วันจันทร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2559

ช่วยชาวนาประชาสัมพันธ์ขายขาวสารโดยตรงจากชาวนาเอง

พ่อ แม่ พี่ น้อง ชาวนาทุกๆท่านครับ
 
 ท่านใดที่กำลังจะขายข้าวสารเอง ปลูกเอง ขายเอง  ผมยินดีเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการช่วยประสาสัมพันธ์ผ่านทางเวปบล็อกของผมทั้ง 4 บล็อกนะครับ ผมจะลงโฆษณาในเฟลตฟอร์มด้านบนหรือด้านล่างบทความในเวปฯให้ท่านฟรีครับ แค่ท่านส่งรายละเอียด รูปถ่าย และเบอร์โทรศัพท์ ซึ่งผมจะลงไว้ให้ผู้ที่สนใจติดต่อกับท่านผู้จำหน่ายโดยตรงครับ
  ผมแค่จะช่วยโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้ท่านเท่านั้น
แม้เวปฯติ๊งต๊องของผมจะไม่หวือหวาอะไรนัก แต่ก็พอมีผู้เข้าชมอยู่ราวๆเกือบห้าหมื่นคน น่าจะพอช่วยท่านได้บ้างนะครับ

   บล็อกผมเชื่อมกับโชเซียลเน็ตเวอร์คเกือบทุกแฟลตฟอร์มครับ
Facebook,Tweeter,Line Aplication,Google+ เป็นต้นครับ

ส่งรายละเอียดมาให้ผมที่ Line id : subankampaeng
ติดต่อสอบถาม Mobile : 089-6035977 นะครับ
(ตัวอย่างรายละเอียดครับ)
++++++++++++++++++++++++++++++++++
 (โฆษณาฟรี สำหรับพี่น้องชาวนา)
ชาวตำบลสะกาด อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ผ่าวิกฤตราคาข้าว ด้วยการรวมกลุ่มสีข้าวหอมมะลิขายเอง โดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง
สั่งซื้อติดต่อ นายเมธา ขอชัย ปลัด อบต.สะกาด
098-121-8398 หรือ 093-4545-979,096-416-9165


วันอาทิตย์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2559

10 พฤติกรรม "ไลค์ เม้นท์ แชร์ โพสต์ เสี่ยงคุก" ที่ประชาชนมักกระทำผิดไว้ ประกอบด้วย

10 พฤติกรรม "ไลค์ เม้นท์ แชร์ โพสต์ เสี่ยงคุก" ที่ประชาชนมักกระทำผิดไว้ ประกอบด้วย


1.การอัพโหลดรูปลามกอนาจาร ทั้งรูปตัวเอง และบุคคลอื่น
2.ตั้งตัวเป็นเจ้ากรมข่าวลือ ปล่อยข่าวให้บ้านเมืองเกิดความชุลมุนวุ่นวาย 3.ชอบใช้วิทยายุทธเฉพาะตัว คือ การตัดต่อภาพบุคคลอื่นทั้งภาพนิ่ง และภาพเคลื่อนไหว มาเผยแพร่ทางอินเทอร์เนต ทำให้เจ้าของภาพ เสียหาย อับอาย
4.แอบบันทึกข้อมูลของผู้อื่น แล้วนำไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว เพื่อหากำไร หรือ ใช้กลั่นแกล้ง
5.ใส่ร้ายป้ายสีคนอื่น หรือ กุเรื่องให้บุคคลอื่นเสียหาย อับอาย
6.มีความอยากรู้อยากเห็นสูง หรือ เรื่องชาวบ้านคืองานของเรา คือการ นำ ไอดี หรือ พาสเวิร์ด บุคคลอื่น ไปใช้เพื่อแอบดูข้อมูล
7.แก้ไขเพิ่มเติมไฟล์งานของบุคคลอื่น ทำให้เกิดความเสียหายแก่เจ้าของไฟล์
8.ส่งอีเมล์ลูกโซ่โดยไม่บอกที่มา หรือ ส่งอีเมล์ที่ขายสินค้าที่ผู้รับไม่ต้องการ สร้าวความเบื่อหน่ายและรำคาญ
9. ตั้งสำนักข่าวเป็นของตัวเอง หรือ กดแชร์ข้อมูล ทั้งในแอพพลิเคชั่น ไลน์ เฟสบุ๊ก และ ทวิตเตอร์ โดยไม่ตรวจสอบและเป็นข้อความที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และ
10. การโพสต์ข้อความหมิ่นสถาบันเบื้องสูง


วันอาทิตย์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2559

วันออกพรรษา 2559

วันออกพรรษา เข้าพรรษา เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "วันมหาปวารณา" คือ วันที่สิ้นสุดระยะการจำพรรษาของพระเป็นเวลา 3 เดือน หรือพูดง่ายๆ ว่า วันสุดท้ายที่ต้องอยู่จำพรรษาในแต่ละปี และพระสงฆ์จะต้องอยู่ให้ครบอีกหนึ่งราตรีจึงจะครบถ้วนบริบูรณ์ ในวันออกพรรษานี้พระสงฆ์จะประกอบพิธีทำสังฆกรรมใหญ่ เรียกว่า มหาปวารณา ถือเป็นการเปิดโอกาสให้ภิกษุว่ากล่าวตักเตือนกันด้วยจิตที่เมตตา เพราะในช่วงระหว่างเข้าพรรษา พระสงฆ์บางรูปอาจมีข้อบกพร่องที่ต้องแก้ไข และยังเปิดโอกาสให้ซักถามข้อสงสัยซึ่งกันและกันด้วย

วันเข้าพรรษาของประเทศไทย

ถือเป็นโอกาสอันดีที่พุทธศาสนิกชนจะเข้าวัดเพื่อบำเพ็ญกุศลแก่พระสงฆ์ที่ตั้งใจจำพรรษาและตั้งใจปฏิบัติธรรมมาตลอดจนครบไตรมาสพรรษากาลในวันออกพรรษา และวันถัดจากวันออกพรรษา 1 วัน ก็ได้มีการทำบุญตักบาตรครั้งใหญ่ เรียกว่า ตักบาตรเทโว หรือ ตักบาตรเทโวโรหณะ เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์สำคัญในพุทธประวัติ นอกจากนี้ ช่วงเวลาออกพรรษายังถือเป็นเวลากฐินกาลตามพระวินัยปิฎกเถรวาท เป็นช่วงเวลาที่พุทธศาสนิกชนชาวไทยจะเข้าร่วมบำเพ็ญกุศลเนื่องในงานกฐินประจำปีในวัดต่าง ๆ ด้วย โดยถือว่าเป็นงานบำเพ็ญกุศลที่ได้บุญกุศลมาก

วันที่ใช้จัดกิจกรรมในวันออกพรรษา

วันที่ใช้จัดกิจกรรมในวันออกพรรษา จะตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือนสิบเอ็ด(๑๑) หลังวันเข้าพรรษา 3 เดือน 

ปฏิทินวันออกพรรษา

วันออกพรรษา พ.ศ.2550 ตรงกับ วันศุกร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ.2550 / วันศุกร์ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือนสิบเอ็ด(๑๑) ปีกุน
วันออกพรรษา พ.ศ.2551 ตรงกับ วันอังคารที่ 14 ตุลาคม พ.ศ.2551 / วันอังคาร ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือนสิบเอ็ด(๑๑) ปีชวด
วันออกพรรษา พ.ศ.2552 ตรงกับ วันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ.2552 / วันอาทิตย์ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือนสิบเอ็ด(๑๑) ปีฉลู
วันออกพรรษา พ.ศ.2554 ตรงกับ วันพุธที่ 12 ตุลาคม พ.ศ.2554 / วันพุธ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือนสิบเอ็ด(๑๑) ปีเถาะ
วันออกพรรษา พ.ศ.2555 ตรงกับ วันอังคารที่ 30 ตุลาคม พ.ศ.2555 / วันอังคาร ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือนสิบเอ็ด(๑๑) ปีมะโรง
วันออกพรรษา พ.ศ.2556 ตรงกับ วันเสาร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ.2556 / วันเสาร์ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือนสิบเอ็ด(๑๑) ปีมะเส็ง
วันออกพรรษา พ.ศ.2557 ตรงกับ วันพุธที่ 8 ตุลาคม พ.ศ.2557 / วันพุธ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือนสิบเอ็ด(๑๑) ปีมะเมีย
วันออกพรรษา พ.ศ.2558 ตรงกับ วันอังคารที่ 27 ตุลาคม พ.ศ.2558 / วันอังคาร ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือนสิบเอ็ด(๑๑) ปีมะแม
วันออกพรรษา พ.ศ.2559 ตรงกับ วันอาทิตย์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ.2559 / วันอาทิตย์ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือนสิบเอ็ด(๑๑) ปีวอก
วันออกพรรษา พ.ศ.2560 ตรงกับ วันพฤหัสบดีที่ 5 ตุลาคม พ.ศ.2560 / วันพฤหัสบดี ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือนสิบเอ็ด(๑๑) ปีระกา

ประวัติวันออกพรรษา

ในวันออกพรรษาในพระไตรปิฎกกล่าวไว้ว่า เป็นวันที่ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์มายังโลกมนุษย์ หลังจากที่พระองค์ได้เสด็จไปจำพรรษา และแสดงพระธรรมเทศนาโปรดเทพบุตรพุทธมารดา ซึ่งอยู่สวรรค์ชั้นดุสิต แต่ลงมาฟังพระธรรมเทศนาที่ชั้นดาวดึงส์ ซึ่งวันออกพรรษาตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือนสิบเอ็ด(๑๑) ถือเป็นวันสิ้นสุดการจำพรรษา หรือออกจากพรรษาที่ได้อธิษฐานเข้าจำพรรษาตลอดระยะเวลา 3 เดือน ซึ่งเป็นสำคัญวันหนึ่งของพระภิกษุสงฆ์

วันออกพรรษา หมายถึงวันที่พ้นจากข้อกำหนดทางพระวินัยที่ต้องอยู่ประจำที่หรือในวัดแห่งเดียวตลอด 3 เดือน ในฤดูฝน กล่าวคือ เมื่อพระภิกษุได้อธิษฐานอยู่จำพรรษาในวันแรม ๑ ค่ำ เดือนแปด (๘) แล้วอยู่ประจำที่หรือวัดนั้นเรื่อยไป จนสิ้นสุดในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือนสิบเอ็ด(๑๑) หลังจากวันออกพรรษาแล้วก็สามารถจาริกไปค้างแรมที่อื่นได้ และวันออกพรรษา เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "วันปวารณา" คือวันที่พระสงฆ์ทำปวารณากรรม โดยเปิดโอกาสให้เพื่อนพระภิกษุว่ากล่าวตักเตือนกันด้วยเมตตาจิตได้ เมื่อได้เห็นได้ทั้งหรือสงสัยในพฤติกรรมของกันและกัน

วันออกพรรษาหรือวันพระพุทธเจ้าเปิดโลกในวัน แรม ๑ ค่ำ เดือนสิบเอ็ด(๑๑) ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงสู่โลกมนุษย์ เรียก "วันเทโวโรหณะ" และ วันพระพุทธเจ้าเปิดโลก เพราะวันนั้นโลกทั้ง 3 คือ สวรรค์ มนุษย์ และ บาดาล (นรก) ต่างสามารถแลเห็นกันได้ตลอดทั้ง 3โลก

ชาวพุทธจึงยึดถือปรากฎการณ์นี้ ต่างมารอรับตักบาตรภัตตาหารกันอย่างเนืองแน่น เพราะเมื่อถึงวันปวารณาออกพรรษา ในวันแรม ๑ ค่ำ เดือนสิบเอ็ด(๑๑) นี้พระพุทธองค์เสด็จลงสู่โลกมนุษย์ทางบันไดทิพย์ ทั้ง 3 ได้แก่ บันไดเงิน และ บันไดทอง และ บันไดแก้ว ซึ่งสักเทวราช (พระอินทร์) ให้พระวิษณุกรรมเนรมิตทอดจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์สู่โลกมนุษย์ ที่ ประตูเมืองสังกัสนคร หลังจากเทศนาพระอภิธรรมปิฎกโปรดพระพุทธมารดาอยู่หนึ่งพรรษา (3 เดือน) ซึ่งก่อนหน้านั้น พุทธองค์ได้จำพรรษาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ นับแต่ปีที่ตรัสรู้ ในพรรษาที่ 7

วันออกพรรษา เป็นวันสำคัญของพุทธศาสนา และหลังจากวันออกพรรษาพระสงฆ์ได้รับพระบรมพุทธานุญาตให้จาริกไปค้างแรมที่อื่นได้ เมื่อออกพรรษาแล้วพระสงฆ์จะได้นำความรู้จากหลักธรรมและประสบการณ์ที่ได้รับระหว่างพรรษาไปเผยแผ่แก่ประชาชน ซึ่งในวันออกพรรษาพระสงฆ์ได้ทำปวารณา เปิดโอกาสให้เพื่อนพระภิกษุว่ากล่าวตักเตือนเรื่องความประพฤติของตนเพื่อให้เกิดความบริสุทธิ์ ความเคารพนับถือและความสามัคคีกัน ทำให้พุทธศาสนิกชนได้นำแบบอย่างไปทำปวารณาเปิดโอกาสให้ผู้อื่นว่ากล่าว ตักเตือนตนเองเพื่อประโยชน์ต่อการพัฒนาตนและสร้างสรรค์สังคมต่อไป

กิจกรรมในวันออกพรรษา

เพราะเป็นประเพณีที่สืบต่อกันมาอย่างยาวนาน ในวันออกพรรษา เหล่าพุทธศาสนิกชน ต่างพากันร่วมทำกิจกรรมต่างๆ ส่วนพระภิกษุที่จำพรรษามาตลอดสามเดือน อาจจะมีบางรูปที่บวชต่อ เพราะติดใจในรสพระธรรม หรือ มีบางรูปที่สึกออกไป เพื่อประกอบอาชีพ หรือทำงานต่อ ส่วนกิจกรรมในครองครัวของพุทธศาสนิกชนนั้นก็มีแตกต่างกันไป

ทำความสะอาด 

วันออกพรรษา แต่ละครอบครัวก็ช่วย ทำความสะอาดบ้าน ประดับธงธรรมจักร ทำความสะอาดบริเวณโรงเรียน ประดับธงชาติและธงธรรมจักร จัดแต่งโต๊ะหมู่บูชา สมาชิกในครอบครัว ปรึกษา หารือ หาแนวทางในการป้องกันการแก้ปัญหา โดยใช้หลักธรรม คือ ปวารณา ศึกษาเอกสารและสนทนาเกี่ยวกับความสำคัญของวันออกพรรษา รวมทั้งหลักธรรม การปวารณาและแนวทางปฏิบัติในครอบครัว และร่วมกันบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ ปลูกต้นไม้ บริจาคโลหิต

เข้าวัด ทำบุญ 

วันออกพรรษา นำครอบครัวไปบำเพ็ญกุศล ทำบุญตักบาตร บริจาคทาน ปฏิบัติธรรมที่วัด รักษาศีล ไหว้พระสวดมนต์ ฟังธรรมเจริญภาวนา ในกรณีที่เป็นวันหยุดเนื่องในวันออกพรรษา ครูพานักเรียนไปร่วมกิจกรรมกับชุมชนที่วัด บำเพ็ญกุศลทำบุญตักบาตร บริจาคทาน รักษาศีล ฟังธรรม สนทนาธรรม เจริญภาวนา ในกรณีที่เป็นวันหยุด และกิจกรรมอื่นที่เหมาะสม

จัดนิทรรศการ 

ครูและนักเรียนร่วมกันศึกษาถึงความสำคัญของวันออกพรรษา รวมทั้งหลักธรรม เรื่องปวารณาและแนวทางปฏิบัติในสถานศึกษา และให้นักเรียนจัดทำป้ายนิเทศ หรือจัดนิทรรศการ ประกวดเรียงความ ทำสมุดภาพ ตอบปัญหาธรรม บรรยายธรรม อภิปรายธรรม หรือจัดทำรายงานเกี่ยวกับพฤติกรรมที่ดีกับพฤติกรรมที่ไม่ดี และวางแผนพัฒนาพฤติกรรมไม่ดีให้น้อยลง และประกาศเกียรติคุณนักเรียนที่ประพฤติตัวเป็นแบบอย่างที่ดี ประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับความสำคัญของวันออกพรรษา รวมทั้งหลักธรรมเรื่อง ปวารณาและแนวทางปฏิบัติ และจัดให้มีการบรรยายธรรมและสนทนาธรรม

นอกจากนี้ยังมีประเพณีตักบาตรเทโวโรหณะ การเทศน์มหาชาติเทศน์มหาชาติ คือ เทศนาเวสสันดรชาดก เป็นบุญพิธีที่นิยมจัดให้มีกันมาแต่โบราณ ส่วนมากจัดให้มีในวัดเป็นหน้าที่ของชาวบ้านและวัดนั้น ๆ และประเพณีถวายผ้ากฐินทาน

งดเหล้าในระหว่างช่วงเข้าพรรษา

เป็นที่นิยมกันอย่างมาก สำหรับกิจกรรม งดเหล่าเข้าพรรษา ซึ่งถือเป็นการรณรงค์งดเหล้าตลอดเข้าพรรษา และยังเป็นการกระตุ้นให้ประชาชนเริ่มลดละเลิก ซึ่งหลังจากออกพรรษาแล้วก็สามารถลด ละ เลิกต่อได้ ถือเป็นเรื่องที่ดี ซึ่งคนที่อยากเลิกอย่างต่อเนื่องให้สำเร็จนั้น คือกลุ่มคนที่ดื่มเป็นประจำจนติด หลายคนที่ดื่มถึงขั้นติดไม่สามารถหยุดดื่มได้ง่ายๆ เพราะสารเคมีในสมองมีความผิดปกติไป เลิกดื่มแล้วมีอาการข้างเคียงตามมา หากสามารถงดการดื่มในช่วง 3 เดือนเข้าพรรษาได้ ถือว่าเป็นโอกาสที่จะลดการดื่มอย่างต่อเนื่องได้ มีเทคนิควิธีการเลิกดื่มเหล้าอย่างต่อเนื่องไปถึงช่วงออกพรรษา คือ
- ปรับสิ่งแวดล้อม ในช่วงแรกๆ ควรปรับสิ่งแวดล้อม ที่ดี และไม่ควรอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่กระตุ้นให้เกิดความอยากดื่ม คือไม่พยายามไปหาเพื่อนฝูงที่มีการตั้งวงดื่มเหล้าประจำ เพราะจะทำให้อดใจไม่ได้
- ปรับร่างกาย การพักผ่อนให้เพียงพอ กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ และออกกำลังกาย ถือเป็นการปรับร่างกาย และเป็นการฟื้นฟูร่างกายได้เป็นอย่างดี เพราะการดื่มเหล้าอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานจะส่งผลต่อสุขภาพได้
- ปรับสภาพจิตใจ  บอกให้คนรอบข้างทราบว่าคุณกำลังเลิกดื่ม เพื่อช่วยกันให้กำลังใจด้วยการฝึกจิตใจให้มีความเข้มแข็ง สามารถทำได้ทั้งขอกำลังใจจากครอบครัว คนรัก โดยเฉพาะเมื่อเกิดปัญหาชีวิตหรือปัญหาที่กระทบต่อจิตใจ คนที่เคยดื่มจะมีโอกาสกลับไปดื่มซ้ำ จึงต้องหาคนที่คอยเตือนและให้กำลังใจ หรือ เป็นที่ปรึกษา
- หาแรงจูงใจ ตั้งเป้าหมายในการเก็บเงิน และหาแรงจูงใจในการเลิกดื่ม การนำค่าใช้จ่ายระหว่างดื่ม และไม่ดื่ม มาเปรียบเทียบกันเพื่อให้เห็นความสิ้นเปลือง สามารถปรึกษาสายด่วนศูนย์ปรึกษาปัญหาสุรา 1413 เพื่อขอความช่วยเหลือในการเลิกดื่มได้อีกทางด้วย สำหรับคนที่ต้องการเลิกดื่มหากไม่ทราบว่าจะทำอย่างไร

แนวทางการส่งเสริม กิจกรรมวันออกพรรษา

เพื่อให้พุทธศาสนิกชนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความสำคัญของวันออกพรรษารวมทั้งหลักธรรม เรื่อง ปวารณาและแนวทางปฏิบัติ การส่งเสริมกิจกรรมวันออกพรรษา จึงเป็นส่วนหนึ่ง ที่จะทำให้พุทธศาสนิกชน ได้ยึดถือประเพณีนี้สืบต่อกันมา เช่น

ให้มีแนวคิด

เพื่อให้พุทธศาสนิกชนสามารถเลือกสรรหลักธรรม คือปวารณา ไปใช้ในการดำเนินชีวิตเพื่อพัฒนาตนและสังคม และมีทักษะในการคิดและการปฏิบัติตนอย่างถูกต้องในวันออกพรรษา และเกิดเจตคติที่ดีต่อวันออกพรรษา และเห็นคุณค่าของการดำเนินชีวิตตามหลักธรรมคือ ปวารณา

ให้เกิดความศรัทธา

อาจเชิญชวนให้ประชาชนทั่วไปเข้าร่วมกิจกรรม ปฏิบัติธรรม เพื่อให้พุทธศาสนิกชนเกิดศรัทธา ซาบซึ้งและตระหนักถึงความสำคัญของพระพุทธศาสนา และเพื่อให้ปฏิบัติตนตามหน้าที่ของพุทธศาสนิกชนได้อย่างถูกต้องรวมถึงเข้าร่วมพิธีกรรมศาสนา เช่น ทำบุญตักบาตร ฟังธรรม รักษาศีล สวดมนต์

แจกเอกสาร

อาจมีการรณรงค์ทางสื่อมวลชนต่างๆ ให้ลด ละ เลิก อบายมุข และให้งดจำหน่ายสิ่งเสพติดทุกชนิด และจัดพิมพ์เอกสารเกี่ยวกับความสำคัญของวันออกพรรษารวมทั้งหลักธรรมเรื่อง ปวารณา และแนวทางปฏิบัติเพื่อเผยแผ่ให้แก่ประชาชนในท้องถิ่น และตามสถานที่ชุมชน เช่น สนามบิน สถานีรถไฟ สถานีขนส่ง โรงธรรม ศูนย์การค้า รวมทั้งบนยานพาหนะต่างๆ

เพื่อสังคมที่ดี
การรณรงค์ให้มีการรักษาสภาพแวดล้อม ปลูกต้นไม้ ทำความสะอาดที่สาธารณะ มีการประกาศเกียรติคุณสถาบันหรือบุคคลผู้ทำคุณประโยชน์ต่อสังคม รวมถึงจัดประกวด สวดสรภัญญะ บรรยายธรรม คำขวัญ บทร้อยกรอง บทความเกี่ยวกับวันออกพรรษา และกิจกรรมอื่นที่เหมาะสม

วันเสาร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2559

ประกาศสำนักพระราชวัง เรื่อง การถวายสักการะพระบรมศพ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช


ประกาศสำนักพระราชวัง เรื่อง การถวายสักการะพระบรมศพ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ด้วยสำนักพระราชวังได้รับพระราชานุญาตในการถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ดังนี้
๑.พระราชทานพระราชานุญาตให้ประชาชนทั่วไปเข้าถวายสักการะเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง ทุกวันเวลา๐๘.๓๐-๑๖.๐๐น. ในการนี้ได้จัดสมุดหลวงลงนามถวามความอาลัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย
๒.พระราชทานพระราชานุญาตให้ประชาชนเข้าเฝ้าฯ กราบบังคมพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ภายหลังจากการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลครบ ๑๕ วันตั้งแต่๐๙.๐๐-๑๖.๐๐น.ทุกวันเริ่ม๒๘ตุลาคม ๒๕๕๙ เวลา๑๓.๐๐น.
๓.พระราชทานพระราชานุญาตให้ภาคต่างๆทั้งคณะบุคคล ภาครัฐบาล รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน และประชาชนทั่วไป ร่วมเป็นเจ้าภาพบำเพ็ญพระราชกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ หลังจากการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลครบ๕๐วัน
จึงประกาศมาให้ทราบโดยทั่วกัน สำนักพระราชวัง ๑๕ ตุลาคม พุทธศักราช๒๕๕๙

"กษัตริย์จิกมี" แห่งราชอาณาจักรภูฏาน พร้อมด้วยสมเด็จพระราชินีเจตซุน เพมา วังชุก และพระโอรส เสด็จพระราชดำเนินถึงประเทศไทยแล้ว


"กษัตริย์จิกมี" แห่งราชอาณาจักรภูฏาน พร้อมด้วยสมเด็จพระราชินีเจตซุน เพมา วังชุก และพระโอรส เสด็จพระราชดำเนินถึงประเทศไทยแล้ว
เพื่อมาร่วมพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ
เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น.วันนี้ (15 ต.ค.2559) ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีและภรรยา เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก พระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรภูฏาน และสมเด็จพระราชินีเจตซุน เพมา วังชุก เพื่อร่วมพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด จากนั้นประทับรถยนต์พระที่นั่งเสด็จออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ
ในวันพรุ่งนี้ (16 ต.ค.) เวลาประมาณ 10.00 น. มีหมายกำหนดการเสด็จพระราชดำเนินไปถวายพระราชสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ในพระบรมมหาราชวัง 



Source : ThaiPBS


น้ำตาฟ้าไหลหลั่งลงดิน ปวงชนชาวไทยร่ำไห้ สุดแสนอาลัย พระเสด็จสู่สวรรคาลัย

น้ำตาฟ้าไหลหลั่งลงดิน ปวงชนชาวไทยร่ำไห้ สุดแสนอาลัย พระเสด็จสู่สวรรคาลัย


วันศุกร์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2559

สำนักงานราชบัณฑิตยสภาตอบข้อสงสัยปชช.กับการใช้วลี “เสด็จสู่สวรรคาลัย”

เมื่อวันที่ 14 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานราชบัณฑิตยสภา ได้เผยแพร่ข้อสงสัยของประชาชนในการใช้วลี “เสด็จสู่สวรรคาลัย” ดังนี้





Most watched