วันอังคารที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2560

ล้างแอร์ ประหยัดค่าไฟ ราคาไม่แพงกับ ช่างวิลัย


ลดโลกร้อนและประหยัดเงินในกระเป๋าของคุณ


- คุณเคยสงสัยไหมว่าทำไมแอร์ที่บ้านใช้ไปนานๆ แล้วมันชักเริ่มไม่ค่อยเย็นทันใจเหมือนตอนซื้อมาใหม่ๆ?
- คุณมีปัญหาภูมิแพ้ จามหลังจากตื่นนอนขึ้นมาบ้างรึเปล่า?
- หรือบางทีถ้าคุณสังเกตเห็นบิลค่าไฟที่บ้านแล้วตกใจ โอ้ววว ทำไมมันแพงเช่นนี้
วิธีแก้วิธีหนึ่งคือ ล้างแอร์ครับ ล้างแอร์เป็นการกำจัดฝุ่นละออง สารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ ที่ติดค้างอยู่ตามแอร์ เพื่อให้แอร์ของคุณสะอาดนอกจากนี้ การลดส่งที่อุดตันจะทำให้แอร์ของคุณทำงานน้อยลง ยืดอายุการใช้งาน ลดค่าไฟ และคุณยังได้แอร์เย็นๆสำหรับห้องของคุณอีกด้วย
แต่ว่าการล้างแอร์นั้นไม่ใช่ทำกันง่ายๆเท่าไรครับ คุณต้องมีที่ฉีดน้ำแรงดันสูง ความชำนาญเล็กน้อย และอุปกรณ์เป็นผ้าใบสำหรับล้างแอร์ (ไม่งั้นบ้านคุณเปียกแน่นอน)
การหาช่างล้างแอร์ที่ดี ราคาไม่แพงนั้น ไม่ยากครับ Wilai Air ยินดีให้บริการท่านถึงที่ในราคามิตรภาพในเขตพัทยา-สัตหีบ
ติดต่อเลย : 089-1351917 ,084-7628068
การล้างแอร์ทั่วไปค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ 500-600 บาทต่อเครื่อง แต่ที่ Wilai Air นั้นมีช่างฝีมือดีที่รับล้างอยู่ 250 - 300 บาทต่อเครื่องเท่านั้น

วันพุธที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2560

5 ข้อคิดที่ได้จากบทเรียนของ Nokia


5 ข้อคิดที่ได้จากบทเรียนของ Nokia

-----

1. ถ้าคุณหยุดการเรียนรู้ คุณก็จะตามคนอื่นไม่ทัน

2. โลกมันเปลี่ยนไปเร็วมาก และจะเร็วกว่าที่คุณคาดไว้เยอะ ห้ามหยุดที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ

3. อย่ายึดติดกับความสำเร็จของเมื่อวาน
เพราะความสำเร็จของวันวาน จะถูกแทนที่ด้วยเทรนด์ใหม่ของวันพรุ่งนี้

4. แม้คุณจะไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ถ้าคู่แข่งเค้าก้าวไปล้ำกว่าคุณ และถูกใจผู้บริโภคมากกว่า แล้วคุณไม่รีบปรับตัว คุณก็จะโดนเขี่ยออกจากตลาดในที่สุด

5. กลยุทธ์หรือแผนการที่คุณมีในวันนี้ ไม่ได้แปลว่ามันจะเปลี่ยนไม่ได้นะครับ อะไรที่ควรปรับ เราต้องปรับ เพื่อให้ตามกระแสโลกได้ทัน

-----

CEO ของ Nokia กล่าวทั้งน้ำตาว่า
"เราไม่ได้ทำอะไรผิด แต่โลกมันเปลี่ยนไปเร็วมาก จนตามไม่ทัน"

วันพุธที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2560

รู้จักกฎหมายอาญามาตรา 116


ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 หรือข้อหา “ยุยงปลุกปั่น” เป็นกฎหมายที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักกันมากนัก เพราะมีเหตุให้ใช้ไม่บ่อย แต่ในระยะหลังมานี่เริ่มได้เห็น หรือได้ยิน ได้ฟัง มาตรานี้บ่อยขึ้น

รู้จักกฎหมายอาญามาตรา 116
ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 บัญญัติไว้ว่า
          “มาตรา ๑๑๖ ผู้ใดกระทำให้ปรากฎแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใด อันไม่ใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือไม่ใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต
          (๑) เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกฎหมายแผ่นดินหรือรัฐบาล โดยใช้กำลังข่มขืนใจ หรือใช้กำลังประทุษร้าย
          (๒) เพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน ถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือ
          (๓) เพื่อให้ประชาชน ล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี”
 
มาตรา 116 นี้เขียนอยู่ในประมวลกฎหมายอาญาภาค 2 ลักษณะที่ 2 ความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร จะเห็นได้ว่า มาตรา 116 เป็นความผิดอาญาที่มุ่งเอาผิด “การทำให้ปรากฎแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่น” หมายความว่า กฎหมายนี้เป็นกรอบกำกับการแสดงความคิดเห็นต่อสาธารณะไม่ให้กระทบต่อความมั่นคงของรัฐ
 
หากเป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต ไม่ว่าจะเป็นการวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล วิพากษ์วิจารณ์กฎหมายที่เห็นว่าไม่ชอบธรรม หรือ สำหรับยุคที่มีรัฐธรรมนูญ หากเป็นการใช้เสรีภาพการแสดงความคิดเห็นตามสิทธิขึ้นพื้นฐานในรัฐธรรมนูญ ย่อมไม่เป็นความผิดตามมาตรา 116 และที่สำคัญเมื่อกฎหมายนี้อยู่ในหมวด “ความมั่นคง” การกระทำที่จะถือว่าผิดมาตรา 116 ผู้กระทำต้องมีเจตนาให้กระทบต่อความมั่นคงด้วย 
 
สำหรับการเรียกร้องต่อสาธารณะให้แก้ไขหรือยกเลิกกฎหมายที่เห็นว่าไม่เป็นธรรม หรือการเรียกร้องให้เปลี่ยนรัฐบาล หรือผู้นำประเทศ หากเป็นการเรียกร้องโดยสันติวิธีไม่มีการใช้กำลังเข้าบังคับ ก็ย่อมไม่ผิดตามมาตรา 116 (1)
 
ประมวลกฎหมายอาญา ไม่ได้ตั้งชื่อเล่นหรือชื่อเรียกสั้นๆ ให้กับมาตรา 116 เหมือนความผิดฐาน “ลักทรัพย์” “ยักยอกทรัพย์” หรือ “ทำร้ายร่างกาย” มาตรา 116 จึงถูกเรียกแตกต่างกันไป บางครั้งเรียกว่าความผิดฐาน “ยุยงปลุกปั่น” ซึ่งเป็นชื่อไม่เป็นทางการที่พอจะอธิบายลักษณะการกระทำที่เป็นความผิดตามมาตรานี้ได้บ้าง แต่ไม่ถึงกับสมบูรณ์นัก
 
เมื่อเปรียบเทียบกับกฎหมายของต่างประเทศ ความผิดในลักษณะนี้หลายประเทศเรียกว่า Sedition Law ซึ่งบางประเทศก็เขียนไว้ในกฎหมายอาญาเหมือนกับไทย บางประเทศก็กำหนดไว้ในกฎหมายพิเศษต่างหาก


Suban Kampaeng
Blogger

วันจันทร์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2560

วันพฤหัสบดีที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2560

So smile ^^


...  ถ้าวันนี้ยังยิ้มได้ ก็จงยิ้ม...
ถ้าวันนี้ยังพูดได้ อยากจะบอกรักใครก็จงเดินไปบอก..
ถ้าวันนี้ยังไม่เป็นง่อย อยากจะกอดใคร ก็จงไปกอด..  
(** ขออนุญาตุเขาก่อนนะ เดี๋ยวเขาตบเอา 555 **)

วันอาทิตย์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

พระไพศาล วิสาโล แจง...ติเตียนพระ บาปไหม? อ้างอิงยุคพุทธกาล ฆราวาสทักท้วงดั่งมีผู้ชี้ขุมทรัพย์

"ติเตียนพระจะเป็นบาปไหม? "
โดย พระไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ

ถาม - การติเตียน พระภิกษุ เป็นการบาปหรือไม่คะ กรณีที่พระทำอะไรที่ผิดพระวินัย หรือ ทำอะไรออกนอกลู่นอกทาง ไม่เหมาะ เรามีสิทธิตักเตือนได้หรือไม่?

พระไพศาล วิสาโล ตอบ - การติเตียนพระภิกษุ จะบาปหรือไม่ อยู่ที่เจตนา หรือจิตใจ เช่น ถ้าทำด้วยใจที่มุ่งร้าย หรือแม้แต่ด้วยใจที่เป็นลบ เช่น โกรธ ไม่พอใจ ภาวะจิตใจเช่นนี้เป็นอกุศล จะเรียกว่าเป็นบาป ก็ได้ แต่ไม่ใช่บาป ระดับเดียวกับศีล ๕
การตักเตือนพระเป็นสิ่งที่ควรทำ เพราะพระส่วนใหญ่เป็นผู้ที่อยู่ระหว่างการฝึกฝนพัฒนาตน ควรมีผู้แนะนำและทักท้วงเมื่อเห็นท่านประพฤติไม่ถูกต้องตามพระธรรมวินัย ผู้ที่ทำเช่นนั้นถือว่าเป็นทั้งกัลยาณมิตรและผู้รักษาพระธรรมวินัย อันถือว่าเป็นหน้าที่อย่างหนึ่งของอุบาสกอุบาสิกา

ในสมัยพุทธกาล มีพระหลายรูปที่ถูกฆราวาสทักท้วงด้วยความปรารถนาดี เช่น นางวิสาขา เป็นที่มาของสิกขาบทหลายข้อในพระวินัย การกระทำดังกล่าวเป็นสิ่งที่พระพุทธเจ้าสรรเสริญ ในส่วนของพระ เมื่อมีคนวิจารณ์ทักท้วง ควรมองว่าผู้นั้นคือ “ผู้ชี้ขุมทรัพย์” ดังที่พระพุทธองค์ทรงแนะนำเอาไว้
สาธุ สาธุ สาธุ


เนื้อหาจาก : visalo.org  /ปุจฉา วิสัชนา พระไพศาล วิสาโล


วันจันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

Myself

"ตัวเราเอง"
ถ้าสิ่งที่ใกล้ตัวที่สุด คุ้นเคยที่สุด ยังไม่เรียนรู้ยังไม่เข้าใจ...
ก็ป่วยการที่จะไปแสวงหาความหมายของสิ่งอื่นใดในโลก

           

Most watched