วันอาทิตย์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2560

เหรียญท้าวเวสสุวรรณ หลวงพ่อลุน สุภาจาโร วัดธรรมรัตน์โพธาราม ต.พระแก้ว อ.สังขะ จ.สุรินทร์




ตอกโค๊ตท้าวเวสสุวรรณ หลวงพ่อลุน สุภาจาโร



°°°°°°°°°°°°°°°


ตัวเหวินเทียนหวัง (ท้าวเวสวัณ) ศิลปะจีน

ตราประจำจังหวัดอุดรธานี แสดงรูปท้าวเวสวัณ

ท้าวเวสวัณ ที่วัดพระธาตุดอยสุเทพ
ท้าวกุเวร หรือ ท้าวเวสวัณ[1] (สันสกฤตवैश्रवण Vaiśravaṇa ไวศฺรวณบาลีवेस्सवणVessavaṇa เวสฺสวณภาษาไทย : ท้าวเวสสุวรรณ
เป็นเทพเจ้าแห่งยักษ์ เป็นหนึ่งในจาตุมหาราช ผู้คุ้มครองและดูแลโลกมนุษย์ สถิตอยู่บนสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา ทรงอิทธิฤทธิ์อานุภาพมากประทับ ณ โลกบาลทิศเหนือ
คนไทยโบราณนิยมนำผ้ายันต์รูปยักษ์ผูกไว้ที่หัวเตียงเด็กเพื่อป้องกันวิญญาณชั่วร้ายไม่ให้มารังควานแก่เด็ก ท้าวกุเวรองค์นี้มีกล่าวถึงในอาฏานาฏิยปริตรว่านำเทวดาในสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกามาเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า และได้ถวายสัตย์ที่จะดูแลพระพุทธเจ้าและเหล่าสาวกไม่ให้ยักษ์หรือบริวารอื่น ๆ ของท้าวจตุโลกบาลไปรังควาน
ท้าวกุเวรหรือท้าวเวสวัณนั้น ส่วนมากเราจะพบเห็นในรูปลักษณ์ของยักษ์ยืนถือกระบองยาวหรือคทา (ไม้เท้าเป็นรูปกระบอง) กันซะส่วนใหญ่ แต่แท้ที่จริงแล้ว ยังมีรูปเคารพของท่านในรูปของชายนั่งในท่า มหาราชลีลา มีลักษณะอันโดดเด่นคือ พระอุระพลุ้ยอีกด้วย กล่าวกันว่าผู้มีอาชีพสัปเหร่อ หรือมีอาชีพประหารชีวิตนักโทษ มักพกพารูปท้าวท้าวเวสวัณ สำหรับคล้องคอเพื่อเป็นเครื่องรางของขลัง ป้องกันภัยจากวิญญาณร้ายที่จะเข้ามาเบียดเบียน ในภายหลังภาพลักษณ์ของท้าวกุเวรที่ปรากฏในรูปของชายพุงพลุ้ยเป็นที่เคารพนับถือ ในความเชื่อว่าเป็นเทพแห่งความร่ำรวย แต่ท้าวกุเวรในรูปของท้าวเวสวัณซึ่งมาในรูปของยักษ์เป็นที่เคารพนับถือว่า เป็นเครื่องรางของขลังป้องกันภูติผีปีศาจ
สารานุกรมไทย ฉบับราชบัณฑิตยสถาน เล่มที่ 3 หน้า 1439 กล่าวถึงท้าวกุเวรหรือท้าวเวสวัณไว้ว่า กุเวร-ท้าว พระยายักษ์ผู้เป็นเจ้าแห่งขุมทรัพย์มียักษ์ และคุยหกะ (ยักษ์ผู้เฝ้าขุมทรัพย์) เป็นบริวาร ท้าวกุเวรนั้น บางทีก็เรียกว่าท้าวไวศรวัน (เวสสุวรรณ) ภาษาทมิฬเรียก "กุเวร" ว่า "กุเปรัน" ซึ่งมีเรื่องอยู่ในรามเกียรติ์ว่า เป็นพี่ต่างมารดาของทศกัณฐ์ และทศกัณฐ์ไปแย่งบุษบกของท้าวกุเวรไป ท้าวกุเวรมีรูปร่างพิการผิวขาว มีฟัน 8 ซี่ และมีขาสามขา (ภาพท้าวเวสวัณจึงมักเขียนท่ายืนแยงแย ถือไม้กระบองยาว อยู่หว่างขา) เมืองท้าวกุเวรชื่อ "อลกา" อยู่บนเขาหิมาลัย มีสวนอุทยานอยู่ไหล่เขาแห่งหนึ่งของเขาพระสุเมรุ ชื่อว่า "สวนไจตรต" หรือ "มนทร" มีพวกกินนรและคนธรรพ์เป็นผู้รับใช้ ท้าวกุเวรเป็นโลกบาลประจำทิศเหนือ คนจีนเรียกว่า "โต้เหวน" หรือ "โต้บุ๋น" คนญี่ปุ่นเรียกว่า "พสมอน"
ท้าวกุเวรนี้สถิตอยู่ยอดเขายุคนธรอีสานราชธานี มีสระโกธาณีใหญ่ 1 สระ ชื่อ ธรณี กว้าง 50 โยชน์ ในน้ำ ดารดาษไปด้วยประทุมชาติ และคลาคล่ำไปด้วย หมู่สัตว์น้ำต่างพรรณ ขอบสระมีมณฑปชื่อ "ภคลวดี" กว้างใหญ่ 12 โยชน์ สำหรับเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ ปกคลุมด้วยเครือเถาภควดีลดาวัลย์ ซึ่งมีดอกออกสะพรั่งห้อยย้อยเป็นพวงพู ณ สถานที่นี้ เป็นสโมสรสถานของเหล่ายักษ์บริวาร และยังมีนครสำหรับเป็นที่แปรเทพยสถานอีก 10 แห่ง ท้าวกุเวรมียักษ์เป็นเสนาบดี 32 ตน ยักษ์รักษาพระนคร 12 ตน ยักษ์เฝ้าประตูนิเวศ 12 ตน ยักษ์ที่เป็นทาส 9 ตน
นอกจากนี้ยังมีกล่าวว่า ท้าวเวสวัณยังมีกายสีเขียว สัณฐานสูง 2 คาวุต ประมาณ 200 เส้น มีอาวุธเป็นกระบอง มีพาหนะ ช้าง ม้า รถ บางทีปราสาท อาภรณ์มงกุฎประดับรูปนาค ดำรงอิสริยศเป็นเจ้าแห่งยักษ์ มีบริวารแสนโกฏิ ถือโล่แก้วประพาฬ หอกทอง
อ้างอิงที่มาข้อมูลจาก : https://th.m.wikipedia.org/wiki/ท้าวเวสวัณ

คำขวัญ 20 จังหวัดภาคอีสาน ฮู้จักไว้เด้อ

โดยปกติแล้วประเทศเรามักจะใช้ถ้อยคำหรือข้อความ ที่แต่งขึ้นมาเพื่อบ่งบอกถึงเอกลักษณ์ คุณสมบัติ ความโดดเด่น นั้นก็คือคำขวัญจังหวัดในภาคอีสานที่ผมไปลอกเขามาเหมือนเดิม (เป็นมักขี้ลอกอีหลี) มาเบิ่งเอาเองว่าของแต่ละที่แต่งกันเพราะขนาดใด
1. หนองคาย “วีรกรรมปราบฮ่อ หลวงพ่อพระใส สะพานไทย-ลาว”

2. นครพนม “พระธาตุพนมล้ำค่า วัฒนธรรมหลากหลาย เรณูภูไท เรือไฟโสภา งามตาสองฝั่งโขง”

3. เลย “เมืองแห่งทะเลภูเขา สุดหนาวในสยาม ดอกไม้งามสามฤดู”

4. หนองบัวลำภู “ศาลสมเด็จพระนเรศวร อุทยานแห่งชาติภูเก้า-ภูพานคำ แผ่นดินธรรมหลวงปู่ขาว เด่นสกาวถ้ำ เอราวัณ นครเขื่อนขันธ์ กาบแก้วบัวบาน”

5. สกลนคร “พระธาตุเชิงชุมคู่บ้าน พระตำหนักภูพานคู่เมือง งามลือเลื่องหนองหาร และตระการปราสาทผึ้ง สวยสุดซึ้งสาวภูไท ถิ่นมั่นในพุทธธรรม”

6. มุกดาหาร “เมืองชายโขงงาม มะขามหวานเลิศ ถิ่นกำเนิดลำพญา ภูผาเทิบพิสดาร กลองโบราณล้ำค่า วัฒนธรรมไทยแปดเผ่า”

7. อุบลราชธานี ” เมืองดอกบัวงาม แม่น้ำสองสี มีปลาแซบหลาย หาดทรายแก่งหิน ถิ่นไทยนักปราชญ์ ทวยราษฎร์ใฝ่ธรรม งามล้ำเทียนพรรษา ผาแต้มก่อนประวัติศาสตร์”

8. อุดรธานี “น้ำตกจากสันภูพาน อุทยานแห่งธรรมะ อารยธรรมห้าพันปี ธานีผ้าหมี่ขิด แดนเนรมิตรหนองประจักษ์ เลิศลักษณ์กล้วยไม้หอม อุดรซันไฌน์”

9. อำนาจเจริญ ” พระมงคลมิ่งเมือง แหล่งรุ่ง เรืองเจ็ดลุ่มน้ำ งามล้ำถ้ำศักดิ์สิทธิ์ เทพนิมิตรพระเหลา เกาะแก่งเขาแสนสวย เลอค่าด้วยผ้าไหม ราษฎร์เสื่อมใสใฝ่ธรรม”

10. ขอนแก่น ” พระธาตุขามแก่น เสียงแคนดอกคูน ศูนย์รวมผ้าไหม ร่วมใจผูกเสี่ยว เที่ยวขอนแก่นนครใหญ่ ไดโนเสาร์ลือก้อง เหรียญทองมวยโอลิมปิก

11. สุรินทร์ สุรินทร์ถิ่นช้างใหญ่ ผ้าไหมงาม ประคำสวย ร่ำรวยปราสาท ผักกาดหวาน ข้าวสารหอม พร้อมวัฒนธรรม

12. ศรีสะเกษ ใหม่ “หลวงพ่อโตคู่บ้าน ถิ่นฐานปราสาทขอม
ข้าว หอม กระเทียมดี มีสวนสมเด็จ เขตดงลำดวน หลากล้วนวัฒนธรรม เลิศล้ำสามัคคี ”
เก่า “ศรีสะเกษแดนปราสาทขอม หอมกระเทียมดี มีสวนสมเด็จ เขตดงลำดวน หลากล้วนวัฒนธรรม เลิศล้ำสามัคคี”

13. ยโสธร ” เมืองประชาธิปไตย บั้งไฟโก้ แตงโมหวาน หมอนขวาน ผ้าขิด แหล่งผลิตข้าวหอมมะลิ”

14. ร้อยเอ็ด ” ร้อยเอ็ดเพชรอีสาน พลาญชัยบึงงาม เรืองนามพระสูงใหญ่ ผ้าไหมชั้นดี สตรีโสภา ทุ่งกุลาสดใส งานใหญ่บุญผะเหวด”

15. มหาสารคาม “พุทธมณฑลอีสาน ถิ่นฐานอารยธรรม ผ้าไหมล้ำเลอค่า ตักศิลานคร”
16. บุรีรัมย์ “เมืองปราสาทหิน ถิ่นภูเขาไฟ ผ้าไหมสวย รวยวัฒนธรร”

17. ชัยภูมิ “ชัยภูมิทิวทัศน์สวย รวยป่าใหญ่ มีช้างหลาย ดอกไม้งาม ลือนามวีรบุรุษ สุดยอดผ้าไหม พระใหญ่ทราวดี”

18. นครราชสีมา “เมืองหญิงกล้า ผ้าไหมดี หมี่โคราช ปราสาทหิน ดินด่านเกวียน”

19. บึงกาฬ “สองนางศาลศักดิ์สิทธ์ อิทธิฤทธิ์หลวงพ่อใหญ่ แหล่งน้ำใสหนองกุดทิง สุดใหญ่ยิ่งแข่งเรือยาว หาดทรายขาวเป็นสง่า น่าทัศนาแก่งอาฮง งามน้ำโขงที่บึงกาฬ สุขสำราญที่ได้ยล”

20. กาฬสินธุ์ “หลวงพ่อองค์ดำลือเลื่อง เมืองฟ้าแดดสงยาง โปงลางเลิศล้ำ วัฒนธรรมผู้ไท ผ้าไหมแพรวา ผาเสวยภูพาน มหาธารลำปาว ไดโนเสาร์สัตว์โลกล้านปี”


ขอบคุณภาพและข้อมูล : kittipongnambutr.blogspot.com

วันเสาร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2560

เพลิดเพลินให้สมดุล

เวลาที่สูญเสียไปกับความเพลิดเพลินถือว่าไม่สูญเปล่า....
แต่บางทีความเพลินก็ทำให้มนุษย์ลืมความทุกข์ไปได้บ้างเป็นช่วง ๆ จนมนุษย์หลายคนคิดว่านั่นเป็นความสุข แต่จริง ๆ แล้วมันเป็นแค่ความเพลินเท่านั้น เพลินมากเข้าก็เพลีย เพลียมากเข้าก็ทุกข์อีก

      ทั้งนี้ทั้งนั้น...  ขอให้มันอยู่บนพื้นฐานของความสมดุล...   ไม่มากไป ไม่น้อยไป พอดีๆ

                                         -มหาโทน-

วันศุกร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2560

จากกรณี “น้ำมนต์ คนงาม” เจาะจิตวิทยา 12 ทริค ให้ผู้ชายติดบ่วง-หลงรักเเน่นอน

จากกรณีการจับกุมตัว น.ส.จริยาภรณ์ บัวใหญ่ หรือน้ำมนต์ อายุ 32 ปี ซึ่งถูกผู้ชายหลายคนกล่าวหาเป็น 18 มงกุฏหลอกแต่งงานก่อนเชิดสินสอดและทรัพย์สินฝ่ายชายหลบหนี โดยก่อคดีมาแล้วกว่า 6 ปี ให้การสารภาพว่าหลอกลวงผู้ชายทั้งหมด 13 คน ด้วยคำหวานอาบยาพิษ โดยเธอพูดในเเถลงเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาว่า “ผู้ชายโง่เองที่มาหวังทรัพย์สินของหนู” เนื่องจากในบางรายเธอไปหลอกว่าตนเองเป็นเจ้าของธุรกิจส่งออกผลไม้ บางรายอ้างว่าท้องจนฝ่ายชายยอมแต่งงานด้วย และบอกว่าแท้งลูกภายหลัง เพื่อทำให้ฝ่ายชายมาสู่ขอเเละเชิดเงินสินสอดหนีไป
จนเกิดกระเเสวิพากษ์วิจารณ์ว่าเหตุใด “เธอจึงหลอกลวงชายหนุ่มเหล่านั้นได้” มาศึกษา 12 จิตวิทยา จากการรวบรวมของเว็บไซต์ thetalko ที่เผยถึงเคล็ด (ไม่ลับ) ทำเเล้วผู้ชายรัก ผู้ชายหลง!
เริ่มกันที่อันดับ 1 ทางวิทยาศาสตร์พิสูจน์เเล้วว่า รอยยิ้มเป็นสิ่งดึงดูดเพศตรงข้ามได้ดี เเต่คุณต้องยิ้มจากใจจริง ไม่ใช่เสเเสร้งเเกล้งยิ้มให้เขา การที่คุณได้พูดคุยกับเขาเเละหัวเราะพร้อมยิ้มร่วมด้วยจะทำให้ชายหนุ่มหลงรักคุณเเน่นอน
อันดับที่ 2 การเป็นคนดีทำให้ผู้ชายหลงมานักต่อนัก หากคุณสามารถเเสดงให้เขาเห็นว่าคุณเป็นคนดี มีความเอื้อเฟื้อเผื่อเเผ่ เขาจะตกหลุมรักคุณทันที
อันดับที่ 3 หลายคนอาจละเลยในส่วนนี้ การที่คุณสามารถก้าวเดินไปพร้อมเขา ซึ่งปกติเเล้วฝ่ายชายจะก้าวเท้าเดินเร็วกว่าฝ่ายหญิง หากคุณเดินตามเขาทันเเม้จะอยู่บนส้นสูงเเหลมปรี๊ด ลองสังเกตดูเมื่อผ่านไปชั่วครู่ ฝ่ายชายจะชะลอความเร็วเเละเริ่มเดินช้าลงเพื่อให้คุณเดินตามเขาทัน นี่เป็นสัญญาณที่บอกว่าเขาเริ่มเปิดใจให้คุณเเล้ว
อันดับที่ 4 ข้อนี้สำคัญไม่เเพ้กัน สาวๆ ควรทำตัวให้เขาเห็นว่าคุณนั้นเป็นห่วงคนอื่นมากเเค่ไหน ในบางครั้งชายหนุ่มมองหาคนที่เขาคิดว่าจะดูเเลเขารวมไปถึงสัตว์เลี้ยงตัวโปรดได้ เเละถ้าคุณเองมีสัตว์เลี้ยงที่ต้องดูเเล ยิ่งส่งผลต่อความสัมพันธ์ในระยะยาว เพราะเขาจะมองว่าคุณสามารถดูเเลเขาได้
อันดับที่ 5 หากคุณเเละเขาเป็นเพื่อนซึ่งกันเเละกัน มีโอกาสที่จะทำให้เขาตกหลุมรักคุณ เนื่องจากความเป็นเพื่อนจะทำให้จิตใต้สำนึกของเขาไว้วางใจคุณได้ง่ายขึ้น นี่เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่คู่รักเริ่มมาจากการเป็นเพื่อน
อันดับที่ 6 ความสัมพันธ์ระยะไกลยังคงเป็นอุปสรรคในความรัก การได้อยู่ใกล้กับคนที่คุณรักจะทำให้คุณทั้งคู่รู้สึกถึงความสำคัญของกันเเละกัน ในข้อนี้ในกรณีที่คนรักอยู่ไกล ไม่ได้บอกให้คุณต้องข้ามน้ำข้ามทะเลเพื่อให้ไปอยู่กับเขา เเต่ลองคิดดูว่าถ้าคุณได้อยู่ใกล้ชิดเขา ความรักของคุณทั้งคู่จะมีความสุขเเค่ไหน
อันดับที่ 7 นักจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยเยล จอห์น บาร์ก ได้ศึกษางานศิลปะของไพร์มมิ่ง ซึ่งให้คนถือเครื่องดื่มเเบบอุ่นเเละเเบบเย็น พบว่าผู้ที่ถือเครื่องดื่มอุ่นๆ ถูกมองว่าเป็นคนอบอุ่น เเต่คนที่ถือเครื่องดื่มเย็นถูกมองว่าเป็นคนเยือกเย็นถึงขั้นโหดร้าย รู้อย่างนี้อย่าลืมถือเครื่องดื่มอุ่นๆ สักเเก้วกันนะ
อันดับ 8 ถ้าต้องการให้ชายหนุ่มสนใจ สาวๆต้องพาเขาออกไปทำกิจกรรมข้างนอก ให้เขาได้รับรู้ถึงการผจญภัยร่วมกันคุณ อาจจะวางเเผนวันธรรมดาให้กลายเป็นวันพิเศษด้วยการพาเขาไปดำน้ำ ไปสวนสนุก ให้เขารู้สึกผ่อนคลายเเละตื่นเต้น โดยจะมีสารบางอย่างไปกระตุ้นให้เขารู้สึกว่าเมื่อเวลาที่เขาอยู่กับคุณ เขาได้ปลดปล่อยเป็นตัวของตัวเองเเละมีความสุขมาก
อันดับที่ 9 การศึกษาเผยว่าผู้หญิงที่สวมใส่ชุดสีเเดง หรือใส่อะไรที่มีสีเเดง จะเป็นผู้หญิงที่เซ็กซี่มากกว่าผู้หญิงใส่เสื้อผ้าสีอื่น ซึ่งผู้ชายจะหลงเสน่ห์ผู้หญิงที่สวมใส่ชุดสีเเดงมากเป็นพิเศษ การที่คุณมีเสื้อผ้าสีอื่นจะทำให้คุณต้องพยายามอย่างมากที่จะเป็นที่สนใจสำหรับชายหนุ่ม
อันดับที่ 10 จิตวิทยาอีกอย่างคือการทำตัวเป็นภาพสะท้อนให้เเก่เขา ค่อยๆปรับตัวให้เข้ากับการกระทำของคนที่คุณรัก เช่น เมื่อออกไปรับประทานอาหารเย็นกับคนรักเเล้วเขาสั่งเครื่องดื่ม คุณลองกินเครื่องดื่มนั้นกับเขา หรือ เมื่อเขาเล่าเรื่องราวดีๆ ให้คุณฟัง ทำตัวเป็นผู้ฟังที่ดีด้วยการเอนตัวไปพิงไหล่ของเขา นับเป็นพฤติกรรมคล้ายคลึงกันที่คุณทำตามเขาเพื่อให้เขาตกหลุมรักเเละรู้สึกว่าคุณกับเขาไปด้วยกันได้ดี ผลคือเขาจะไม่สามารถไปจากคุณได้เเน่นอน
อันดับดับที่ 11 ต้องเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายซึ่งกันเเละกัน ผู้ชายมักจะต้องการผู้หญิงมาเติมในส่วนที่เขารู้สึกขาดหาย โดยพวกเขาจะมองหาคนที่สามารถมาเติมเต็มชีวิต อาทิ เมื่อเขารู้สึกทุกข์ใจ รู้สึกเเย่ การที่มีสาวรู้ใจมาทำให้เขารู้สึกดี สาวคนนั้นจะกลายเป็นทุกอย่างสำหรับเขา เรียกว่าเป็นโลกทั้งใบของเขาเลยก็ว่าได้
อันดับที่ 12 อันดับสุดท้าย การอ่านหนังสือลึกลับเรื่องที่ชอบต้องพลิกอ่านทีละหน้า เช่นเดียวกับการออกเดทกับชายหนุ่มต้องค่อยๆ ทำความรู้จัก อย่าวางสิ่งของมากมายไว้บนโต๊ะกินข้าว ผู้ชายชอบผู้หญิงลึกลับ เมื่อคุณสาวๆ ไม่ได้เปิดเผยตัวตนให้เขารู้ ฝ่ายชายจะอยากทำความรู้จักมากขึ้น เเละถ้าไม่อยากให้พ่อกระต่ายตื่นตูมไปเสียก่อน เมื่อคุณออกเดทอย่าไปถามเรื่องราวส่วนตัวของเขามาก ทุกอย่างต้องค่อยเป็นค่อยไป
อย่างไรก็ตาม กรณีของน้ำมนต์อาจไม่ได้เชื่อมโยงกับผลการศึกษาที่กล่าวมาข้างต้น เหตุการณ์ของเธออาจเริ่มจากคน (หลายคน) ที่เคมีเข้ากัน เจอคนนี้เเล้วกระเเสไฟช็อตวิ่งเข้าที่หัวใจจนเกิดเป็นความรักเเละอยากเเต่งงานกันก็เป็นได้… เเต่ทั้ง 12 ข้อก็เผยให้เห็นกลเม็ดเด็ดมัดใจชายหนุ่มที่สาวๆ สามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตรัก เชื่อว่างานนี้หนุ่มๆ คงหนีไปไหนไม่รอดเเน่นอน

วันจันทร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2560

แผ่นดินสะเทือน 6.3 แมกนิจูด คิมน้อยจัดให้โลกเห็น H Bomb



เมื่อวันอาทิตย์ เมื่อวานนี้ เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง วัดระดับได้ถึง 6.3 แมกนิจุด ในเขตหนึ่งของเกาหลีเหนือ ซึ่งเป็นกมรสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นเพราะการทอสอบหัวระเบิดนิวเคลียร์ แบบไฮโดรเจน หรือ H Bomb  ซึ่งเกาหลีเหนือได้ออกมาประกาศความสำเร็จในการทดสอบครั้งนี้ ซึ่งเป็นครั้งที่ 6 เรามาทำความรู้จัก H Bomb และย้อนดู Time line และวิเคราะห์สถานการณ์โสมแดงในเวทีการเมืองโลกต่อไปกันนะครับ

ขอขอบคุณที่มาของข่าว
Source : https://youtu.be/SpHqFgtbAQE

วันอาทิตย์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2560

รู้จักเอชบอมบ์เขย่าโลก! เกาหลีเหนือโวจุดระเบิดประสบความสำเร็จแล้ว



ATOMIC BOMB EXPLOSION EVER CAUGHT ON CAMERA (1955) HYDROGEN BOMB TEST SOVIET RDS-37 TEST
คำแถลงความสำเร็จในการทดสอบระเบิดนิวเคลียร์ไฮโดรเจน หรือเอช-บอมบ์ สำหรับติดตั้งที่หัวรบขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ ในวันที่ 3 ก.ย.2560 เป็นอีกครั้งที่สร้างกระแสความตื่นตะลึงให้กับประชาคมโลก เพราะนอกจากเป็นการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ใต้ดินครั้งที่ 6 ของเกาหลีเหนือ ทั้งที่ถูกมาตรการลงโทษจากสหประชาชาติทุกทิศทางแล้ว

ยังเป็นอาวุธนิวเคลียร์แบบพลังงานความร้อนที่มีอานุภาพเหนือกว่าระเบิดนิวเคลียร์ทั่วไป
ระเบิดนิวเคลียร์ทั่วไป หรือเอ-บอมบ์ นั้นใช้หลักการ “แตกตัว” หรือฟิชชั่น ของอะตอมแร่โลหะหนัก เช่น ยูเรเนียม 235 ทำให้ปลดปล่อยพลังงานความร้อนมหาศาล

นายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือตรวจสอบการโหลดระเบิดไฮโดรเจนเข้ากับขีปนาวุธข้ามทวีป ภาพเผยแพร่เมื่อ 3 ก.ย.  (Korean Central News Agency/Korea News Service via AP)

แต่ระเบิดนิวเคลียร์พลังงานความร้อน (เธอร์โมนิวเคลียร์) อย่างเอช-บอมบ์นั้นใช้หลักการ “รวมตัว” หรือฟิวชั่น ของ ดิวทีเรียม ซึ่งก็คือไฮโดรเจนที่มีอนุภาคนิวตรอน และทริเทียม ไฮโดรเจนที่มีอนุภาคนิวตรอน 2 อนุภาค
ปฏิกิริยานิวเคลียร์แบบฟิวชั่น ระหว่างดิวทีเรียมกับทริเทียมจะเกิดขึ้นที่อุณหภูมิราว 15 ล้านองศาเซลเซียส ดังนั้นเอช-บอมบ์ จึงมีการระเบิดขั้นแรกเป็นแบบเดียวกันกับเอ-บอมบ์ เพื่ออาศัยพลังงานจากจุดนี้ไปป้อนให้เกิดการฟิวชั่นและเกิดเป็นการระเบิดขั้นต่อมา
ข้อมูลจากเว็บไซต์ http://www.student.chula.ac.th ระบุว่า พลังงานจากปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชันมีค่ามากกว่าพลังงานจากปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิชชัน เมื่อเปรียบเทียบจากมวลส่วนที่เข้าทำปฏิกิริยาฟิวชันที่รู้จักกันในนาม ลูกระเบิดไฮโดรเจน (Hydrogen bomb)

Nuclear Fusion

เชื่อกันว่าพลังงานจากดวงอาทิตย์เกิดจากปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชันคือ นิวเคลียสของไฮโดรเจน 4 ตัวหลอมรวมกันได้นิวเคลียสของฮีเลียม อนุภาคโพสิตรอน มีมวลส่วนหนึ่งหายไป มวลส่วนที่หายไปเปลี่ยนไปเป็นพลังงานจำนวนมหาศาล

เอช-บอมบ์ที่ทรงพลังที่สุดในบันทึก คือ “ซาร์ บอมบา” (AN602) ของสหภาพโซเวียต ทดสอบเมื่อวันที่ 30 ต.ค. 2504 หรือปีค.ศ.1961 แรงระเบิดมากกว่าเป็น 10 เท่าของแรงระเบิดทั้งหมดที่ใช้ในสงครามโลกครั้งที่ 2 รวมกัน

ทำให้ทั้งสหรัฐอเมริกาและสหภาพโซเวียตตกลงยุติการทดสอบระเบิดนิวเคลียร์ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
กระทั่งกลับมาเขย่าขวัญในครั้งนี้กับการทดสอบของเกาหลีเหนือ

ยินดีให้คำปรึกษาการดูแลรักษาและการแก้ปัญหาสระว่ายน้ำ




Swimming Pool Assistant

ยินดีให้คำปรึกษาการดูแลรักษาและการแก้ปัญหาสระว่ายน้ำ


             สุบรรณ์ คำแพง
      Suban K. [Engineer]
Moble • Line : 0896035977
e mail : subankamp@gmail.com
Webblog : suban2008.blogspot.com/

Most watched