ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบสถานการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดจันทบุรีว่าเมื่อวันที่ 24 ก.ค.56 ที่ผ่านมาสถานการณ์น้ำท่วม จ.จันทบุรี ล่าสุด ยังไม่คลี่คลาย โดยตั้งแต่เมื่อเวลา 04.00 น. คืนที่ผ่านมา แม่น้ำจันทบุรีได้เอ่อเข้าเขตเศรษฐกิจประชาชนเร่งขนย้ายสิ่งของทางจังหวัด เร่งระบายน้ำลงทะเลพร้อมแจกสิ่งของบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นมีผู้เสีย ชีวิตจากน้ำท่วมแล้ว 2 ราย ประชาชนเดือดร้อนกว่า 6,500 ครัวเรือน ร.ร.ปิดการเรียนการสอนแล้ว 14 แห่ง
ส่วนสถานการณ์น้ำที่ท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอของ จ.จันทบุรี ยังไม่คลี่คลายน้ำแม่น้ำจันทบุรีเริ่มเอ่อเข้าท่วมชุมชนริมน้ำจันทบูรความสูง 40-50 ซม.เจ้าหน้าที่กู้ภัยสมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถาน จันทบุรี และเจ้าหน้าที่ปภ.เทศบาลเมืองจันทบุรี เร่งช่วยประชาชนขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง ขณะที่ปภ.จ.จันทบุรีเปลี่ยนธงสัญลักษณ์เป็นสีแดงแจ้งเตือนภัยประชาชนในเขตเศรษฐกิจตัวเมืองจันทบุรีที่เริ่มมีน้ำเอ่อเข้าท่วมผิวจราจร และบ้านพักพื้นที่ต่ำริมฝั่งแม่น้ำเบื้องต้นพบว่ามีหมู่บ้านได้รับความเดือดร้อนเป็นวงกว้าง ประกอบด้วยหมู่บ้านไชยยันต์ วัดดอนตาล ชุมชนทองทั่ว บ้านลุ่ม หัวแหลม วัดใหม่ซอยศรีจันท์ ซอยกระจ่าง ตลาดน้ำพุ ระดับน้ำสูงประมาณ 40 ซม.-1 เมตร
ขณะที่ถนนหลายในเขตเทศบาลเมืองจันทบุรีระดับน้ำได้ลดลงจนเข้าสู่ภาวะปกติ มีเพียงแต่ถนนท่าแฉลบ ถนนชวนะอุทิศบริเวณด้านวิทยาลัยนาฏศิลป์ ถนนพระยาตรัง ซ.เจริญสุข น้ำท่วมสูง 40 ซม.-1 เมตรรถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯต้องใช้เรือลำเลียง รับส่งประชาชนตลอดจนผู้สูงอายุไปสู่ที่ปลอดภัย ส่วนพื้นที่รอบนอกอีก 5 อำเภอ ระดับน้ำยังทรงตัว ยังคงมีน้ำท่วมบ้านเรือน รวมทั้งสวนผลไม้และถนนทางเข้าหมู่บ้าน ส่วนถนนสายหลัก เช่น ถนนสุขุมวิท สายจันทบุรี-ตราด, จันทบุรี-สระแก้ว ระดับน้ำได้เริ่มลดลง
สำหรับโรงเรียนมารดาพิทักษ์ ต.จันทนิมิต อ.เมืองจันทบุรี ได้รับความเดือดร้อนหนักสุด เนื่องจากอยู่ติดคลองชลประทาน ระดับน้ำท่วมสูงทั่วบริเวณโรงเรียนระดับความสูง 40 ซม.-1.50 ม.ทางโรงเรียนต้องปิดการเรียน 6 วัน ตั้งแต่วันที่ 24-29 ก.ค.56 พร้อมกับขนย้ายสิ่งของอุปกรณ์การเรียนการสอนไว้ในที่ปลอดภัย ทั้งนี้ซึ่งหากระดับน้ำยังคงวิกฤติอย่างต่อเนื่องก็จะมีการเลื่อนการเรียนการสอนออกไปอีก นอกจากนี้ยังมี รพ.เอกชนอีก 2 แห่ง ได้รับผลกระทบจากน้ำที่เอ่อท่วมซึ่งเบื้องต้นต้องใช้เรือท้องแบน ให้บริการผู้ป่วยที่เข้ามาใช้บริการ
ขณะที่ สถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตจากไฟฟ้าดูดและจมน้ำแล้ว รวม 2 ราย โดยรายแรก เกิดขึ้นเมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 24 ก.ค.56 กำลังเจ้าหน้าที่กู้ภัยสมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถาน จันทบุรีได้รับแจ้งเหตุมีคนโดนไฟฟ้าดูด จนเสียชีวิตบริเวณประตูทางเข้าทะเลสาบทุ่งนาเชย สวนสาธารณะสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชฝั่งถนนท่าแฉลบ ต.ตลาด อ.เมือง จันทบุรี ภายหลังจากที่เกิดน้ำท่วมรอบทะเลสาบทุ่งนาเชย ซึ่งหลังรับแจ้งแล้ว พ.ต.ท.ประเชิญ ชาญสำโรง สารวัตรเวร สภ.เมืองจันทบุรี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯตลอดจนเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรเมืองจันทบุรี รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่าทั่วบริเวณตั้งแต่ถนนท่าแฉลบทั้ง 2 ฝั่งต่อเนื่องจนถึงทะเลสาบทุ่งนาเชย ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 50 เซนติเมตร โดยเยื้องประตูทางเข้าทะเลสาบใต้บริเวณโค่นเสาไฟส่องสว่างในสวน สาธารณะซึ่งอยู่ติดกับขอบอ่างเลียบทะเลสาบทุ่งนาเชย พบมือชูขึ้นมาเหนือผิวน้ำซึ่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯต้องอาศัยยืนบนโต๊ะมานั่ง หินอ่อนซึ่งอยู่ไม่ห่างจากมือที่พบประมาณ 5 เมตร เนื่องจากเกรงว่าจะมีกระแสฟ้ารั่วจากนั้นจึงได้แจ้งไปยังการไฟฟ้าส่วน ภูมิภาค จ.จันทบุรี ตัดไฟจนแน่ชัดว่าไม่มีกระแสไฟฟ้าแล้ว ทั่วบริเวณจึงได้เข้าตรวจสอบพบว่า เป็นมือของผู้เสียชีวิตที่อยู่ในลักษณะแข็งเกร็งไปทั่วร่างกายจึงได้ช่วยกัน นำศพขึ้นมาบนท้ายรถกระบะ ทราบว่าชื่อ นายพิชยา พันธุ์คำพา อายุ 28 ปี ไม่ทราบบ้านเลขที่ อยู่ ม.10 ต.หนองแวง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นคนงานก่อสร้างอยู่ที่โรงพยาบาลกรุงเทพฯจันทบุรี
นายสมจิต ควรชิต อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 64 ม.10 ต.หนองแวง อ.โคกสูงจ.สระแก้ว ซึ่งเป็นหัวหน้าคนงานและขณะเกิดเหตุเดินมาพร้อมกับนายพิชยา ผู้ตายและลูกน้องคนงานอีก 1 คน ให้การเบื้องต้นว่า ช่วงก่อนเกิดเหตุตนเองพร้อมด้วยผู้ตายและลูกน้องคนงาน ได้ออกมาหาปลาบริเวณที่เกิดเหตุซึ่งมีน้ำท่วมอยู่ทั่วบริเวณโดยตนเองพร้อม ด้วยลูกน้องอีกคนได้ชักชวนกันไปซื้อของเมื่อเดินกลับมาพบเพียงแต่มือของผู้ตาย ซึ่งก็สันนิษฐานว่าน่าจะถูกไฟฟ้าจากเสาที่อาจลงน้ำรั่วดูด จึงได้เรียกลูกน้องที่มาด้วยกันออกห่างจากที่เกิดเหตุพร้อมกับโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯมาตรวจสอบ
ส่วนอีกรายเกิดขึ้นเมื่อเวลา 10.00 น.(24 ก.ค.) สองพี่น้องเป็นเด็กชายวัย 10 ขวบ และเด็กชายวัย 8 ขวบ ได้พากันเดินข้ามถนนที่มีกระแสน้ำท่วมไหลเชี่ยว บริเวณคลองลำดวนซอยป่าช้าผีแขก ต.ท่าช้าง อ.เมืองจันทบุรี และถูกน้ำพัดลอยไปกลางน้ำโดยตัวพี่ชายไม่สามารถดึงน้องไว้ได้ทัน ทำให้น้องชายจมน้ำหายไปต่อหน้าส่วนตัวเองถูกน้ำพัดลอยไปติดกับกำแพงตึก ขณะผู้ที่เห็นเหตุการณ์ได้แจ้งขอกำลังเจ้าหน้าที่กู้ภัย สมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถาน จันทบุรี เร่งเข้าให้การช่วยเหลือโดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ได้ว่ายน้ำออกไปนำตัวเด็กชายวัย 10 ขวบ ทราบชื่อคือ ด.ช.ชวัตร เอี่ยมจันท์ กลับมาเข้ามายังจุดปลอดภัยได้อย่างส่วน ด.ช. พีรวัตร เอี่ยมจันท์ น้องชายที่จมน้ำหายไปนั้น เจ้าหน้าที่นำกำลังหน่วยกู้ภัยใช้เวลาในการค้นหาประมาณ 15 นาที จึงพบศพของหนูน้อยจมอยู่ใต้น้ำ ก่อนนำร่างขึ้นมาปั้มหัวใจยื้อชีวิตบนเรือ ภายหลังพยายามปั๊มหัวใจนานกว่า 10 นาที แต่อาการของเด็กไม่ตอบสนอง จึงได้รีบนำตัวเด็กขึ้นรถนำตัวส่งโรงพยาบาล ล่าสุดได้รับรายงานว่าแพทย์ไม่สามารถช่วยชีวิตหนูน้อยไว้ได้ โดย ด.ช.พีรวัตรได้เสียชีวิตขณะทำการรักษา
จากการสอบถามทราบว่า เด็กชายทั้งสองเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาของโรงเรียนเทศบาลเมืองจันทบุรี1 โดยขณะเกิดเหตุ ด.ช.ชวัตร ได้พาน้องชายขี่คอเดินจูงจักรยาน เดินมาตามถนนภายในซอยที่มีกระแสน้ำไหลท่วมและเชี่ยวแรง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ รองเท้าของน้องชายได้หลุดลอยไปกับน้ำจึงได้พยายามเดินตามไปเก็บก่อนจะถูกกระแสน้ำพัดลอยตกไปในคลอง และทำให้ ด.ช.พีรวัตร จมน้ำหายไปต่อหน้าส่วนตัวเองถูกน้ำพัดลอยไปติดกับตึกเลี้ยงนกนางแอ่น จนมีเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯเข้ามาช่วยเหลือได้ทัน จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ในขณะนี้ จ.จันทบุรี มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์น้ำท่วมแล้ว 2 ราย
ด้าน นายสุรชัย ขันอาสา ผวจ.จันทบุรี กล่าวหลังจากลงพื้นที่สำรวจและเร่งแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในเขตตัว เมืองจันทบุรี ว่าการระบายน้ำจากเขตจันทนิมิตลงทุ่งสระบาป และน้ำจากเขตเมืองลงคลองน้ำใสได้มีการนำเครื่องจักรกล รถแบ็กโฮ เร่งขุดทางระบายน้ำเพิ่มขึ้น พร้อมกันนี้ได้เตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำจันทบุรี ให้ยกของขึ้นที่สูงคาดว่าประมาณ 7 ชั่วโมงน้ำจาก อ.มะขาม และ อ.เขาคิชฌกูฏ จะลงมาถึงเขตเศรษฐกิจเมืองจันทบุรีและจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่โดยรอบ ซึ่งสาเหตุที่น้ำท่วมครั้งนี้เพราะมีฝนตกมากเป็นประวัติการณ์ สถิติวัดปริมาณน้ำฝนที่ตก 2 วัน ได้ 455.7 มิลลิเมตร ซึ่ง ผวจ.จันทบุรีได้เรียกประชุมเร่งด่วนหาแนวทางเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ท่วม ขังพร้อมหาแนวทางป้องกันระยะยาวโดยเฉพาะการป้องกันถนนสายหลักให้สัญจรไปมาได้สะดวก ส่วนพื้นที่ประสบภัย 6 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอเมือง อำเภอท่าใหม่ อำเภอขลุง อำเภอมะขามอำเภอแหลมสิงห์ และอำเภอเขาคิชฌกูฏ มีประชาชนได้รับผลกระทบ 21 ตำบล 141 หมู่บ้าน 19 ชุมชน ราษฎรเดือดร้อนกว่า 6,500 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบกว่า 8,000 ไร่
ขณะทางจังหวัดได้ตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม พร้อมกับเปิดศูนย์รับบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัย ที่ศลก.พร้อมกับตั้งโรงครัวปรุงกับข้าวสดแจกจ่ายผู้ประสบภัยบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนอย่างเร่งด่วนแล้ว
จากการสอบถามทราบว่า เด็กชายทั้งสองเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาของโรงเรียนเทศบาลเมืองจันทบุรี1 โดยขณะเกิดเหตุ ด.ช.ชวัตร ได้พาน้องชายขี่คอเดินจูงจักรยาน เดินมาตามถนนภายในซอยที่มีกระแสน้ำไหลท่วมและเชี่ยวแรง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ รองเท้าของน้องชายได้หลุดลอยไปกับน้ำจึงได้พยายามเดินตามไปเก็บก่อนจะถูกกระแสน้ำพัดลอยตกไปในคลอง และทำให้ ด.ช.พีรวัตร จมน้ำหายไปต่อหน้าส่วนตัวเองถูกน้ำพัดลอยไปติดกับตึกเลี้ยงนกนางแอ่น จนมีเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯเข้ามาช่วยเหลือได้ทัน จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ในขณะนี้ จ.จันทบุรี มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์น้ำท่วมแล้ว 2 ราย
ด้าน นายสุรชัย ขันอาสา ผวจ.จันทบุรี กล่าวหลังจากลงพื้นที่สำรวจและเร่งแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในเขตตัว เมืองจันทบุรี ว่าการระบายน้ำจากเขตจันทนิมิตลงทุ่งสระบาป และน้ำจากเขตเมืองลงคลองน้ำใสได้มีการนำเครื่องจักรกล รถแบ็กโฮ เร่งขุดทางระบายน้ำเพิ่มขึ้น พร้อมกันนี้ได้เตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำจันทบุรี ให้ยกของขึ้นที่สูงคาดว่าประมาณ 7 ชั่วโมงน้ำจาก อ.มะขาม และ อ.เขาคิชฌกูฏ จะลงมาถึงเขตเศรษฐกิจเมืองจันทบุรีและจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่โดยรอบ ซึ่งสาเหตุที่น้ำท่วมครั้งนี้เพราะมีฝนตกมากเป็นประวัติการณ์ สถิติวัดปริมาณน้ำฝนที่ตก 2 วัน ได้ 455.7 มิลลิเมตร ซึ่ง ผวจ.จันทบุรีได้เรียกประชุมเร่งด่วนหาแนวทางเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ท่วม ขังพร้อมหาแนวทางป้องกันระยะยาวโดยเฉพาะการป้องกันถนนสายหลักให้สัญจรไปมาได้สะดวก ส่วนพื้นที่ประสบภัย 6 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอเมือง อำเภอท่าใหม่ อำเภอขลุง อำเภอมะขามอำเภอแหลมสิงห์ และอำเภอเขาคิชฌกูฏ มีประชาชนได้รับผลกระทบ 21 ตำบล 141 หมู่บ้าน 19 ชุมชน ราษฎรเดือดร้อนกว่า 6,500 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบกว่า 8,000 ไร่
ขณะทางจังหวัดได้ตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม พร้อมกับเปิดศูนย์รับบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัย ที่ศลก.พร้อมกับตั้งโรงครัวปรุงกับข้าวสดแจกจ่ายผู้ประสบภัยบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนอย่างเร่งด่วนแล้ว
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วม จ.ตราด โดยภาพรวมระดับน้ำได้ลดลงบ้างแล้ว แต่ยังมีน้ำท่วมขังระดับสูงในพื้นที่ ต.สะตอ, ต.เทพนิมิต, ต.ประณีต ในอ.เขาสมิง จ.ตราด เนื่องจากช่วงเมื่อคืนที่ผ่านมาได้มีมวลน้ำไหลมาจากเขื่อนคีรีธาร อ.มะขาม จ.จันทบุรี ทำให้น้ำในคลอง ต.สะตอ อ.เขาสมิง จ.ตราด มีระดับเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยไหลเข้าท่วมบ้านเรือนจำนวน 7 หมู่บ้าน ทำให้ระดับน้ำใน ต.สะตอสูงกว่า 2 เมตร โดยเฉพาะหมู่ที่ 3, 4, 7 และ 9 ซึ่งอยู่ในระดับวิกฤติ มีบ้านเรือนจำนวนนับร้อยหลังคาเรือนถูกน้ำท่วม เจ้าหน้าที่ต้องใช้เรือท้องแบนเข้าให้การช่วยเหลือ
นอกจากนี้ ยังมีโรงเรียนปิดการเรียนการสอนจำนวน 5 แห่ง ประกอบด้วยโรงเรียนกิตติวิทยา โรงเรียนอนุบาลชุมชนวัดหนองบัว โรงเรียนชุมชนวัดท่าพริก ในเขต อ.เมือง และโรงเรียนประณีตวิทยาคม โรงเรียนเขาสมิงวิทยาคม ในอ.เขาสมิง โดยปิดการเรียนการสอนจนกว่าระดับน้ำเข้าสู่ภาวะปกติ
สำหรับการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทาง น.ส.เบญจวรรณ อ่านเปรื่อง ผู้ว่าราชการ จ.ตราด ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงาน ระดมให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้วในเบื้องต้น พร้อมทั้งได้ลงพื้นที่เข้าช่วยเหลือมอบสิ่งของและอาหาร ให้กับผู้ประสบภัยในพื้นที่ ต.สะตอ อ.เขาสมิง ซึ่งได้รับความเดือดร้อนมากสุด ส่วนเขต อ.เมือง ยังคงมีหลายจุดที่น้ำท่วมขังบ้านเรือนประชาชน เนื่องจากน้ำทะเลหนุนทำให้ระบายน้ำไม่ทัน จึงต้องนำเครื่องสูบน้ำเร่งระบายน้ำออกไปทางบ้านแหลมตาโพย ต.หนองเสม็ด เพื่อลดระดับน้ำที่ท่วมขังในตัวเมืองให้เร็วที่สุด ก่อนมวลน้ำที่ท่วมขังใน อ.เขาสมิง จะไหลเข้ามาสมทบ
นอกจากนี้ ยังมีโรงเรียนปิดการเรียนการสอนจำนวน 5 แห่ง ประกอบด้วยโรงเรียนกิตติวิทยา โรงเรียนอนุบาลชุมชนวัดหนองบัว โรงเรียนชุมชนวัดท่าพริก ในเขต อ.เมือง และโรงเรียนประณีตวิทยาคม โรงเรียนเขาสมิงวิทยาคม ในอ.เขาสมิง โดยปิดการเรียนการสอนจนกว่าระดับน้ำเข้าสู่ภาวะปกติ
สำหรับการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทาง น.ส.เบญจวรรณ อ่านเปรื่อง ผู้ว่าราชการ จ.ตราด ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงาน ระดมให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้วในเบื้องต้น พร้อมทั้งได้ลงพื้นที่เข้าช่วยเหลือมอบสิ่งของและอาหาร ให้กับผู้ประสบภัยในพื้นที่ ต.สะตอ อ.เขาสมิง ซึ่งได้รับความเดือดร้อนมากสุด ส่วนเขต อ.เมือง ยังคงมีหลายจุดที่น้ำท่วมขังบ้านเรือนประชาชน เนื่องจากน้ำทะเลหนุนทำให้ระบายน้ำไม่ทัน จึงต้องนำเครื่องสูบน้ำเร่งระบายน้ำออกไปทางบ้านแหลมตาโพย ต.หนองเสม็ด เพื่อลดระดับน้ำที่ท่วมขังในตัวเมืองให้เร็วที่สุด ก่อนมวลน้ำที่ท่วมขังใน อ.เขาสมิง จะไหลเข้ามาสมทบ
ขณะที่พื้นที่ จ.สระแก้ว น้ำป่าจากเทือกเขาอุทยานปางสีดาได้ไหลเข้าพื้นที่ ต.แซร์ออ อ.วัฒนานคร ทำให้น้ำเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนที่อาศัยในที่ลุ่ม รวมทั้งไร่นาได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะพื้นที่หมู่ที่ 1 ,2 ,3, 6 และ 9 นอกจากนั้น ยังท่วมถนนลูกรังทางเข้าหมู่บ้านสายแซร์ออ-บ้านเขาพรมสุวรรณ โดยทางอำเภอได้ให้หน่วยงานออกสำรวจความเสียหายเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยต่อไป.
โดย: ทีมข่าวภูมิภาค
24 กรกฎาคม 2556, 19:20 น.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น