วันพุธที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

สุขพอที่พ่อสอน

ความพอเพียงนี้ ก็แปลว่า ความพอประมาณ และความมีเหตุผล พอเพียงนี้อาจจะมีมาก อาจจะมีของหรูหราก็ได้ แต่ว่าต้องไม่ไปเบียดเบียนคนอื่น ต้องให้พอประมาณตามอัตภาพ

พระราชดำรัส พระราชทานแก่คณะบุคคลต่างๆ ที่เข้าเฝ้าฯถวายชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต วันพฤหัสบดีที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๔๑

  #สุขพอที่พ่อสอน

วันศุกร์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

ข้ามหอมมะลิ อ.โนนนารายณ์ จ.สุรินทร์ ได้นำข้าวเปลือกมาสีและขายตรงสู่ผู้บริโภค


ข้ามหอมมะลิ อ.โนนนารายณ์ จ.สุรินทร์ ได้นำข้าวเปลือกมาสีและขายตรงสู่ผู้บริโภค

สั่งซื้อข้าวสารตามนี้
- ข้าวใหม่ ก.ก. ละ 30 บาท
- ข้าวเก่า ก.ก. ละ 20 บาท

เบอร์ ติดต่อ : 091-350-1738

วันพฤหัสบดีที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

หัวรบรุ่นใหม่ RS28 Sarmart (รัสเซีย) พลังทำลายล้างเทียบเท่าที่ทำลายฮิโรชิมาและนางาซากิถึง2,000ครั้ง

นับวันรอยร้าวความขัดแย้งของมหาอำนาจของโลก ระหว่างรัสเซีย กับทวีปยุโรป และสหรัฐฯ ก็เริ่มเห็นชัดขึ้นมากขึ้นไปทุกที ทำให้ต่างคนต่างระแวงกันทั้งสองฝ่าย และแน่นอนการประกาศว่าตนมีอาวุธทำลายล้างสูง ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่รัสเซีย ได้เผยให้เห็น ดังนั้น วันนี้เราจะไปทำความรู้จักกับ หัวรบนิวเคลียร์รุ่นใหม่ ที่เป็นไปได้ว่ามันอาจถูกใช้ในสงครามโลกครั้งที่ 3 หากทั้ง 2 ฝ่ายเปิดฉากทำสงครามขึ้น
เจ้าหัวรบรุ่นใหม่ ที่รัสเซียได้พัฒนาขึ้น RS-28 Sarmat หรือ ซาตาน 2 ที่ขนานนามโดยกองกำลังนาโต้ มันสามารถเดินทางได้ด้วยความเร็ว 4.3 ไมล์ต่อวินาที ราว 400 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่แบกน้ำหนักระเบิดนิวเคลียร์ 40 เมกาตัน ซึ่งมีพลังทำลายล้างเทียบเท่า นิวเคลียร์ที่ทำลาย ฮิโรชิมา และนางาซากิ ในปี 1945 ถึง 2,000 ครั้งเลยทีเดียวยิงได้ไกลกว่า 10,000 กิโลเมตร เป็นขีปนาวุธข้ามทวีป ที่ทำลาย ลอนดอน ของอังกฤษ และสหรัฐอเมริกาได้อย่างสบายๆ

ทำไม ชาวนาญี่ปุ่น จึงรวย?

ทำไม ชาวนาญี่ปุ่น จึงรวย?
ในช่วงไตรมาส4 ของทุกปี เราจะพบว่า มีชาวญี่ปุ่น มาเล่นกอล์ฟ ที่ประเทศไทย มากมาย หลายคนคงไม่รู้ว่า มากกว่าครึ่งนั้น พวกเขาคือชาวนา ที่มาท่องเที่ยวพักผ่อน ชาวนาญี่ปุ่นรวย มีความสามารถที่จะกันเงินส่วนหนึ่งออกท่องเที่ยวไปทั่วโลก บางคนสงสัยว่า ทำไมชาวนาญี่ปุ่น จึงร่ำรวย ในขณะที่ชาวนาไทย จึงยากจน อย่าว่าแต่จะเก็บเงินไปท่องเที่ยวเลย เพียงแค่ให้สามารถดำรงชีพได้ ไม่เป็นหนี้ ก็ยังไม่สามารถทำได้
ชาวนาญี่ปุ่น มาถึงวันนี้ได้ ไม่ใช่เพราะญี่ปุ่นคิดและทำเอง แต่เพราะคนญี่ปุ่นมีวินัย เมื่อเห็นว่าใครมาวางพื้นฐานที่ดีให้ พวกเขาสานต่อและพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นๆ
ชาวนาญี่ปุ่นรวยเพราะ ญี่ปุ่นแพ้สงครามในสงครามโลกครั้งที่2 ในสงครามครั้งนั้น แม้จะสูญเสียอย่างใหญ่หลวง เพราะโดนระเบิดปรมาณูถึง2 ลูก ที่ฮิโรชิมาและนางาซากิ ผู้คนตายหลายแสน กัมมันตภาพรังสีตกค้างจนมีคนพิการมากมายเป็นล้านคน
แต่ในความโชคร้ายนั้น ก็มีโชคดีที่ส่งผลให้ชาวนาญี่ปุ่นกลายเป็นกลุ่มคนที่มีรายได้สูง เป็นกลุ่มอาชีพ ที่ร่ำรวยจากการทำนา ของญี่ปุ่นในปัจจุบัน
เมื่อสหรัฐอเมริกา ชนะสงครามเหนือญี่ปุ่น รัฐบาลสหรัฐได้ส่งกองกำลังทางทหารเข้าปกครองเหนือรัฐบาลญี่ปุ่น สหรัฐมองว่า การแพ้สงครามครั้งนี้ ญี่ปุ่นบอกช้ำมาก มากถึงระดับที่หากไม่แก้ไข ภาระความรับผิดชอบต่อการหิวโหย อดอยาก ขาดอาหารของประชาชนชาวญี่ปุ่น ต้องตกแก่รัฐบาลสหรัฐอเมริกา เป็นแน่แท้
ในสมัยนั้น สภาพสังคมของญี่ปุ่น เจ้าของที่ดินรายใหญ่ จะเป็นราชวงศ์ ขุนนาง และพ่อค้าคหบดี เท่านั้น ชาวนาส่วนใหญ่ ต้องเช่าที่ดินของคนกลุ่มนี้ ซึ่งราคาค่าเช่า ขึ้นอยู่กับเจ้าของที่ดิน อีกทั้งเมื่อเกิดผลผลิตขึ้นมา ต้องขายให้เจ้าของที่ดิน เพราะภาวะหลังสงคราม อาหารไม่เพียงพอ ผลผลิตข้าว จะตั้งราคาขายให้สูงอย่างไรก็ได้ ผลที่เกิดขึ้นคือ ชาวนาผู้ปลูกยากจน แต่เจ้าของที่ดินร่ำรวยมหาศาล
ในปี 1946 รัฐบาลสหรัฐ จึงใช้อำนาจทางทหาร สั่งให้รัฐบาลญี่ปุ่น ปฏิรูปที่ดิน ทั้งประเทศ โดยบังคับให้เจ้าของที่ดินรายใหญ่ ที่กล่าวมาแล้ว ข้างต้น ขายที่ดินให้รัฐบาล ใครคัดค้านโดนจับโดนยึดทรัพย์ แล้วรัฐบาลก็เอาที่ดินเหล่านั้น มาแบ่งขายให้เกษตรกร ที่ทำการเกษตรด้วยตัวเองแต่ไม่มีที่ดินทำกิน โดยให้สามารถผ่อนจ่ายได้ ตามรอบของผลิตผลที่ออกมา โดยราคาขายรัฐบาลตั้งไว้เป็นที่แน่นอน ไม่ขึ้นลงตามสภาพตลาด
ในภาวะ หลังสงคราม ของกินของใช้มีน้อย พ่อค้ากำหนดราคาขายที่สูงได้ เกิดภาวะเงินคั่งอยู่ในกลุ่มพ่อค้า แต่ผู้บริโภคไม่มีเงิน ขาดความสมดุล รัฐบาลต้องพิมพ์เงินเติมเข้าไปในกลุ่มผู้บริโภค จึงส่งผลให้เกิดเงินเฟ้อ ค่าของเงินมีค่าต่ำ ข้าวกิโลกรัม เดียวต้องใช้เงินเป็น1000 เยน แต่ในความโชคร้ายนั้น กลับเป็นโอกาสให้ ชาวนามีเงินในมือมากพอที่จะชำระค่าที่ดินได้ เพราะราคาที่ดินไม่ได้ขึ้นตามภาวะเงินเฟ้อ
มาตรการนี้ ได้รับการชื่นชมไปทั่วโลกว่าเป็นการปฏิรูปเชิงเกษตรที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด เพราะ นอกจากทำให้ชาวนามีที่ดินเป็นของตัวเองแล้ว ยังเป็นการปลดพันธนาการ ระหว่างนายทุน นายเงิน กับ ชาวนา ออกจากกันได้ ทำให้ชาวนาเริ่มมีอิสระ ที่แท้จริงในการประกอบอาชีพ
ต่อมา เป็นกฎเกณฑ์สำคัญ ที่ทำให้ชาวนา เป็นอาชีพที่มั่นคง และร่ำรวยในปัจจุบัน
ในประเทศญี่ปุ่นนั้น ไม่ใช่ใครอยากจะทำนาก็เข้าไปทำได้ คนจะเป็นชาวนาได้ ต้องใช้วิธีสืบทอด เท่านั้น หมายถึงพ่อเป็นชาวนา เมื่อพ่อทำไม่ไหว คนที่จะทำต่อได้ต้องเป็นลูกหรือผู้เข้ารับมรดก แทนที่เท่านั้น หากประชาชนทั่วไป อยากมาทำนา ต้องเข้าระบบสหกรณ์ รัฐจะจัดสรรที่ดินให้ทำ โดยไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินดังกล่าว
มาถึงตรงนี้ พอเห็นภาพแล้วใช่ไหมว่า การทำนาในประเทศญี่ปุ่น ถูกควบคุมด้วยปริมาณ ทำให้รัฐบาลรับรู้ถึงผลผลิตที่จะออกมาว่า เกินการบริโภคภายในจำนวนเท่าไร ส่วนที่เกินจะเอาไปขายที่ใหน
  ต่อมา เป็นยุคของการพัฒนา
ในปี 2005 เกิดการปฏิวัติเขียว คือการเอาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี่เข้ามาใช้ในวงการเกษตร (ผมเคยเขียนไปแล้วเรื่องการปฏิวัติเขียว) ญี่ปุ่นก็ขึ้นขบวนรถไฟขบวนนี้ด้วย(แต่ไทย ไม่รู้แม้กระทั่ง มีรถไฟขบวนนี้ ฮา)
ญี่ปุ่นได้ทำการวิจัย เพื่อสร้างข้าวพันธุ์ใหม่ขึ้นมาด้วยวิธีการตัดต่อยีน โดยตั้งโจทย์ของงานวิจัยไว้ว่า
1.ทนทานโรคและแมลง
2.ทนอากาศหนาว
3.ต้นเตี้ย
4.แตกกอดี
5.ผลผลิตสูง
6.ปริมาณสารอาหารสูง
7.รสชาติดี
8.ระยะเวลาเก็บเกี่ยวสั้น
9.ตอบสนองการเจริญเติบโต ด้วยสารอาหารจากอินทรีย์ (ศูนย์วิจัยข้าวไทย กระตุ้นด้วยเคมีล้วนๆ มูลนิธิข้าวขวัญทำข้าวอินทรีย์ต้องใช้วิธีค่อยๆเก็บพันธุ์ด้วยตนเอง)
10.เมื่อนำไปสี ได้ปริมาณข้าวสารเมล็ดเต็มสูง(ข้าวญี่ปุ่นได้ข้าวเมล็ดเต็ม 60% นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไม จึงวิจัยออกมาให้ ข้าวญี่ปุ่นจึงเมล็ดสั้น ส่วนข้าวไทย ได้ข้าวต้น (ข้าวเต็มเมล็ด) 40-45% ข้าวหักใหญ่(ยี่จ้อ) 5% ข้าวหักกลาง(ซาห่อ) 5-10% ข้าวหักเล็ก(ก๊วย) 10-15% ที่เหลือเป็นรำ เป็นแกลบ)
ด้วยการวางมาตรการที่ผ่านมา ทำให้ปริมาณผลผลิตของข้าวญี่ปุ่น ควบคุมได้ ไม่เกิดการล้นตลาดเป็นพันธุ์เฉพาะตัว เพราะวิจัยสายพันธุ์ใหม่ มีสารอาหารสูง แปลงสภาพจากข้าวเปลือกเป็นข้าวสาร ได้ปริมาณสูง ถึง 60% จึงทำให้ราคาข้าวของญี่ปุ่นมีราคาสูงและนิ่ง ระยะเวลาเก็บเกี่ยวสั้น ทนสภาพอากาศ ทนต่อโรคและแมลง จึงเป็นผลให้มีต้นทุนการปลูกต่ำ เมื่อต้นทุนต่ำ ราคาขายสูง ชาวนาญี่ปุ่น จึงร่ำรวยอย่างที่เราเห็นกัน
ลองเปรียบเทียบเอาเองครับว่า แต่ละช่วงเวลาของการพัฒนาการ ชาวนาไทย กับ ชาวนาญี่ปุ่น ต่างกันมากมายขนาดใหน วิสัยทัศน์รัฐบาลเรา กับรัฐบาลเขา จากอดีต จนถึงปัจจุบันแตกต่างกันอย่างไร ชาวนาเรากับชาวนาเขามีวินัย แตกต่างกันอย่างไร ทุกอย่างล้วนมีที่มาที่ไปทั้งสิ้น นี่ยังไม่ได้กล่าวถึงสวัสดิการ โครงสร้างพื้นฐาน ทั้งถนนคอนกรีต ที่รัฐบาลทำไปจนถึงที่นาให้ขนปัจจัยและผลผลิต ระบบไฟฟ้า ที่ทำไปถึงที่นาให้สูบน้ำ เลยนะครับ
โดย นายเกษตรดี

ขอบคุณเรื่องราวดี ๆ จากเว็บไซค์ kasetdee

วันพุธที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

ข่าวฝากจากชาวนา




ชาวนาเขวาสินรินทร์ฮึดสู้ !!! ซื้อเครื่องสีข้าวขายข้าวสารเอง
ชาวนาชุมชนเขวาสินรินทร์ โดยได้รับเรื่องราวจาก คุณสุพจน์  คนึงเพียร ชาวนาบ้านตระแบกใหญ่  หมู่ 10 ต.เขวาสินรินทร์ อ.เขวาสินรินทร์  จ.สุรินทร์ ชาวนาผู้มีไอเดียซื้อเครื่องสีข้าวขนาดเล็ก ราคา 15,000 บาท นำมาสีข้าวในครอบครัวเพื่อบรรจุถุงขายเองในสภาวะทวนกระแสที่ข้าวเปลือกราคากิโลกรัมละ 5 บาทในช่วงนี้   คุณสุพจน์ คนึงเพียร เล่าว่า "ชีวิตต้องสู้ อยู่เพื่อวันพรุ่งนี้มาดูโรงสีขนาดเล็กสีข้าวได้เร็วคุณภาพเยี่ยม แกลบไม่มีมีแต่รำต้องสีข้าวสารขายแล้วครับท่าน"

Credit : ชุมชนเขวาสินรินทร์

วันอังคารที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

ข่าวฝากจากชาวนา ฝ่าวิกฤตราคาข้าว

ชาวตำบลสะกาด อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ผ่าวิกฤตราคาข้าว ด้วยการรวมกลุ่มสีข้าวหอมมะลิขายเอง 
โดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง
สั่งซื้อติดต่อ นายเมธา ขอชัย ปลัด อบต.สะกาด
098-121-8398 หรือ 093-4545-979,
096-416-9165 


(โฆษณาฟรี สำหรับพี่น้องชาวนา)

++++++++++++++++++++++++
พ่อ แม่ พี่ น้อง ชาวนาทุกๆท่านครับ
 
   ท่านใดที่กำลังจะขายข้าวสารเอง ปลูกเอง ขายเอง  ผมยินดีเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการช่วยประสาสัมพันธ์ผ่านทางเวปบล็อกของผมทั้ง 4 บล็อกนะครับ ผมจะวางโฆษณาในด้านบนหรือด้านล่างบทความในหน้าเวปฯให้ท่านฟรีครับ แค่ท่านส่งรายละเอียด รูปถ่าย และเบอร์โทรศัพท์ ซึ่งผมจะลงไว้ให้ผู้ที่สนใจติดต่อกับท่านผู้จำหน่ายโดยตรงครับ
  ผมแค่จะช่วยโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้ท่านเท่านั้น
แม้เวปฯติ๊งต๊องของผมจะไม่หวือหวาอะไรนัก แต่ก็พอมีผู้เข้าชมอยู่ราวๆเกือบห้าหมื่นคน น่าจะพอช่วยท่านได้บ้าง เผื่อจะมีคนสนใจซื้อข้าวสารโดยตรงจากชาวนาอยู่บ้างไม่มากก็น้อยนะครับ

   บล็อกผมเชื่อมกับโชเซียลเน็ตเวอร์คเกือบทุกแฟลตฟอร์มครับ จะเผยแพร่อัตโนมัติและโฆษณาจะไปทุกๆบทความที่เผยแพร่ครับ
Facebook,Tweeter,Line Aplication,Google+ เป็นต้นครับ

ส่งรายละเอียดมาให้ผมที่ Line id : subankampaeng
ติดต่อสอบถาม Mobile : 089-6035977 นะครับ

คำสอนหลวงพ่อชา สุภัทโท

อะไรมันหนัก ก็วางลงเถิด
สิ่งที่พระพุทธเจ้าสอนมีเพียงเท่านี้

-หลวงพ่อชา สุภัทโท-

-------------------------------------------------
พ่อ แม่ พี่ น้อง ชาวนาทุกๆท่านครับ
 
 ท่านใดที่กำลังจะขายข้าวสารเอง ปลูกเอง ขายเอง  ผมยินดีเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการช่วยประสาสัมพันธ์ผ่านทางเวปบล็อกของผมทั้ง 4 บล็อกนะครับ ผมจะลงโฆษณาในเฟลตฟอร์มด้านบนหรือด้านล่างบทความในเวปฯให้ท่านฟรีครับ แค่ท่านส่งรายละเอียด รูปถ่าย และเบอร์โทรศัพท์ ซึ่งผมจะลงไว้ให้ผู้ที่สนใจติดต่อกับท่านผู้จำหน่ายโดยตรงครับ
  ผมแค่จะช่วยโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้ท่านเท่านั้น
แม้เวปฯติ๊งต๊องของผมจะไม่หวือหวาอะไรนัก แต่ก็พอมีผู้เข้าชมอยู่ราวๆเกือบห้าหมื่นคน น่าจะพอช่วยท่านได้บ้างนะครับ

   บล็อกผมเชื่อมกับโชเซียลเน็ตเวอร์คเกือบทุกแฟลตฟอร์มครับ
Facebook,Tweeter,Line Aplication,Google+ เป็นต้นครับ

ส่งรายละเอียดมาให้ผมที่ Line id : subankampaeng
ติดต่อสอบถาม Mobile : 089-6035977 นะครับ
(ตัวอย่างรายละเอียดครับ)
++++++++++++++++++++++++++++++++++
 (โฆษณาฟรี สำหรับพี่น้องชาวนา)
ชาวตำบลสะกาด อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ผ่าวิกฤตราคาข้าว ด้วยการรวมกลุ่มสีข้าวหอมมะลิขายเอง โดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง
สั่งซื้อติดต่อ นายเมธา ขอชัย ปลัด อบต.สะกาด
098-121-8398 หรือ 093-4545-979,096-416-9165


Most watched