฉันกลับมาอีกครั้ง............
..กลับมาพร้อมความหวังอย่างเต็มหัวใจ....
....แม้วันวาน..... ฉันจะสูญเสียทุกอย่างไป......
....แต่นี่คือวันไหม่ที่ฉันตั้งใจจะเริ่มต้น...
พายุร้ายได้พ้นผ่าน ..ฉันหวังเห็นฟ้าตระการหลังม่านฝน......
พร้อมแล้วที่จะสู้และอดทน ....
จะเป็นคนที่เข้มแข็งกว่าที่แล้วมา..
ถึงวันพรุ่งนี้..จะไม่เป็น เหมือนดั่งที่คิด
แต่เพราะวันนี้ยังมีชีวิต...และต้องการคุณค่า.....
...วันนี้ ...ฉันจึงกลับมา.......
เพื่อพิสูจน์ว่า..... ..ฉันสามารถจะหยัดยืน....
..และก้าวไปข้างหน้า...เหมือนคนอื่นๆ..ทุกคน......

ใจน้องหล่อมาก แมนมาก พี่แม่งโครตชื่นชมเลย.. Via พชรปพน พุ่มประพันธ์



Via : พชรปพน พุ่มประพันธ์ 
ใจน้องหล่อมาก แมนมาก พี่แม่งโครตชื่นชมเลย..
ใจน้องหล่อมาก แมนมาก พี่แม่งโครตชื่นชมเลย..

ประทับใจและชื่นชมเด็กคนนี้มากครับ ในBTS หญิงท้องเดินเข้ามา (ท้องใหญ่มาก) ผู้ชายที่นั่งเก้าอี้ใกล้หญิงท้องหลายคน ไม่มีใครลุกให้นั่ง ขณะที่เด็กคนนี้ อยู่ฝั่งตรงข้าม ห่างจากหญิงท้อง รีบเก็บของใส่กระเป๋า แล้วเดินไปสะกิดหญิงท้อง ให้มานั่ง..

วันจันทร์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

อยู่แต่ในตึก ระวังเด็กสายตาสั้น!


อยู่แต่ในตึก ระวังเด็กสายตาสั้น!

นักวิจัยแนะผู้ปกครอง อย่าถนอมเด็กให้เล่นอยู่แต่ในตัวอาคาร หลังพบกลุ่มตัวอย่างส่อสายตาสั้น
การให้เด็กใช้ชีวิตอยู่แต่ในบ้าน ในอาคาร โดยไม่ปล่อยให้ออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้งบ้างนั้น ท่านผู้ปกครองควรรู้ไว้ว่า การจำกัดเรื่องดังกล่าว อาจทำให้บุตรหลานมีปัญหาสายตาสั้นได้

มีการศึกษาที่ไต้หวัน โดยไป่ ชาง วู นักวิจัยจากโรงพยาบาลในเกาสง ไปศึกษากับกลุ่มตัวอย่างซึ่งเป็นนักเรียนชั้นประถมราว 300 คน จากโรงเรียนสองแห่งใกล้ๆ กัน โดยพฤติกรรมของเด็กโรงเรียนหนึ่งมักออกมาวิ่งเล่นหรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง ขณะที่เด็กๆ อีกโรงเรียนชอบที่จะทำกิจกรรมยามว่างภายในตัวอาคารเรียนมากกว่า

เมื่อนำเด็กทั้งสองโรงเรียนมาตรวจวัดสายตา พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญอยู่บ้าง โดยผู้วิจัยได้แนะว่า ทั้งผู้ปกครองและครู ควรให้ความสำคัญกับการออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้งของเด็ก เพราะแสงสว่างจากธรรมชาติมีส่วนปกป้องพัฒนาการทางสายตาและการมองเห็นของเด็กๆ ลดโอกาสเปิดปัญหาสายตาสั้น

นอกจากนี้ ยังมีผลวิจัยจากมหาวิทยาลัยซุนยัดเซ็น แดนมังกร ชี้ให้เห็นว่า เด็กที่มักเรียนและเล่นอยู่แต่ในตัวอาคาร ส่วนใหญ่มีการเจริญเติบโตของลูกนัยน์ตายาวเฉลี่ย 0.19 มม. ส่วนเด็กที่ออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้งมากกว่า ลูกนัยน์ตาเจริญเติบโตยาวเฉลี่ยที่ 0.12 มม. ทั้งนี้โดยหลักการแล้ว ถ้าลูกตามีขนาดยาวมากก็จะทำให้สายตาสั้นมาก และเมื่อผลออกมาเป็นเช่นนี้ นักวิจัยจากจีนก็เห็นพ้องว่า ผู้ใหญ่ควรจัดสรรเวลาให้เด็กๆ ออกมาเล่นหรือทำกิจกรรมนอกบ้านบ้าง

แม้ปัญหาสายตาสั้น จะสามารถแก้ไขได้หลายวิธี แต่ก็กระทบต่อการใช้ชีวิตและอาจทำให้เกิดปัญหาสายตาอื่นๆ ในอนาคตได้ เช่น โรคต้อหิน จอประสาทตาฉีกขาดและหลุดลอก ฉะนั้น ลดโอกาสเกิดปัญหาสายตาสั้นไว้คงดีที่สุด.

Credit : dailynews

30 วิธีที่ทำให้ตัวเองมีความสุข



30 วิธีที่ทำให้ตัวเองมีความสุข

เอามาจากFW:MailFrom:"thip khaewon"

30 วิธี ที่ทำให้ตัวเองมีความสุข (ลองอ่านดูว่าจริงป่าว ?)
1.นึกไว้เสมอว่า การโกรธ1นาที จะทำให้ความเครียดอยู่กับคุณ 3 ชั่วโมง
2.ถ้ายิ้มให้กับคนที่อยู่ในกระจกรับรอง ว่าเขาต้องยิ้มตอบกลับมาทุกครั้ง
3.ลองปลูกต้นไม้เองสักต้น การเติบโตของมันจะบ่งบอกถึงตัวตนคุณได้
4.หลับตานิ่งๆ 3 นาที เมื่ออะไรที่อยู่ข้างหน้ามันช่างยากเหลือเกิน
5. ระหว่างแปรงฮัมเพลงไปด้วยจนจบ จะทำให้ฟันสะอาดขึ้นเป็น 2 เท่า
6.เคี้ยวข้าวแต่ละคำให้ช้าลง รสชาติจากที่ธรรมดา ก็จะอร่อยขึ้นเยอะ
7.ไม่ว่าผมสั้นหรือยาวก็ต้องการให้หวีอย่างทะนุถนอมเหมือนกันหมด
8.การขึ้น - ลงบันไดสูงไม่ให้เหนื่อย คือการไม่นับว่ายืนอยู่ขั้นที่เท่าไหร่แล้ว
9. คาตาบอดจะเห็นคนสวยมากๆ ทันทีที่คุณถามเค้าว่า ''ช่วยพาข้ามถนนมั้ยค่ะ''
10.เมื่อหยิบเศษเงินให้ขอทาน ไม่จำเป็นต้องนับก่อนหย่อนลงกระป๋องหรอก
11.ควรหัดพูดคำว่า''ไม่เป็นไร'' มากกว่าจะพูดว่า ''จะเอายังไง''
12.ลองตั้งนาฬิกาให้เร็วขึ้น 15 นาทีแล้วคุณจะไม่สายเหมือนเมื่อก่อน
13.สัตว์เลี้ยงที่บ้านเก็บความลับเก่ง ดังนั้นเรื่องที่ไม่อยากให้ใครรู้ จึงเล่าให้มันฟังได้
14.อาหารที่ไม่ชอบกินตอนเด็ก ลองตักเข้าปากอีกครั้ง เผื่อจะกลายเป็นอาหารจานโปรด
15.เขียนชื่อคนที่คุณเกลียดใส่กระดาษแล้วฉีกทิ้ง หรือแปะไว้ใต้รองเท้าแล้ว ใส่รองเท้านั้นเดินเล่นไปสักพัก ความเกลียดจะเบาบางลงเรื่อยๆ
16.ปล่อยให้น้ำตาไหลโดยไม่ต้องเช็ด เมื่อน้ำตาแห้ง จะดูแทบไม่ออกเลยว่าเพิ่งร้องไห้
17.ตุ๊กตา และของเล่นเก่าๆ จะทำให้เรายิ้มออกเสมอ เมื่อได้เห็นมันอีกครั้ง
18.ก่อนซื้ออะไร ให้นึกว่ามันทำประโยชน์อะไรได้บ้าง ทำให้ได้ 3 ข้อ
19.ถึงเสื้อ กางเกง ในตู้จะมีน้อย แต่ถ้าใส่สลับกันก็จะดูเหมือนมีเยอะขึ้น
20.ซาลาเปา 1 ลูก กินได้ 2 คน ลูกชิ้น 1 ไม้กินได้ 4 คน ถ้าคุณคิดจะแบ่งเท่านั้นเอง
21.เลือกให้ของขวัญคนที่ไม่เคยได้ ดีกว่าให้คนที่ได้เยอะจนจำชื่อคนให้ได้ไม่หมด
22.วันไหนรู้สึกเศร้าๆ เดินไปซื้อดอกไม้ให้ตัวเองสักดอกก็จะดีขึ้น
23.แอบรักใครซักคน...ยังไงก็ดีกว่าไม่รู้ว่าความรักมันเป็นยังไง
24.ถึงไม่ได้ออกไปไหน ก็ไม่ใช่ว่าจะแต่งตัวหล่อๆ สวยๆ ไม่ได้นี่
25.ฝึกโรแมนติกง่ายๆ คนเดียวบ้าง โดยการนั่งนับดาวให้ครบ 100 ดวงก่อนนอน
26.ถ้าคุณเช็ดกระจกที่ขุ่นมัวให้สดใสได้ แล้วทำไมจะเรียนดีกว่านี้ไม่ได้
27.พยายามอ่านหนังสือทุกชนิดในมือให้จบ ถึงมันจะไม่สนุก แต่มันก็มีประโยชน์แฝงอยู่
28.วันที่ตื่นเช้า ให้บิดขี้เกียจให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถ้าขี้เกียจออกกำลังกาย
29.แค่เอาข้าวที่กินไม่หมด ไปวางให้หมาที่เดินผ่าน แค่นี้ก็เป็นการทำบุญโดยไม่ต้องลงทุนแล้ว
30.ปิดไฟดวงที่ไม่จำเป็นในบ้าน แม่จะได้มีค่าขนมให้คุณเพิ่มอีกหลายบาท ^^.

วันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

"สัจธรรม"..



1.ไม่ว่าวันนี้จะเลวร้ายแค่ไหน จงยิ้มเข้าไว้...เพราะพรุ่งนี้อาจจะเลวร้ายยิ่งกว่า
2.คำว่า 'พรุ่งนี้รวย' ของคนขายลอตเตอรี่ ไม่ใช่คำมั่นสัญญา แต่เป็นปรัชญาที่ต้องตีความหมาย...เหมือนคำพูดของนักการเมือง ตอนหาเสียง
3.สิ่งที่คนเมาพูด คือ สิ่งที่คนปกติคิด
4.ปัญหาทุกอย่างมีทางแก้ แต่ไม่ว่าคุณจะแก้ดียังไง มันก็จะนำไปสู่ปัญหาใหม่ ที่ต้องให้คุณคิดหาทางแก้ไขต่อไป..เป็นเช่นนี้ไปเรื่อย
5.ทุกปัญหาย่อมมีวิธีแก้ที่ง่ายที่สุด...แต่วิธีแก้ที่ง่ายที่สุด จะพบหลังจากใช้วิธียากที่สุดไปแล้ว
6.อะไรก็ตามที่คุณอยากจะถาม... เป็นไปได้มากว่า มันคือสิ่งที่คุณไม่ควรจะรู้
7.คนเรามักจะพูดในเรื่องที่ไม่ควรพูด ในเวลาที่ไม่เหมาะที่สุด และกับคนที่ไม่น่าจะพูดที่สุด
8.สินค้าที่ประสบความสำเร็จทางการตลาดที่สุด คือ สินค้าที่คนโง่ที่สุดใช้เป็น และอยากจะใช้ แม้จะไม่มีประโยชน์อะไรเลยก็ตาม
9.เมื่อคุณมาประชุมสาย ประธานจะมาตรงเวลา และเมื่อคุณมาตรงเวลา การประชุมเลื่อนไปไม่มีกำหนด
10.อะไรก็ตามที่คุณคิดได้ และรู้สึกว่ามันสุดยอดจริงๆ คุณก็จะพบว่า มีคนอื่นที่ไหนสักแห่ง คิดมาแล้ว
11.คนดีๆ... ล้วนมีเจ้าของไปหมดแล้ว (เหมือนที่จอดรถ)
12.ส่วนคนที่ยังเหลืออยู่... มันก็ต้องมีเหตุผลแหละนะ(ไม่เหมือนที่จอดรถ)
13.อะไรที่คุณเอะใจว่า มันจะดีเกินจริง... เป็นไปได้มากว่า มันไม่จริง
14.ความรัก ก็เหมือนการรอรถเมล์.... สายที่ไม่อยากขึ้น ก็มาจัง ส่วนสายที่ต้องการจะขึ้น ก็รอไปเถอะ พอมาก็ไม่จอด, พอจอด ก็คนแน่น ขึ้นไม่ได้, พอขึ้นได้ รถก็ไปตายกลางทางอีก
15.ความรักก็เหมือนกับเหรียญ แหวน หรือชิ้นส่วนเล็กๆ เพราะเมื่อไหร่ที่มันหลุดมือตกลงพื้น มันจะต้องกลิ้งไปยังซอกที่มืดที่สุด และลึกที่สุด จนเรามองไม่เห็น และเอื้อมไม่ถึง
16.รถไฟอาจจะวิ่งบนราง แต่อย่าด่วนสรุปว่า มันวิ่งไปทางไหน โดยดูจากราง เพราะเมื่อเหลียวกลับมามองอีกที รถไฟขบวนนั้นอาจจะวิ่งผ่านคุณไปแล้วก็ได้ สวย หรือหล่อ ไม่ได้อยู่ที่คำจำกัดความ แต่อยู่ที่จินตนาการ
17.ความรัก สวนทางกับกฎฟิสิกส์ นั่นคือ เมื่อเราให้ความรักกับใครมากเท่าไหร่ เราก็จะได้รับตอบแทนกลับมาเป็น สัดส่วนผกผันกลับ
18.เมื่อไหร่ที่ฝ่ายหนึ่งบอกว่า 'เป็นเพื่อนกัน' แปลว่า 'ต้องการจะเลิกคบกัน'
19.เมื่อไหร่ที่ฝ่ายหนึ่งบอกว่า 'มีอะไรต้องคุยกัน' แปลว่า 'ไม่ต้องการคุยกันอีกแล้ว'
20.ความรักทำให้คนตาบอด, การแต่งงานช่วยให้คนตาสว่าง**********************

วันศุกร์ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

สถานีคลายเครียด

มิตรภาพและไมตรีจิตร...
คือหนทางสู่ความสงบสุขและพลังสร้างสรรค์...

>>เสริมสร้างกำลังใจในการดำ
เนินชีวิตในทุกๆรูปแบบ<<

สถานีเพลงเพราะออนไลน์ตลอด24ช.ม 



**ขอขอบคุณทุกๆมิตรภาพ **
ด้วยจิตรคาระวะ
(นายสุบรรณ์ คำแพง)

วันเสาร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2556

ข้อกำหนดที่เกี่ยวกับการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งมีอะไรบ้าง

ข้อกำหนดที่เกี่ยวกับการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งมีอะไรบ้าง

1. ห้ามซื้อเสียง และห้ามรับเงินและประโยชน์อื่นใด เพื่อลงคะแนนเลือกตั้ง

2. ตั้งแต่ 18.00 น. ของวันที่ 2 มีนาคม 2556 จนถึงเที่ยงคืน
วันที่ 3 มีนาคม 2556 ห้ามขาย ห้ามแจก ห้ามจัดเลี้ยงสุราทุกชนิด ในเขตกรุงเทพมหานคร ฝ่าฝืนมีโทษจำคุก 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

3. ห้ามนายจ้างขัดขวางการไปใช้สิทธิของลูกจ้าง

4. ห้ามขัดขวางหรือหน่วงเหนี่ยวมิให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไป ณ ที่เลือกตั้ง

5. ห้ามจัดยานพาหนะ (ยกเว้นหน่วยงานรัฐ) ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปเลือกตั้ง โดยไม่ต้องเสียค่าโดยสาร

6. ห้ามนำบัตรเลือกตั้งออกจากหน่วยเลือกตั้ง และห้ามทำให้บัตรเลือกตั้งชำรุดอย่างจงใจ

7. ห้ามถ่ายภาพบัตรเลือกตั้งที่ตนเองได้ลงคะแนนแล้ว ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ใด ๆ

8. ไม่จงใจทำเครื่องหมายเพื่อเป็นที่สังเกตไว้ที่บัตรเลือกตั้ง

9. ห้ามเปิดเผย หรือเผยแพร่ผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการเลือกตั้ง (โพล) ในระหว่างเวลา 7 วันก่อนวันเลือกตั้งจนถึงเวลาปิดการลงคะแนนเลือกตั้ง
 
Source : 
FM. 91 Trafficpro ขอขอบคุณรูปภาพจาพ www.kapook.com

กสทช.สำรวจพบสัญญาณ"มือถือ-อินเทอร์เน็ต" ต่ำกว่ามาตรฐาน


ผู้บริโภคกว่า 1,400 ราย ร้องเรียนกสทช.ว่าคุณภาพสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ และอินเทอร์เน็ต ไม่มีคุณภาพ ขณะที่ กสทช.ออกสุ่มตรวจคุณภาพ พบว่า ทุกเครือข่ายสัญญาณต่ำกว่ามาตรฐาน ส่วนการใช้อินเทอร์เน็ตด้วยสัญญาณ 3 จี หลายพื้นที่ ใช้ได้แค่ 2 จี
สำนักงานกสทช .ใช้เวลาสุ่มตรวจสอบตั้งแต่เดือนมกราคม ถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ พบว่า ทุกเครือข่าย ทั้ง เอไอเอส ดีแทค และทีโอที มีคุณภาพสัญญาณด้านบริการเสียง อยู่ในเกณฑ์ต่ำกว่ามาตรฐาน เฉลี่ยร้อยละ 60-70 มีเพียงเครือข่ายทรูมูฟ ที่อยู่ในเกณฑ์
ซึ่งปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นในช่วง ผู้ให้บริการกำลังทำระบบ 3 จี ที่จะเปิดให้บริการในเดือนเมษายนนี้ โดยพื้นที่ ยานนาวา บางโพงพาง พระราม 3 บางรัก และท่าพระ เป็นจุดที่พบปัญหาสัญญาณอ่อนมากที่สุด
ส่วนผลทดสอบสัญญาณอินเทอร์เน็ต หรือ ข้อมูลเดต้า ด้วยสัญญาณ 3 จี พบว่า ทุกเครือข่ายยังไม่ได้คุณภาพตามที่กสทช.กำหนด เกี่ยวกับคุณสมบัติความเร็วการให้บริการ 3 จีและหลายพื้นที่ในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัดยังไม่สามารถใช้สัญญาณ 3 จีได้ ซึ่งปัญหาส่วนหนึ่งเกิดจากโครงข่ายไม่ครอบคลุม และจำนวนผู้ใช้โทรศัพท์ในปัจจุบันมีมากว่า 70 ล้านเครื่อง ส่งผลให้ช่องสัญญาณเบียดกันไปมา
โดยสัปดาห์หน้าจะเชิญผู้ประกอบการทุกรายหารือเพื่อร่วมหาทางแก้ปัญหาและกสทช.จะส่งเจ้าหน้าที่สุ่มตรวจสอบหลายพื้นที่ต่อเนื่อง






Source : news.thaipbs.or.th

ระวังใช้สื่อออนไลน์ ช่วงเลือกตั้ง ผู้ว่า 3 มี.ค.56

เครดิต ตามภาพ /ขอบคุณรูปภาพ www.kapook.com

วันศุกร์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2556

ก.พลังงาน ประสานเสียง กฟผ. ยันสถานการณ์พลังงานไทยยังไม่เลวร้าย ข่าวไทยรัฐออนไลน์»

ก.พลังงาน ประสานเสียง กฟผ. ยันสถานการณ์พลังงานไทยยังไม่เลวร้าย มีไฟฟ้าสำรองเพียงพอ เตรียมตั้งศูนย์รับซื้อไฟฟ้าระหว่างประเทศ ลดการนำเข้าก๊าซธรรมชาติมาผลิตไฟฟ้าเอง ด้านนายกสภาวิศวกร หนุนใช้พลังงานนิวเคลี...

อ่านเนื้อหาข่าว คลิ๊ก  :  ก.พลังงาน ประสานเสียง กฟผ. ยันสถานการณ์พลังงานไทยยังไม่เลวร้าย »

พศ.เผยคลิปเณรรุ่นพี่ทะเลาะรุ่นน้องจริง




พศ.เผยคลิปเณรรุ่นพี่ทะเลาะรุ่นน้องจริง  คมชัดลึกออนไลน์วันที่ 01-03-2556
ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาลำปาง เผยคลิปสามเณรรุ่นพี่กระทืบสามเณรรุ่นน้องเป็นเรื่องจริง แต่เรื่่องจบนานแล้ว

1 มี.ค.56 นายอุบลพันธ์ ขันผนึก ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีคลิปภาพสามเณร ในชุดผ้าเหลือง ที่แพร่สะพัดในสังคมออนไลน์ โดยภาพสามเณรใช้เท้ากระทืบและเตะสามเณรอีกคนหนึ่ง จนนอนร้องไห้อยู่กับพื้น โดยระบุว่า เป็นในห้องสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ วัดในตัวเมือง จ.ลำปาง คาดว่า น่าจะเป็นห้องพักภายในวัด ในเรื่องดังกล่าวนั้น ทางสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้สั่งการให้ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดลำปาง ทำการตรวจสอบคลิปภาพดังกล่าวที่เกิดขึ้น เพราะถือว่าส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ด้านพระพุทธศาสนาใน จ.ลำปาง อย่างมาก

จากการตรวจสอบอย่างละเอียด พบว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการทะเลาะกันระหว่างสามเณรรุ่นพี่และรุ่นน้องจริง และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโรงเรียนวัดแห่งหนึ่ง ต.เวียงเหนือ อ.เมือง จ.ลำปาง ซึ่งเป็นโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา สังกัดกองพุทศาสน์ศึกษา สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดยเป็นโรงเรียนที่เปิดรับสามเณรเข้าศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลาย ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นมานานกว่า 1 ปี แล้ว โดยที่ทางโรงเรียน และทางผู้ปกครองสามเณร ก็รับทราบ และเรื่องก็จบกันไปแล้ว ก่อนที่จะแต่ก็มีภาพหลุดออกมาภายหลัง ซึ่งเรื่องนี้จะได้รายงานข้อเท็จจริงไปยังสำนักพระพุทธศาสนา ต่อไป

สำหรับคลิปเป็นภาพสามเณร ในชุดผ้าเหลือง ใช้เท้ากระทืบ และเตะสามเณรอีกคนหนึ่ง จนนอนร้องไห้อยู่กับพื้น จนสามเณรที่ถูกกระทืบ และถูกเตะกลิ้งไปมากับพื้น และมีสามเณรอีก 4 รูป ยืนดูอยู่ โดยที่ไม่มีการห้ามปราบ พร้อมใช้โทรศัพท์มือถือบันทึกภาพเหตุการณไว้ด้วย สำหรับการพูดคุยกันในคลิปภาพดังกล่าวนั้น สาเหตุที่สามเณรรุ่นพี่ ได้ใช้เท้ากระทืบ และเตะสามเณรรุ่นน้อง เนื่องจากต้องการข่มขู่ และเกิดความไม่พอใจ สามเณร ที่ถูกทำร้าย เพราะได้มากร่างมาเทียบชั้นสามเณรรุ่นพี่ จึงต้องทำร้ายสั่งสอนด้วยการกระทืบ และเตะ พร้อมกับข่มขู่ ว่า ไม่ให้ไปบอกใคร ว่า ถูกทำร้ายในครั้งนี้

Solar Flare การระเบิดบนดวงอาทิตย์ที่มีความร้อนถึง 8 ล้านองศาเซลเซียส


Solar Flare การระเบิดบนดวงอาทิตย์ที่มีความร้อนถึง 8 ล้านองศาเซลเซียส มีแรงระเบิดเท่ากับ TNT ถึง 160,000,000,000 megatons ในภาพจะเห็นภาพเปรียบเทียบการระเบิดกับขนาดของโลก ชมวิดีโอจาก Nasa เป็นภาพที่น่าศึกษาเป็นอย่างยิ่ง http://ow.ly/i8sqH
Cr :

ปัตตานี-น้ำท่วม 2 ตำบลยังสูง ต้องใช้เรือเดินทาง

ปัตตานี-น้ำท่วม 2 ตำบลยังสูง ต้องใช้เรือเดินทาง

น้ำยังท่วมสูงใน 2 ตำบล ปะกาฮารัง-บาราเฮาะ อำเภอเมืองปัตตานี เดือดร้อนกว่า 600 หลังคาเรือน ผู้ปกครองต้องพายเรือส่งบุตร-หลานไปเรียนหนังสือ
หลังน้ำเหนือจากจังหวัดยะลาได้ไหลลงสู่แม่น้ำปัตตานีจนเพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่บ่ายวานนี้ ส่งผลให้แม่น้ำลำคลองที่อยู่ติดกับแม่น้ำปัตตานี สูงล้นคลองตามไปด้วย โดยเฉพาะคลองบ้านปะกาฮารัง  อำเภอเมือง  ทำให้บ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ ม.2 บ.ยือโม๊ะ และ ม .2 บ.จางา ถูกน้ำท่วมตั้งแต่เมื่อวานนี้
ล่าสุด วันนี้ ( 1 มี.ค.) ระดับน้ำยังสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เส้นทางเข้าหมู่บ้านมีน้ำท่วมสูงกว่า 50 ซม. เพิ่มขึ้นจากเดิม 20 ซม.รถยนต์ไม่สามารถเข้าออกได้ ส่วนภายในหมู่บ้านระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร ชาวบ้านต้องใช้เรือเป็นพาหนะในการเดินทาง เข้าออกหมู่บ้าน โดยเฉพาะในช่วงเช้า ผู้ปกครองต้องใช้เรือพายรับส่งบุตรหลานไปโรงเรียน ส่วนผู้ปกครองที่ไม่มีเรือ เด็กนักเรียนก็ต้องหยุดเรียนโดยปริยาย
นอกจากนี้น้ำยังได้ทะลักเข้าท่วมในพื้นที่ ม.8 บ.ปากาลีมาปูโระ และ ม.8 บ.บลีดอ ตำบลบาราเฮาะ อำเภอเมืองปัตตานี  ตั้งแต่คืนวานนี้ ทำให้ทั้ง 2 ตำบล มีประชาชนเดือดร้อนกว่า 600 หลังคาเรือนแล้ว


      <เนื้อหาข่าวจาก >
ครอบครัวข่าว 3

วันอังคารที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

พัทลุง-สถานการณ์น้ำท่วมยังน่าห่วง


สถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดพัทลุงล่าสุดยังมีฝนตกลงมาทำให้น้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัดไหลเข้าท่วมหลายพื้นที่ ประชาชนเดือดร้อน พืชผลการเกษตรเสียหายจำนวนมาก เช้านี้โรงเรียนกว่า 20 แห่ง ต้องปิดการเรียนการสอน

เช้านี้ (26 ก.พ.) ฝนที่ยังตกลงมาทำให้น้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัดไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มแถบเชิงเขาในหลายตำบลของอำเภอกงหรา อำเภอศรีนครินทร์ อำเภอเขาชัยสน อำเภอศรีบรรพต อำเภอควนขนุน และ อำเภอเมือง โดยน้ำไหลท่วมสวนยางพารา และนาข้าว ที่กำลังรอการเก็บเกี่ยวเสียหายไปแล้วกว่า 50,000 ไร่ ระดับน้ำเฉลี่ยสูงกว่า 80 ซม.- 1 เมตร ถนนหลายสายรถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ โดยถนนสายเอเชียระหว่างจังหวัดพัทลุง-นครศรีธรรมราช ขาขึ้นตรงแยกโพทอง เจ้าหน้าที่ต้องใช้แผงกั้นปิดเส้นทางจราจร 1 ช่องทาง และ เส้นทางเข้าอำเภอศรีบรรพต ตรงหน้าวัดล้อ เนื่องจากมีน้ำไหลผ่าน ในขณะที่ชาวบ้านได้รับผลกระทบแล้วกว่า 18,000 ครัวเรือน

ส่วนชาวบ้านในพื้นที่ ม.6,8 ตำบลแพรกหา อำเภอควนขนุน ม.2-3-8-9-10 ตำบลนาโหนด ตำบลท่าแค อำเภอเมือง ซึ่งเป็นพื้นที่น้ำป่าไหลท่วมหนักสุด ต้องเร่งขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง หลังน้ำป่าไหลเข้าท่วมกลางดึก และเพิ่มระดับขึ้นเรื่อยๆ


ขณะที่เช้าวันนี้ โรงเรียนระดับประถมศึกษา และมัธยมศึกษา กว่า 20 โรง ต้องปิดการเรียนการสอน เนื่องจากน้ำยังท่วมสูงทั้งภายในโรงเรียนและเส้นทางระหว่างโรงเรียนกับบ้านเรือน

Most watched