วันพุธที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2560
อย่าตัดสินคนอื่นแบบผิวเผิน
เรือสำราญลำหนึ่งเจอมรสุมทางทะเล บนเรือมีสามีภรรยาคู่หนึ่ง กระเสือกกระสนมาถึงเรือชูชีพบนเรือชูชีพมีเพียงที่ว่างที่เดียว
ทันใดนั้น สามีผลักภรรยาไปข้างหลังตัวเองโดดขึ้นไปบนเรือชูชีพ ภรรยายืนอยู่บนเรือที่ค่อยๆจมลงตะโกนไปที่สามีประโยคหนึ่งว่า....
#เล่าถึงตอนนี้ อาจารย์ถามนักเรียน:พวกเธอลองเดา ว่าผู้หญิงจะตะโกนว่าอะไร?
พวกนักเรียนต่างโกรธเกรี้ยว ต่างพูดว่า ฉันเกลียดคุณ ฉันมันตาบอด
ณ บัดดล อาจารย์สังเกตุเห็นนักเรียนคนหนึ่งไม่พูดไม่จาตลอดเวลา
ก็เลยถามเธอ นักเรียนคนนี้พูดว่า อาจารย์ หนูคิดว่าผู้หญิงคงจะตะโกนว่า---ดูแลลูกเราให้ดีดีนะคะ
อาจารย์ตกใจ ถามว่า เธอเคยได้ยินนิทานเรื่องนี้แล้ว ใช่ไหม?
นักเรียนสั่นหัว "ไม่เคย แต่ตอนแม่หนูป่วยหนักก่อนตาย ได้พูดแบบนี้กับพ่อหนูค่ะ"
อาจารย์ซึ้งใจและพูดว่า คำตอบถูกต้อง เรือจมลงไปแล้ว ผู้ชายกลับไปถึงบ้าน เลี้ยงดูบุตรสาวตามลำพังจนโตหลายปีผ่านไป ผู้ชายป่วยตาย ลูกสาวจัดข้าวของของพ่อ พบไดอารี่ของพ่อ
#ที่แท้ พ่อกับแม่ไปเที่ยวเรือสำราญ แม่ก็ป่วยเป็นโรคที่รักษาไม่หาย เงื่อนเวลาแห่งความเป็นความตาย,
พ่อฉวยโอกาสเดียวที่จะรอดชีวิต เขาเขียนในไดอารี่ว่า ฉันอยากจะจมลงใต้ทะเลพร้อมเธอแต่ฉันทำไม่ได้ เพื่อลูกสาว ฉันจำต้องให้เธอ นอนหลับยาวอยู่ใต้ทะเลลึก
นิทานเล่าจบ ห้องเรียนเงียบกริบ อาจารย์รู้ว่า นักเรียนต่างก็เข้าใจนิทานเรื่องนี้กันหมดแล้ว
#ความดีและความชั่วในโลกนี้ บางครั้งดูสับสนไม่ชัดเจน แยกแยะไม่ออก เพราะฉะนั้น อย่าตัดสินคนอื่นแบบผิวเผิน
#คนที่ชอบแย่งจ่ายบิลก่อน ไม่ใช่เพราะมีเงินมากไป
แต่ให้ความสำคัญของมิตรภาพมากกว่าเงินทอง
#เวลาทำงาน คนที่ยินดีทำมากกว่าคนอื่น ไม่ใช่เขาโง่ แต่เขารู้หน้าที่
#หลังจากทะเลาะกัน คนที่ขอโทษก่อน ไม่ใช่เขาผิด,แต่เขารู้จักทนุถนอมคนข้างกาย
#คนที่ยอมช่วยเหลือคุณ ไม่ใช่ติดค้างอะไรคุณ
แต่เขาเห็นคุณเป็นเพื่อนแท้
#คนที่ส่งข่าวสารให้คุณบ่อยๆ ไม่ใช่ว่างจนไม่มีอะไรทำ,แต่เพราะว่าในใจเขามีคุณ..
Cr. : Social Network
#ถ้าเห็นว่าเป็นประโยชน์แชร์ต่อได้เลยคครับ
วันอังคารที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2560
กำลังใจ... จากทางมะพร้าว
" หากวันใด ท้อแท้ มองไม่เห็นทาง
ให้แหงนหน้า ขึ้นมอง บนยอดมะพร้าว
แล้วคุณ จะเห็นว่า...ยังมีทางอีกมากมาย "
ให้แหงนหน้า ขึ้นมอง บนยอดมะพร้าว
แล้วคุณ จะเห็นว่า...ยังมีทางอีกมากมาย "
แม่หมาขี้เรื้อนกับคนใจดำ
แม่หมาขี้เรื้อนกับคนใจดำ
เรื่องมีอยู่ว่า พี่ชิตแกเป็นคนใจดำครับ ชอบยิงนกตกปลาไปเรื่อย
แต่ที่หนักก็คงเป็นเนื้อหมา แกกินแหลกครับแต่
แม่แกบอกมันบาปนะลูก(ไม่สนโว้ย)
เมื่อราว 15 ปีก่อนมีเหตุการณ์ที่ทำให้แกเปลี่ยนไป
ครั้งนั้นมีหมาขี้เรื้อนตัวหนึ่ง มันมักวิ่งไปหาของกินแถวๆบ้านแกบ่อย ๆ
เพราะบ้านแกติดตลาด พี่แกกินหมาอยู่สม่ำเสมอแต่กรณีหมาขี้เรื้อน
แกบอกว่า ' กูกินไม่ลงว่ะ 'แกทำอย่างเดียวคือไล่ฆ่า แต่มันรอดได้ทุกครั้ง(สงสัยมีของ)มันมักจะไปหาของกินทีตลาด บางทีก็ได้ แต่บางทีก็ไม่ได้
คราวนั้นเนื้อแห้งที่แกตากไว้หายไป พอมองไปก็เห็นแม่หมาขี้เรื้อนวิ่งหลุนๆไป
แกเดือดทันทีครับ วิ่งตามไป คราวนี้ทันครับ เพราะหมาขี้เรื้อนวิ่งช้ามาก
แกทุบไปทีเดียว หมานั่นล้มลงชักทันที
(แกบอกว่า หากตีตรงจุด แค่ไม้บรรทัดก็ตาย)
แกทิ้งไว้ตรงนั้นไม่อยากจับ แต่จะทำกินตรงนั้น
กลับบ้านไปเตรียมของ ( แค้นจัดอยากกินหมาขี้เรื้อน)
ให้ผมเฝ้าไว้(ยังเด็กอายุแค่ 12) ผมก็มัวแต่เก็บตะขบจนลืมดู
(ในใจอยากให้มันรีบไปจะได้ไม่ตาย) มันไปจริงครับ หายวับไป
พี่ชิตแกโกรธมาก คงอยากเตะผมเต็มแก่
แต่ลุงผมแกเป็นนักเลงใหญ่ และเป็นคนสอนวิธีฆ่าหมาให้ ก็ต้องวิ่ง
ตามอย่างเดียวพร้อมบ่น ' ทำไมมันไม่ตายวะ '
พักหนึ่งก็ได้ยินเสียงหมาเห่า
แกตามทันทีพอไปถึง ภาพที่เห็น หมาขี้เรื้อนกำลังจะตายมันมีลูกที่ต้องเลี้ยง 5 ตัวครับ วัยกำลังหย่านมบางตัวยังกินนมอยู่ บางตัวก็วิ่งไปคาบเนื้อที่แม่หมาขี้เรื้อนคาบไปฝาก(เห็นกับตา) ที่มันยังไม่ยอมตาย เพราะต้องกลับไปให้นมลูกแม้น้ำนมแห้งกรังเอาอาหารไปให้ลูกมันมันเรียกลูกๆ เพื่อให้นมให้อาหารเป็นครั้งสุดท้าย
แม่หมาพยายามอย่างดีที่สุดมันมองผมกับพี่ชิตอย่างขอร้อง ขอให้มันให้นมลูกเป็นครั้งสุดท้ายก่อนตายไม่
อยากเชื่อ นั่นคือน้ำตาของหมาขี้เรื้อน มันแค่ต้องการให้นมลูกก่อนตาย พี่ชิตไม้หล่นลงกับพื้นเดินเข้าไปดูแม่หมานั่น ในยามนั้นสิ่งที่แกเห็นไม่ใช่หมาขี้เรื้อน แต่แกเห็นแม่ที่ยิ่งใหญ่ที่ทนเจ็บกลับไปหาลูกแกไม่พูดอะไร
ทุกอย่างจุกอยู่ที่ลำคอ สายตาอ่อนโยนลง
ลูกหมาตัวหนึ่ง วิ่งไปหาแก กระดิกหางให้แกอุ้มลูกหมาขึ้นพร้อมพูดว่า 'ขอโทษ ' พูดได้แค่นั้นแม่หมาก็ตาย
เราช่วยกันฝังแม่หมาแกรับเลี้ยงหมานั่นไว้ ทั้ง 5 ตัวตั้งแต่นั้นแกกลาย
เป็นคนใจดี ไม่ไล่ยิงนกยิงหมายิงแมวอีกแกบอก ' มันอาจมีลูกรออยู่ก็ใด้ '
เมื่อ 12 สิงหา 2 ปีที่แล้ว แกเอามะลิร้อยเป็นพวงไปให้แม่ทั้งๆที่ไม่เคยทำ
พูดกับแม่ว่า' แม่ตอนผมอายุ 16 แม่สอนผมยังไงนะสอนอีกหนได้ไหมครับ '
แม่แกน้ำตาคลอพูดไม่ออก
ไม่อยากเชื่อ แม่หมาขี้เรื้อนตายไป 1 ตัว
กลับทำให้คนใจดำอย่างแกเปลี่ยนไปขนาดนี้
Credit:
FW Mail Fromพี่กาแฟ
วันจันทร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2560
Facebook เพิ่มปุ่ม “ห่างกันสักพัก” หยุดความสัมพันธ์เอาไว้ก่อน
ของเล่นใหม่มาอีกแล้วสำหรับ Facebook ล่าสุดบริษัทได้เพิ่มปุ่มใหม่สำหรับผู้ใช้งานที่รู้สึกคลุมเครือกับความรู้สึก นั่นก็คือปุ่ม “ห่างกันสักพัก” นั่นเองครับ
ปุ่มห่างกันสักพัก หรือภาษาอังกฤษจะเขียนว่า Take A Break เป็นปุ่มที่จะช่วยให้เห็นโพสต์ของฝ่ายตรงข้ามน้อยลง แต่ไม่ถึงกับ Unfriend ซึ่งผู้ใช้งานสามารถเลือกตัวเลือกเองได้ เมื่อกดที่ปุ่ม ห่างกันสักพัก จะมีตัวเลือกดังนี้เพิ่มขึ้นมาครับ
สำหรับปุ่มแรกจะเป็นการเลือกให้เห็นโพสต์ของฝ่ายตรงข้ามเหมือนปกติ แต่กรณีที่สองคือจะไม่เห็นโพสต์ทุกอย่างของฝ่ายตรงข้าม อีกทั้งจะยังไม่มีการแจ้งเตือนพิเศษเช่น การเตือนให้ทักทาย เตือนสุขสันต์วันเกิด หรือแม้แต่เตือนแท็กรูปด้วยครับ
อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ฟีเจอร์ใหม่อะไรเพราะ Take A Break นั้นมีมานานแล้ว เพียงแต่ Facebook ได้เพิ่มปุ่มใหม่เข้ามาให้เข้าถึงง่ายขึ้นครับ
ขอบคุณภาพและข้อมูล : beartai.com
วันเสาร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2560
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
Most watched
-
พระครูธรรมรัตนาภิรม นามเดิม ลุน ระยับศรี เกิดวันพุทธ ที่23สิงหาคม2493 ณ บ้านหนองคูขาม ต.หนองเชียง ทูน อ.ปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ บิดาชื่...
-
ไม่มีนกตัวไหน "บิน" ได้ตลอดไป และไม่มีนกตัวไหน "เกาะกิ่งไม้" ได้ตลอดเวลา ชีวิต...มีจังหวะก้าวเดินขอ งมัน หย...
-
UPDATE : JULY 21 2017 ประธาน พระอาจารย์ ธงชัย จูมแก้ว หลวงพี่มานิตย์ ยอดจันทร์ คุณครูมาลี ชุมนุม รองประธาน 1.คุณเรียม (วันฤดี บุญ...
-
ตอกโค๊ตท้าวเวสสุวรรณ หลวงพ่อลุน สุภาจาโร °°°°°°°°°°°°°°° ตัวเหวินเทียนหวัง (ท้าวเวสวัณ) ศิลปะจีน ตราประจำ จ...
-
คำศัพท์ภาษาอังกฤษวันนี้ flips the bird ..ha ha จำไว้ฝรั่งด่าจะได้รู้ 30 days in prison for contempt of court...Fair in my opinion ดูห...