วันจันทร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

โรคเลือดจางทาลัสซีเมีย (Thalassaemia)



Cr : MySci


โรคเลือดจางทาลัสซีเมีย (Thalassaemia) เกิดากเม็ดเลือดแดงมีอายุสัโรคเลือดจางทาลัสซีเมีย (Thalassaemia) เกิดากเม็ดเลือดแดงมีอายุสั้นกว่าปกติ แตกง่าย ถูกทำลายง่าย ผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้จึงมีเลือดจาง้นกว่าปกติ แตกง่าย ถูกทำลายง่าย ผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้จึงมีเลือดจาง

WHO เตือนเฝ้าระวังไวรัสคล้าย “ซาร์ส” ระบาด-ทั่วโลกติดเชื้อแล้ว 12 ราย



By


WHO เตือนเฝ้าระวังไวรัสคล้าย “ซาร์ส” ระบาด-ทั่วโลกติดเชื้อแล้ว 12 ราย 

องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศเตือนให้ทุกประเทศเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสคล้ายโรคซาร์ส (SARS) หลังพบผู้ป่วยรายใหม่ในอังกฤษซึ่งทำให้จำนวนคนติดเชื้อทั่วโลกเพิ่มเป็น 12 รายแล้ว

WHO ซึ่งเป็นหน่วยงานสาธารณสุขในสังกัดองค์การสหประชาชาติ ระบุในแถลงการณ์ว่า “จากสถานการณ์และข้อมูลที่มีอยู่ในปัจจุบัน WHO ขอให้ทุกรัฐสมาชิกเฝ้าจับตาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสซึ่งก่อให้เกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจรุนแรงเฉียบพลัน (severe acute respiratory infections : SARI) และตรวจสอบผู้ป่วยที่มีอาการผิดปกติ”

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (15) สาธารณสุขอังกฤษพบสมาชิกรายที่ 3 ในครอบครัวเดียวกันติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ แต่ยังไม่ถึงขั้นเป็นอันตรายต่อชีวิต

“แม้การพบผู้ป่วยรายใหม่จะบ่งชี้ว่า ไวรัสชนิดนี้สามารถติดต่อจากบุคคลหนึ่งสู่อีกบุคคลหนึ่งได้ แต่ยังไม่พบการติดเชื้อจากมนุษย์สู่มนุษย์แบบยั่งยืน” WHO ระบุ

“แพทย์ควรตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในผู้ป่วยที่มีอาการปอดบวมอย่างหาสาเหตุไม่ได้ หรือมีอาการผิดปกติในระบบทางเดินหายใจอย่างรุนแรงและเรื้อรัง โดยไม่ตอบสนองต่อการรักษา”

สำนักงานป้องกันสุขภาพแห่งอังกฤษ ระบุว่า ผู้ป่วยรายล่าสุดที่ได้รับการยืนยันแล้วว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ เป็นญาติกับผู้ป่วยอีก 2 รายที่ได้ประกาศไปแล้วก่อนหน้านี้

สมาชิกคนแรกในครอบครัวที่แพทย์ยืนยันการติดเชื้อเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (11) เพิ่งเดินทางกลับจากตะวันออกกลางและปากีสถาน ส่วนอีก 2 คนไม่มีประวัติการเดินทางไปต่างประเทศในระยะนี้

ในจำนวนผู้ป่วย 12 รายที่ WHO ได้รับรายงาน มีทั้งหมด 5 รายที่อาการเข้าขั้นรุนแรง ประกอบด้วยชาวซาอุดีอาระเบีย 3 ราย และชาวจอร์แดน 2 ราย

แม้ไวรัสโคโรนาจะเป็นสาเหตุของโรคหวัดธรรมดา แต่ก็สามารถก่อให้เกิดอาการทางเดินหายใจอักเสบเฉียบพลันรุนแรง (severe acute respiratory syndrome : SARS) ได้เช่นกัน

การแพร่ระบาดของโรคซาร์สในจีนเมื่อปี 2003 คร่าชีวิตผู้ป่วยไปมากกว่า 800 ราย และทำให้ทั่วโลกหันมาตื่นตัวต่อการป้องกันโรคนี้

อดีตเลขาฯอาเซียน หนุนรัฐใช้'เขตปกครองพิเศษ' แก้ไฟใต้ - ข่าวไทยรัฐออนไลน์ » "


"สุรินทร์ พิศสุวรรณ" อดีตเลขาธิการอาเซียน วอนรัฐบาลควบคุมผู้ปฏิบัติเดินตามแผนนโยบายแก้ไฟใต้ อ้างการประกาศเขตปกครองพิเศษ​ ปัดเป็นการแยกดินแดน แต่ให้ปกครองกันเองโดยมีคนของรัฐบาลเป็นผู้ประสาน..

เตือนวัยรุ่น18 เลือกตั้งครั้งแรก!!


เตือนวัยรุ่น18 เลือกตั้งครั้งแรกอาจนึกสนุก ถ่ายรูปบัตรเลือกตั้ง 
ลงคะแนน โพสต์ในSocial Network ถือว่าผิดกฎหมายกกต.เคยกล่าวไว้ 
(ภาพประกอบจาก กกต.)

โต้'ล็อกเลข' ปธ.จับสลากฯ ท้าส.ส.ร่วมพิสูจน์ออกรางวัล - ข่าวไทยรัฐออนไลน์ »


โต้'ล็อกเลข' ปธ.จับสลากฯ ท้าส.ส.ร่วมพิสูจน์ออกรางวัล - ข่าวไทยรัฐออนไลน์ »
ปธ.จับสลากฯ งวดล่าสุด ยันไม่มีล็อกเลขแน่ ใครถูกรางวัลเป็นเรื่องของดวง ฟ้าลิขิต ท้า ส.ส.ทุกพรรคผลัดกันเป็นกรรมการจับรางวัลเพื่อพิสูจน์... 

ตั้งค่าหัว 1 แสน ล่าตัวสามีภรรยา ทารุณเด็กกะเหรี่ยง

ตั้งค่าหัว 1 แสน ล่าตัวสามีภรรยา ทารุณเด็กกะเหรี่ยง

ข้อมูลจาก
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ไทยพีบีเอส
   ตำรวจเร่งล่าตัว 2 สามี-ภรรยา ทารุณเด็กกะเหรี่ยงด้วยการใช้น้ำร้อนลวกตามร่างกาย จนเป็นแผลพุพองอย่างหนัก โดยมีการตั้งค่าหัวทั้งคู่จำนวน 100,000 บาท ให้กับผู้ที่แจ้งเบาะแส
                สืบเนื่องจากกรณีที่เด็กหญิงแอร์ (นามสมมติ) ชาวกะเหรี่ยงวัย 12 ปี ถูก นายนที แตงอ่อน อายุ 35 ปี และนางสาวรัตนากร ปิยะวรธรรม อายุ 33 ปี สองสามี-ภรรยา จ.กำแพงเพชร ซึ่งเป็นนายจ้าง ลักพาตัวตั้งแต่ 5 ขวบ พร้อมกับทารุณกรรมด้วยการราดน้ำร้อนใส่จนเป็นแผลไปทั้งตัว เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาหนัก 7 ข้อหา และนำตัวเด็กหญิงไปรักษาตัวตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

                ล่าสุด วันนี้ (18 กุมภาพันธ์) เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงติดตามตัวสองสามี-ภรรยา มาดำเนินคดีแล้ว แต่คาดว่าทั้งคู่กำลังเตรียมตัวหนีออกนอกประเทศ เนื่องจากมีการถอนเงินในบัญชีญาติออกไปนับล้านบาท จึงได้มีการตั้งรางวัลนำจับ 100,000 บาท ให้กับผู้ที่แจ้งเบาะแสของ นายนที แตงอ่อน และ นางสาวรัตนากร ปิยะวรธรรม เพื่อเร่งติดตามตัวทั้งคู่มาดำเนินคดีให้ได้

 
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

ชาวเน็ตอึ้ง! น้องชาย"ทักษิณ" บวชแค่ 8 วันได้ตำแหน่ง"พระครู"เลย ชาวเน็ตวิจารณ์ยับ


ชาวเน็ตวิจารณ์ยับ! "พายัพ"น้องชายทักษิณบวชแค่ 8 วันได้เป็น"พระครู"เลย ชี้แหกกฎ ตามหลักแล้วต้องอุปสมบทแล้วไม่น้อยกว่า 10 พรรษาขึ้นไป
         วันนี้( 18 ก.พ.) โพสต์ทูเดย์ รายงานว่า นายพายัพ ชินวัตร น้องชายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้เดินทางไปอุปสมบทเป็นพระภิกษุเมื่อวันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา ที่วัดป่าพุทธคยา ประเทศอินเดียโดยได้รับฉายาว่า พระพายัพ เขมะคุโณ และมีกำหนดลาสิกขาในวันที่ 11 มี.ค.นี้
         ทั้งนี้พระพายัพได้รับ การแต่งตั้งจาก สมเด็จพระธีรญาณมุนี เจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาส ให้เป็นพระฐานานุกรมในตำแหน่ง "พระครูปลัดสัมพิพัฒน์ญาณจารย์" ภายหลังจากการอุปสมบท
         อย่างไรก็ตามการแต่งตั้งดังกล่าวได้สร้างความฮือฮาและวิพากษ์วิจารณ์ในวงการสงฆ์เป็นอย่างมาก เนื่องจากตามธรรมเนียมปฏิบัติพระสงฆ์ที่จะได้รับการแต่งตั้งเป็นพระฐานานุกรมนั้นจะต้องผ่านการอุปสมบทมาแล้วไม่น้อยกว่า 10 พรรษา
         อนึ่ง ฐานานุกรม คือชื่อเรียกลำดับตำแหน่งสมณศักดิ์ของพระสงฆ์ไทย ซึ่งภิกษุผู้มีตำแหน่งทางการปกครองหรือมีสมณศักดิ์สูงบางตำแหน่งมีสิทธิตั้งพระรูปอื่นให้เป็นฐานากรมได้ตามศักดิ์ที่ได้รับพระบรมราชานุญาต เช่น พระสงฆ์ตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอ สามารถตั้งฐานานุกรมได้ 3 ตำแหน่ง พระราชาคณะชั้นสามัญตั้งฐานานุกรมได้ 3 ตำแหน่ง เป็นต้น ไปจนกระทั่งถึงสมเด็จพระสังฆราชทรงตั้งฐานานุกรมได้ 15 ตำแหน่ง
         ฐานานุกรมนั้นมีตำแหน่งที่เป็นหลัก 3 ตำแหน่ง คือ พระปลัด พระสมุห์ พระใบฎีกา หากพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ที่มีสิทธิ์ตั้งฐานานุกรมเป็นผู้ที่มีสมณศักดิ์ตั้งแต่พระราชาคณะชั้นราชขึ้นไป พระฐานานุกรมที่ท่านเหล่านั้นตั้ง จะเรียก "พระครู" นำหน้าตำแหน่งฐานานุกรมนั้นทุกตำแหน่ง เช่น พระครูปลัด พระครูสังฆรักษ์ เป็นต้น
         ภิกษุผู้ได้รับแต่งตั้งในลักษณะนี้เรียกว่า พระฐานานุกรม ทุกรูปจัดเป็นพระมีสมณศักดิ์เหมือนพระสมณศักดิ์ที่ทรงแต่งตั้ง พระในตำแหน่งเหล่านี้บางทีเรียกประทวนสัญญาบัตร บ้าง ฐานาประทวน บ้าง และเนื่องจากสมณศักดิ์เหล่านี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไม่ได้พระราชทานเอง ดังนั้นเมื่อพระสงฆ์ผู้ทรงสมณศักดิ์ที่ได้ตั้งฐานานุกรมไว้มรณภาพ ตำแหน่งฐานานุกรมต่าง ๆ ก็ถือว่าเป็นอันสิ้นสุดไปด้วย เรียกกันในภาษาปากว่า พระครูม่าย หรือ ฐานาม่าย จนกว่าจะได้รับแต่งตั้งฐานานุกรมใหม่
ขอบคุณภาพและข้อมูลจากเว็บไซต์ โพสต์ทูเดย์


ที่มา http://www.tnews.co.th/html/news/51688/#.USCMUx0a6hc


Most watched