วันจันทร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

News ไทย BBC News บีบีซีไทย นาวิเกชัน หมวดข่าว โควิด-19 : Update 03 พ.ค.2563 ยอดผู้ติดเชื้อทั่วโลกมีกว่า 3.38 ล้านราย ในสหรัฐฯ ยอดผู้เสียชีวิตทะลุ 6.5 หมื่นคน

GETTY IMAGES
คำบรรยายภาพชาวอเมริกันทั่วประเทศออกมาประท้วงการใช้มาตรการล็อกดาวน์ของทางการอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาก
ผ่านไป 4 เดือนหลังการระบาดในจีน จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ทั่วโลกมีกว่า 3.38 ล้านราย และยอดผู้เสียชีวิตกว่า 240,654 ราย ใน 185 ประเทศ เขตเศรษฐกิจ และ ดินแดน ทั่วโลก
หลายฝ่ายเชื่อว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อจริงจะมีมากกว่าตัวเลขข้างต้นที่รวบรวมโดย มหาวิทยาลัยจอห์นส์ฮอปกินส์
ใช้เวลาเพียงเดือนครึ่งเท่านั้น ที่จำนวนผู้ติดเชื้อรวมทั่วโลกพุ่งไปถึง 100,000 รายแรก และด้วยอัตราการพุ่งขึ้นเป็นทวีคูณในรอบสัปดาห์นี้ทำให้ยอดรวมทั่วโลกพุ่งเป็น 1 ล้านคนแล้ว โดยราว ¼ ของยอดผู้ติดเชื้อรวมอยู่ในสหรัฐอเมริกา และ ½ อยู่ในทวีปยุโรป
สถานการณ์โลก 2 พ.ค.
สหรัฐฯ มียอดผู้เสียชีวิตกว่า 65,244 รายแล้ว นอกจากนี้ ยังมียอดผู้ติดเชื้อมากกว่า 1,115,848 คน หรือเกือบ 1 ใน 3 ของจำนวนผู้ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อทั่วโลก โดยที่นครนิวยอร์กแห่งเดียวมีผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโนาสายพันธุ์ใหม่แล้วอย่างน้อย 18,399 คน
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐฯ อนุมัติการใช้ยาต้านไวรัสเรมเดซิเวียร์ (Remdesivir) ที่ถูกคิดค้นขึ้นเพื่อรักษาไวรัสอีโบลา ในการรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่อาการอยู่ในขั้นวิกฤติ หลังจากผลงานวิจัยบ่งชี้ว่ายาชนิดนี้ใช้ได้ผล
โรคภูมิแพ้แห่งชาติของสหรัฐฯ ( เอ็นไอเอช ) ได้ทำการทดลองทางคลินิกเกี่ยวกับประสิทธิภาพของยาเรมเดซิเวียร์ กับกลุ่มผู้ป่วยโรคโควิด-19 จำนวน 1,063 คน ใน 68 ประเทศ
ผลปรากฏว่าการใช้ยาเรมเดซิเวียร์ช่วยลดระยะเวลาการรักษาได้ราว 31% โดยผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นภายใน 11 วันหลังจากได้รับยา ในขณะที่การรักษาด้วยวิธีปกติ ผู้ป่วยจะมีอาการดีขึ้นภายใน 15 วัน
แม้สถานการณ์การระบาดในสหรัฐฯ ยังไม่คลี่คลาย แต่ในพื้นที่หลายรัฐซึ่งรวมถึง รัฐไอดาโฮ และแอละแบมา เตรียมผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ส่วนรัฐเท็กซัสได้ยกเลิกคำสั่งให้ประชาชน 29 ล้านคนเก็บตัวอยู่ในบ้านแล้ว
สเปน เป็นอีกประเทศในยุโรปที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่อย่างรุนแรง และมียอดผู้ติดเชื้อสะสมมากเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากสหรัฐฯ
โดยขณะนี้ประเทศมียอดผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 แล้วอย่างน้อย 24,824 ราย แต่อัตราการเสียชีวิตมีได้ลดต่ำลงอย่างต่อเนื่อง
ในวันที่ 2 พ.ค. ทางการได้ผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ โดยอนุญาตให้ผู้ใหญ่สามารถออกกำลังกายนอกบ้าน ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 7 สัปดาห์
รัฐบาลสเปนเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรปตั้งแต่สัปดาห์ก่อน โดยอนุญาตให้เด็กออกนอกบ้านได้ตามระยะเวลาที่กำหนด
ทางการได้กำหนดช่วงเวลาการออกกำลังกายนอกบ้านสำหรับกลุ่มคนวัยต่าง ๆ เช่น ผู้ใหญ่ส่วนมากสามารถออกไปเดิน, วิ่ง และปั่นจักรยานได้ระหว่างเวลา 06:00-10:00 และ 20:00-23:00
ด้านนายกรัฐมนตรีเปโดร ซานเชซ ของสเปนได้ประกาศข้อบังคับให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยขณะใช้บริการขนส่งสาธารณะตั้งแต่วันจันทร์ที่ 4 พ.ค.เป็นต้นไป
อิตาลี มีผู้เสียชีวิต 28,236 รายแล้ว ซึ่งสูงสุดในยุโรป ส่วนตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมในประเทศอยู่ที่ 209,328 คน
ฝรั่งเศส มียอดผู้ติดเชื้อสะสมกว่า 167,305 ราย และผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 24,628 ราย ซึ่งสูงสุดเป็นอันดับ 3 ในยุโรป รองจาก อิตาลี และสหราชอาณาจักร
รัฐบาลฝรั่งเศสประกาศแผนขยายกรอบเวลาการใช้มาตรการสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศออกไปจนถึงวันที่ 24 ก.ค.นี้
รถไฟยูโรสตาร์ที่วิ่งให้บริการระหว่างฝรั่งเศส, อังกฤษ และเบลเยียม ประกาศข้อบังคับให้ผู้โดยสารสวมหน้ากากเมื่อใช้บริการโดยเริ่มมีผลตั้งแต่วันจันทร์ที่ 4 พ.ค.นี้
สหราชอาณาจักร มียอดผู้เสียชีวิตมากเป็นอันดับ 3 ของโลกแล้วที่อย่างน้อย 28,131 ราย รองจากสหรัฐฯ และอิตาลี หลังจากรอบ 24 ชม.ที่ผ่านมามีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 621 คน
ส่วนยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นอีก 4,806 คน ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมในประเทศอยู่ที่ 182,260 คน
อย่างไรก็ตาม ทางการระบุว่า จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ในโรงพยาบาลลดลงกว่า 13% เช่นเดียวกับจำนวนผู้ป่วยในห้องไอซียู และอัตราการเสียชีวิตที่เริ่มลดลงแล้ว
ขณะเดียวกัน อาสาสมัครหลายพันคนได้ลงทะเบียนเข้าร่วมการทดลอง เพื่อหาว่าจะสามารถใช้แอนติบอดีที่สกัดจากน้ำเลือดหรือพลาสมาของผู้ที่หายป่วยจากโรคโควิด-19 มาใช้พัฒนายารักษาด้วยวิธีรับภูมิคุ้มกันที่ได้จากผู้อื่นมาโดยตรงหรือไม่
มาเลเซีย ตำรวจได้กวาดล้างผู้อพยพและแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ในช่วงที่ประเทศกำลังใช้มาตรการล็อดดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
สำนักงานตำรวจแห่งชาติของมาเลเซียแถลงเมื่อ 2 พ.ค. ว่าเจ้าหน้าที่ได้จับกุมคนต่างด้าวนอกระบบเป็นจำนวนมาก ซึ่งรวมถึงชาวโรฮิงญา แล้วควบคุมตัวไว้ในที่เดียวกัน จนกว่ามาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาลจะสิ้นสุดลง โดยปฏิบัติการครั้งนี้อยู่ในพื้นที่กรุงกัวลาลัมเปอร์
องค์การสหประชาชาติ เรียกร้องให้ทางการมาเลเซียปล่อยตัวเด็กและผู้อยู่ในกลุ่มเสี่ยงโรคโควิด-19 ออกจากค่ายกักกันผู้อพยพที่พวกเขาถูกนำไปควบคุมตัว
ขณะที่องค์กรเพื่อสิทธิมนุษยชน ฮิวแมนไรท์วอทช์ เตือนว่า การควบคุมตัวเช่นนี้มีความเสี่ยงที่จะทำให้สถานการณ์โรคระบาดในมาเลยเซียเลวร้ายลง ทั้งในแง่ของความเสี่ยงที่โรคจะระบาดภายในค่าย และอาจทำให้คนต่างด้าวนอกระบบไม่ให้ความร่วมมือกับทางการ
ปัจจุบันมาเลเซียซึ่งมีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 กว่า 100 คน อยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศมาตั้งแต่วันที่ 18 มี.ค. ซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 12 พ.ค.นี้ โดยทางการจะเริ่มทยอยผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรควันที่ 4 พ.ค.นี้
โควิด
Image copyrightWPA POOL

แอนติบอดี
องค์การอนามัยโลก ออกมาเตือนว่า การตรวจหาแอนติบอดีในร่างกายยังไม่ใช่หนทางที่ได้ผลในการสู้กับการระบาดของโควิด-19 WHO ระบุว่า ยังไม่มีหลักฐานยืนยันว่าผู้ที่มีแอนติบอดีต่อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในร่างกายจะไม่กลับไปติดโรคโควิด-19 อีก ส่วนคนที่มีแอนติบอดีแล้ว ได้รับเชื้อไวรัสเดิมอีกแต่ไม่แสดง ก็สามารถแพร่เชื้อไวรัสนี้ไปให้คน




























 ประเทศไทย ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) รายงาน เมื่อ 2 พ.ค. ว่า ไทยมียอดผู้ติดเชื้อในระดับ "ต่ำสิบ" ต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 โดยมีผู้ติดเชื้อยืนยันรายใหม่ 6 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต รวมมียอดผู้ป่วยสะสม 2,966 ราย ในจำนวนนี้มี 2,732 รายที่รักษาหายกลับบ้านแล้ว และมีผู้เสียชีวิตสะสม 54 ราย
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงว่า ขณะนี้มีอยู่ 32 จังหวัดที่ไม่มีรายงานผู้ป่วยในช่วง 28 วันที่ผ่านมา และมีอยู่ 9 จังหวัดที่เป็น "จังหวัดสีขาว" คือไม่พบผู้ป่วยโควิด-19 เลย และเมื่อเทียบสถานการณ์ทั่วโลก ถือว่าไทยมีผู้ป่วยเป็นอันดับที่ 60 ของโลก
ในวันนี้ (3 พ.ค.) รัฐบาลจะเริ่มผ่อนปรนมาตรการคุมเข้มเพื่อจำกัดวงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ด้วยการเปิดให้กลุ่มกิจการ/กิจกรรม 6 ประเภทกลับมาเปิดทำการได้ แต่ต้องปฏิบัติตาม "มาตรฐานกลาง" ของรัฐอย่างเคร่งครัด
ท่ามกลางวิกฤตโควิด-19 คณะแพทย์และนักวิจัยทั่วโลกต่างใช้ความพยายามอย่างหนัก เพื่อคิดค้นวัคซีนเพื่อป้องกันโรคอันตรายนี้ ซึ่งอาจจะเป็นความหวังเดียวในการต่อสู้กับโรคนี้



ที่มา: กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ณ วันที่ 3 พ.ค. 2563

วันอาทิตย์ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

ชาย ต า บ อ ด ถือโคมไฟ ยิ่งใจกว้างเท่าใด ทางเดินยิ่งกว้างขึ้นเท่านั้น

ในยุคที่คนในสังคมมีการแข่งขันสูง ชิงดีชิงเด่นกันมากมาย ทุ ก คนต่างเห็น แ ก่ ตัวกันมากขึ้น
พร้อมที่จะทำ ทุ ก อ ย่ า ง เพื่อตัวเอง และ เอาเปรียบคนอื่นใน ทุ ก ครั้งที่มีโอกาส
ดั่งเรื่องราวของ “ชาย ต า บ อ ด ถือโคมไฟ” ที่ท่านจะได้ อ่ า น ต่อไปนี้ เรื่องมีอยู่ว่า…

มีซอยอยู่ที่หนึ่ง ที่มีแต่ความมืด และ แคบ และไม่มีแสงไฟส่องทางให้ความสว่าง
แต่มีคนเดินสัญจรไปมาเยอะมาก เพราะ เป็นทางลัดที่ช่วยประหยัดเวลาในการเดินทาง
ในคืนหนึ่งก็ได้มี พ ร ะ รูปหนึ่งเดิน ผ่ า น เข้ามายังตรอกเพื่อมุ่งหน้าไปยังวัด
ซึ่งในซอยที่มีแต่ความมืดนี้ มืดมากกระทั่งนิ้วมือทั้งห้า ยังไม่อาจมองเห็นได้
เมื่อเดินไปเรื่อยๆ พ ร ะ รูปนี้จึงทั้งเดินไปชนผู้อื่น และ ถูกผู้อื่นเดินมาชนจน ทุ ก คนเห็นเป็นเรื่องปกติ
แต่สำหรับพ ร ะ แล้วนั้น สร้างความลำบากใจยิ่งนักเพราะ มองไม่ออก ไม่รู้ว่าเดินชนผู้หญิงไปบ้างไหม
แต่สำหรับพ ร ะ แล้วนั้น สร้างความลำบากใจยิ่งนักเพราะ มองไม่ออก ไม่รู้ว่าเดินชนผู้หญิงไปบ้างไหม
ในตอนนั้นเองก็ได้มี ชายผู้หนึ่ง ถือโคมไฟเดินเข้ามาในซอยแห่งนี้ ทำให้ในตรอกเกิดแสงสว่างขึ้นพอสมควร
พ ร ะ ได้ยินคนที่เดิน ผ่ า น ไปมาแถวนั้นพูดขึ้นมาว่า… ” คน ต า บ อ ด ผู้นั้นช่างแปลกนัก ตนเองมองไม่เห็นแท้ๆ ใยต้องถือโคมไฟให้วุ่นวาย “
เมื่อ พ ร ะ ได้ยินก็รู้สึกแปลกใจรอจนกระทั่งชายผู้นั้นถือโคมไฟคนนั้นเดิน ผ่ า น มา

จึงเอ่ยถามขึ้นว่า… ” ขอ อ ภั ย ท่าน ต า บ อ ด จริงๆ หรือ…? “
คนผู้นั้นตอบว่า… ” ถูกแล้ว ข้าเกิดมาก็ พิ ก า ร ตาสองข้างมองไม่เห็น สำหรับข้านั้นไม่ว่าจะ ย า ม เช้า สาย บ่าย เย็น ล้วนไม่ต่างกัน ทั้งยังไม่ทราบว่า แสงสว่างหน้าตาเป็นเช่นไร “
พ ร ะ ได้ยินดังนั้นก็ยิ่งงุนงงมากขึ้น เอ่ยถามต่อไปว่า… ” เช่นนั้นท่านจะถือโคมไฟไปเพื่ออะไร…? “
คน ต า บ อ ด ตอบว่า… ” เนื่องเพราะข้าเคยได้ยินคนพูดกันว่าใน ย า ม กลางคืน ไร้แสงสว่าง คนตาดีทั้งหลายก็เป็นเช่นเดียวกับข้า คือมองไม่เห็นสิ่งใด เมื่อครู่ท่านเดิน อ ย่ า ง มืดมนในตรอกใช่โดนคนเดินสวนไปมาชนเอา ใช่หรือไม่…? “
” ท่านดู อ ย่ า ง ตัวข้า แม้ข้าเป็นคน ต า บ อ ด แต่ข้าไม่โดนผู้อื่นเดินชนเลยแม้แต่ครั้งเดียว ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนข้าก็เป็นเช่นเดียวกับท่าน คือโดนคนเดินมาชนเอาบ่อยครั้ง แต่เมื่อข้าถือโคมไฟ ทุ ก อ ย่ า ง ก็เปลี่ยนไป… ที่ข้าถือโคมไปไหนมาไหนด้วยนั้น ข้าจุดเพื่อให้แสงสว่างกับผู้อื่น และ เพื่อให้ผู้อื่นมองเห็นตัวข้า ตั้งแต่นั้นมาข้าก็ไม่โดนผู้ใดเดินชนอีกเลย “

พ ร ะ ได้ยินความดังนั้นก็บรรลุในธรรม เข้าใจแล้วที่เขาว่า… ” การช่วยเหลือผู้อื่นเป็นประโยชน์สูงสุดล้วนกลับคืนมาสู่ผู้ให้ “

หากเราคิดจะตั้งหน้าตั้งตาเดินไปให้ถึงจุดหมายปลายทาง โดยไม่สนใจผู้คนรอบข้าง

ในถนนที่มืดมิด และ มีผู้คนมากมาย ต่อให้ทางเดินกว้างเท่าใดก็แคบอยู่ดี

ยิ่งใจคุณกว้างเท่าใด… โลกก็กว้างตามคุณเท่านั้น

ชาย ต า บ อ ด ถึงแม้สายตาจะมืดบอด แต่แสงในโคมไฟยังส่องแสงสว่างให้ผู้คนรอบข้างเสมอ
                           __________


เห็นลูกโป่งที่มากมายนี้ไหม นี่คือเรื่องที่เกิดขึ้นในโรงเรียนแห่งหนึ่ง
คุณครูนำลูกโป่งไปโรงเรียน และ ขอให้นักเรียนเป่าให้มัน ข ย า ย เต็มใบ หลังจากนั้นให้แต่ละคนเขียนชื่อของพวกเขาบนลูกโป่งของตัวเอง

ต่อจากนั้นให้นักเรียนโยนลูกโป่งทั้งหมดลงไปในโถงทางเดิน แล้วคุณครูก็กระจายลูกโป่งไปทั่วบริเวณห้อง และ บอก เ ด็ ก ๆ ว่า… ” ให้เวลา 5 นาที เพื่อหาลูกโป่งที่มีชื่อของตัวเอง “
เ ด็ ก ๆ วิ่งไปรอบๆ มองไปเรื่อยๆ จนกระะทั่งเวลาหมดไป ไม่มีใครเจอลูกโป่งของตัวเอง…!!
จากนั้นคุณครูเลยบอกให้พวกเขาหยิบลูกโป่งใบที่ใกล้ตัวเองที่สุด และนำไปให้คนที่มีชื่อบนลูกโป่ง ภายในเวลาไม่ถึง 2 นาที? ทุ ก คนก็มีลูกโป่งที่มีชื่อตัวเอง
หลังจากจบการเล่นเกมคุณครูก็บอก เ ด็ ก ๆ ว่า…. ” ลูกโป่งก็เหมือนสภาพสังคนในปัจจุบัน ถ้า ทุ ก ๆ คนใส่ใจผู้อื่นบ้างแม้เพียงเล็กน้อย เราจะพบสิ่งที่ตามหาอยู่ได้เร็วขึ้น “


Cr. ขอบคุณข้อคิดและเรื่องราวดีๆจาก : พ ร ะ พุทโธอวโล กิเตศวร , mongkhonrata sukhasavasdi
          _______________

>  ติดตามข่าวสารประชาสัมพันธ์
>  ข้อความคำคมแวะเติมกำลังใจ
>   ปลุกพลังบวก และ หลักคิด
>   ข่าวสารการตลาดที่น่าสนใจ
____________________________

       Suban Kampaeng
         
              Blogger

Cryptocurrency Expert
 [Mobile 064-0051137]
       
 SubanBlog | suban2008.blogspot.com
[license number:pub-1584973184431863]

ทำไมประกันสังคมยังไม่ได้เงิน วอนนายจ้างรีบส่งหนังสือรับรองหยุดงานลูกจ้างด่วน

ยังไม่ได้เงินประกันสังคม เพราะนายจ้างยังไม่ได้ส่งหนังสือรับรองการหยุดงานของลูกจ้างช่วงโควิด 19 ประกันสังคมวอนเร่งทำ จะได้จ่ายเงินให้ลูกจ้าง

นางพิศมัย นิธิไพบูลย์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกรม สำนักงานประกันสังคม ในฐานะโฆษกสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยว่า ขณะนี้ สำนักงานประกันสังคมได้เร่งดำเนินงานจ่ายสิทธิประโยชน์กรณีว่างงานเนื่องจากมีเหตุสุดวิสัยให้กับผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ซึ่งมีผู้ประกันตนได้ยื่นขอรับสิทธิเป็นจำนวนมาก แต่ยังขาดนายจ้างรับรองการหยุดงานดังกล่าว ส่งผลให้ผู้ประกันตนได้รับสิทธิล่าช้า

จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่าเป็นสถานประกอบการขนาดใหญ่ กว่า 190 แห่ง เป็นสถานประกอบการขนาดเล็กกว่า 50,000 แห่ง ซึ่งขณะนี้ ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานของกระทรวงแรงงานในทุกพื้นที่ ทั่วประเทศเร่งติดตามนายจ้างดังกล่าวให้เร่งยื่นรับรองการหยุดงานของลูกจ้าง
ทั้งนี้ ในการรับรองการหยุดงานนั้น สามารถทำผ่านเว็บไซต์ได้ทันที (คลิก ที่นี่) เฉพาะในช่วงสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 นายจ้างสามารถเข้าใช้บริการได้ทันที โดยที่นายจ้างสามารถยื่นแบบ สปส.1-05 ต่อสำนักงานประกันสังคมในภายหลัง เพื่ออำนวยความสะดวก รวดเร็วแก่นายจ้างในการบันทึกหนังสือรับรองการหยุดงานของลูกจ้างอันเนื่องจากเหตุสุดวิสัย เพื่อสำนักงานประกันสังคมได้เร่งรัดการดำเนินการเพื่อให้สิทธิประโยชน์ถึงมือผู้ประกันตนโดยเร็วที่สุด 
โดยสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ทั้ง 12 แห่ง/จังหวัด/สาขาทั่วประเทศ หรือที่สายด่วน 1506 ให้บริการไม่เว้นวันหยุดราชการตลอด 24 ชั่วโมง
ข้อมูลจากประกันสังคม
            -----------------
#COVID19
#สำนักงานประกันสังคม
#เงินเยียวยา #ลงทะเบียนว่างงาน
---------------
>  ติดตามข่าวสารประชาสัมพันธ์ 
>  ข้อความคำคมแวะเติมกำลังใจ
>   ปลุกพลังบวก และ หลักคิด
>   ข่าวสารการตลาดที่น่าสนใจ

Suban Kampaeng
Blogger
Cryptocurrency expert

วันเสาร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2563

Cryptocurrency Market Update: Top-3 coins overview

Cryptocurrency experts believe that Bitcoin is well-positioned for a strong rally ahead and after the halving. The highly anticipated event will take place in the middle of May and result in Bitcoin's block reward reduction. Halving is scheduled to place every 210,000 blocks or every four years until the maximum supply of 21 million bitcoins has been created by the network.

According to Mati Greenspan, the founder of financial advisory outfit Quantum Economics, Bitcoin will outperform traditional assets due to the upcoming halving and flow of money injected in the financial system.

    ''.. Bitcoin has been the best performing asset by far over the last year and over the last decade. With all the money being injected into the system at this time and the upcoming halving, I don't see any reason it wouldn't continue to outperform, he said as cited by Forbes.''

Top-3 coins overview

BTC/USD has been trading above $7,500 since Friday, April 24. The price of the first digital coin has stayed mostly unchanged both on a day-to-day basis and since the beginning of Satruday. As the upside momentum has faded away,  BTC/USD bulls need to take out $7,600 to get the recovery back on track.

ETH/USD recovered from the intraday low of $186.04 to trade at $194.40 by press time.  The second-largest coin has gained over 3% both on a day-to-day basis and since the beginning of the day amid short-term bullish sentiments and high volatility. The next critical resistance is created by psychological $200.00.

XRP/USD broke above the upper range of the recent consolidation channel $0.1800-$0.1900 and settled at $0.1952 at the time of writing. The coin is moving within the short-term bearish trend in sync with the market. The volatility is high.
                       ------------------

** Information on these pages contains forward-looking statements that involve risks and uncertainties. Markets.

                        -------------------
    ผู้เชี่ยวชาญของ Cryptocurrency เชื่อว่า Bitcoin อยู่ในตำแหน่งที่ดีสำหรับการชุมนุมที่แข็งแกร่งไปข้างหน้าและหลังการหยุดครึ่งหลัง เหตุการณ์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในกลางเดือนพฤษภาคมและส่งผลให้ Bitcoin ลดการให้รางวัลบล็อก Halving มีกำหนดวางบล็อค 210,000 บล็อกหรือทุก ๆ สี่ปีจนกว่าเครือข่ายจะสร้างบิทคอยน์สูงสุด 21 ล้านบิต

ตามที่ Mati Greenspan ผู้ก่อตั้งชุดที่ปรึกษาทางการเงิน Quantum Economics Bitcoin จะมีประสิทธิภาพเหนือกว่าสินทรัพย์แบบดั้งเดิมเนื่องจากการลดลงครึ่งหนึ่งและการไหลของเงินที่ถูกฉีดเข้าสู่ระบบการเงิน

   ".. Bitcoin เป็นสินทรัพย์ที่มีประสิทธิภาพดีที่สุดในช่วงปีที่ผ่านมาและในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ด้วยเงินทั้งหมดที่ถูกฉีดเข้าสู่ระบบในเวลานี้และการลดลงครึ่งหนึ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นฉันไม่เห็นเหตุผลที่จะไม่ดำเนินต่อไปดีกว่าเขากล่าวว่าตามที่ฟอร์บส์อ้าง''

   ภาพรวม 3 เหรียญยอดนิยม

BTC / USD ซื้อขายเหนือระดับ $ 7,500 ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 24 เมษายนราคาของเหรียญดิจิทัลแรกยังคงไม่เปลี่ยนแปลงทั้งในแบบวันต่อวันและตั้งแต่ต้น Satruday เนื่องจากโมเมนตัมคว่ำได้หายไป BTC / USD บูลส์จำเป็นต้องใช้เงิน $ 7,600 เพื่อกู้คืนกลับคืน

ETH / USD ฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดระหว่างวันที่ 186.04 ไปสู่การซื้อขายที่ $ 194.40 ตามเวลากด เหรียญที่ใหญ่เป็นอันดับสองได้รับมากกว่า 3% ทั้งในแบบวันต่อวันและตั้งแต่จุดเริ่มต้นของวันท่ามกลางความเชื่อมั่นในระยะสั้นและความผันผวนสูง ความต้านทานต่อไปที่สำคัญถูกสร้างขึ้นโดยจิตวิทยา $ 200.00

XRP / USD ทะลุระดับสูงสุดของช่องทางรวมที่ผ่านมา $ 0.1800- $ 0.1900 และตัดสินที่ 0.1952 ดอลลาร์ ณ เวลาที่เขียน เหรียญเคลื่อนไหวอยู่ในแนวโน้มขาลงในระยะสั้นที่สอดคล้องกับตลาด ความผันผวนสูง
                             ------------------
**  ข้อมูลในหน้าเหล่านี้มีข้อความเชิงคาดการณ์ล่วงหน้าที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงและความไม่แน่นอน ตลาด.
ที่มา/source : www.fxstreet.com
                           -------------------
* In a turbulent world situation Inevitably has a high risk Situation analysis in situations of crisis Directions or trends are just guidelines for consideration. Please use your judgment when making decisions ....
                      ------------------
"If you have 1 BTC, you will have a profit of around 18,000 baht in a matter of minutes."

        With respect
    Mr Suban Khamphang

* ในสถาณการณ์ป่วนโลก ย่อมมีความเสี่ยงสูง การวิเคราะห์สถานการณ์ในภาวะการณ์ที่กำลังวิกฤติ ทิศทางหรือแนวโน้มเป็นเพียงแนวทางประกอบการพิจารณาเท่านั้น  โปรดใช้วิจารณญานในการตัดสินใจ....
                      ------------------
"หากคุณมีอยู่ 1 BTC คุณจะมีกำไรอยู่ที่ราว ๆ 18,000 บาทในระยะเวลาเพียงแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น"

       'นับถือ
นายสุบรรณ์ คำแพง

Suban Kampaeng
Blogger
Cryptocurrency expert


วันพุธที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2563

พบ "โคโรน่าไวรัส" กลายพันธุ์กว่า 30 สายพันธุ์ | 22 เม.ย. 63 | TNN ข่าว



เครดิต/ที่มา
ขอขอบคุณวีดีโอข่าวจาก : ช่อง16

สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ประจำวันที่22เมษายน2563

ศบค. แถลง ไทยพบผู้ติดเชื้อ "โควิด-19" รายใหม่เพิ่ม 15 ราย รวมยอดสะสม 2,826 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย รวมยอดเสียชีวิตอยู่ที่ 49 ราย รักษาหาย 244 ราย ผู้ป่วยรักษาหายกลับบ้านเเล้ว 2,325 ราย


นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิ โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประจำวัน ว่า ประเทศไทย พบผู้ติดเชื้อ "โควิด-19" รายใหม่เพิ่ม 15 ราย รวมยอดสะสม 2,826 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย รวมยอดเสียชีวิตอยู่ที่ 49 ราย รักษาหาย 244 ราย ผู้ป่วยรักษาหายกลับบ้านเเล้ว 2,325 ราย (83.23%) 




ทั้งนี้ ผู้ป่วยใหม่ที่เพิ่มขึ้นในวันนี้ 15 ราย ใน 6 จังหวัด เข้ารับการรักษาใน ชุมพร (4), สงขลา (4), กรุงเทพมหานคร (3), พระนครศรีอยุธยา (2), ปทุมธานี (1) และ นครปฐม (1)
กรุงเทพมหานคร มีผู้ป่วยที่รับรักษาสะสมมากที่สุด (1,451 ราย) ตามด้วย ภูเก็ต (193), นนทบุรี (152), สมุทรปราการ (109), ยะลา (95), ชลบุรี (85), ปัตตานี (79), สงขลา (43), เชียงใหม่ (40) , และปทุมธานี (35) โดยอยู่ระหว่างการสอบสวนอีก 65 ราย และมีผู้ติดเชื้อที่อยู่ในระหว่าง state quarantine ในจังหวัดต่างๆ 71 ราย


โดยยังมี 9 จังหวัดที่ยังไม่มีรายงานการรับรักษาผู้ป่วย ได้แก่ กำแพงเพชร ชัยนาท ตราด น่าน บึงกาฬ พิจิตร ระนอง สิงห์บุรี และ อ่างทอง
และมีอีก 36 จังหวัดที่ไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อในช่วง 14 วันที่ผ่านมา


วันจันทร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2563

วิธีลงทะเบียน ทบทวนสิทธิ์เราไม่ทิ้งกัน กรอกไม่กี่ข้อ ส่งได้เพียงครั้งเดียว

เปิดวิธีลงทะเบียน ทบทวนสิทธิ์เราไม่ทิ้งกัน ขอยื่นอุทธรณ์รับเงินเยียวยา 5,000 ผ่าน www.เราไม่ทิ้งกัน.com กรอกไม่กี่ข้อ กดยืนยันได้เพียงครั้งเดียว 

วิธีลงทะเบียน ทบทวนสิทธิ์ มีดังนี้


1. เข้าเว็บไซต์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com หรือ (คลิกที่นี้)
2. เลือกคลิกแถบสีม่วง เขียนข้อความว่า "ยื่นทบทวนสิทธิ์" (เฉพาะผู้ที่ไม่ได้รับสิทธิ์ แต่ต้องการยื่นทบทวนสิทธิ์เท่านั้น) หรือ (คลิกที่นี่)
3. กรอกหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน, หมายเลขโทรศัพท์ที่ใช้ลงทะเบียน และ วันเดือนปีเกิด


4. ขึ้นข้อความ "ความยินยอมในการยื่นทบทวนสิทธิ์ อ่านแล้วติ๊กเครื่องหมายถูกหน้าข้อความ ข้าพเจ้าอนุญาตให้กระทรวงการคลัง เก็บ รวบรวมใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวแก่หน่วยงานของรัฐ หรือผู้จัดทำระบบให้กระทรวงการคลังเพื่อประโยชน์ในการพิจารณาทบทวนสิทธิ" แล้วกด "ยืนยันและดำเนินการต่อ"
5. ขณะที่กดติ๊กข้อความ จะขึ้นข้อความอีกว่า "ท่านสามารถยื่นทบทวนสิทธิ์ได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น โปรดตรวจสอบข้อมูลที่ท่านกรอกก่อนยื่นทบทวนสิทธิ์" แล้วกด "ตกลง"
6. เข้าสู่หน้ากรอกข้อมูลอาชีพ โดยเลือก อาชีพของท่าน และกรอกชื่อสถานประกอบการของท่าน จากนั้น ให้เลือกสถานที่ที่เจ้าหน้าที่สามารถติดต่อได้ แล้วกรอกข้อมูลที่ต้องการให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ แล้วกด "ยืนยันและดำเนินการต่อ"


7. ระบบจะส่งเลขรหัส OTP ให้ผู้สมัครทางโทรศัพท์จำนวน 6 ตัว โดยให้นำเลขรหัส OTP กรอกลงช่องข้อมูลดังกล่าว แล้วกด "ยืนยัน"
8. เมื่อเสร็จเรียบร้อย จะขึ้นข้อความว่า 'ยื่นทบทวนสิทธิ์สำเร็จ โปรดเตรียมหลักฐานการประกอบอาชีพของท่านให้พร้อมในกรณีที่เจ้าหน้าที่ติดต่อเพื่อตรวจสอบอาชีพของท่าน".

 ขอขอบคุณเนื้อหาข่าวจากไทยรัฐออนไลน์
source
:  https://www.thairath.co.th/news/business/1825093?utm_source=insider&utm_medium=web_push&utm_campaign=virus_job_200420_0645_copy&webPushId=OTk4NQ==

Most watched