วันอาทิตย์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2552

เป็นกำลังใจให้นะ

Clickเข้าไปดูนะ..

(เปิดลำโพงด้วย)

http://en-light.com/V2/s/01_GoodWind.html


FW mail From : รุ่งนภา ฟรานซิส (น้องรุ่ง น่ารักมากๆ)


.... เอาเพลงเพราะๆมาฝาก อีกเพลงครับ

http://en-light.com/V2/s/01_Everything.html

วันเสาร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2552

คำเตือน สำหรับผู้ที่ชอบโพสรูปลง hi5 ต้องระวัง!!!!+++

+++คำเตือน สำหรับผู้ที่ชอบโพสรูปลง hi5 ต้องระวัง!!!!+++
เทคโนโลยี สมัยนี้อันตรายจริง ๆ ครับ ลงไปรูปเดียว แต่ผลที่ได้รับ มันมากมายมหาศาลยิ่งนัก ใครผู้ไหนคิดจะเล่น hi5 คิดดูให้ดีก่อนนะครับ ว่าผลดีกับผลเสียอันไหนมันมากกว่ากัน ไม่งั้นคุณจะเป็นเหยื่อของเหล่ามิจฉาชีพที่ชอบขโมยรูปภาพท่านไปทำมิดีมิร้าย ครับ
ถ้าคุณโพสรูปไปแบบนี้ ...

คุณอาจกลายเป็นแบทแมนเป็นโดราเอม่อน...
หรืออาจได้เล่นหนัง........

อีกเรื่อง..
อาจได้เป็นทหาร...
.เป็นฮีโร่ เป็น Shrek 3
เป็นพ่อนีโม....
เป็นผู้ร้าย.......เป็นสาวๆ....เป็นรูปวาด...

เป็นนางแบบ.


เป็นนักเตะระดับโลก.........
เป็นขุนนางอังกฤษสมัยก่อน.....
เป็นสัตว์ประหลาด....



เป็นเพื่อนเล่นกับประธานาธิบดีไป

บรรยากาศการซ้อมอพยพหนีไฟ

FW mail From : มาลีวรรณ มีชำนาญ




























แบงก์รีดลูกค้า! ขึ้นค่าดูแลบัญชี


ตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค. เป็นต้นไป
ธนาคารดาหน้ากินค่ารักษาบัญชีจากลูกค้า ล่าสุดธนาคารกรุงเทพประกาศใครทิ้งเงินฝากออมทรัพย์ไว้ต่ำ 2,000 บาท ไม่เคลื่อนไหว 1 ปี เสียเดือนละ 50 บาท นางรัชนี นพเมือง ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค. เป็นต้นไป ธนาคารจะเก็บค่ารักษาบัญชีจากลูกค้าเงินฝาก 50 บาท/เดือน กรณีบัญชีไม่เคลื่อนไหวเกิน 12 เดือน สำหรับบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ที่มีเงินฝากต่ำกว่า 2,000 บาท
อัตราดังกล่าวเป็นการปรับจากเดิมที่กำหนดไว้ว่า หากลูกค้าทิ้งเงินไว้ต่ำกว่า 500 บาท ไม่เคลื่อนไหวเกินกว่า 12 เดือน จะเก็บ 50 บาทต่อเดือน "ธนาคารปรับขึ้นค่ารักษาบัญชีให้เท่ากับระบบ เพราะทั้งธนาคารไทยพาณิชย์ กสิกรไทย ต่างปรับเกณฑ์ขึ้นเป็น 2,000 บาทกันไปแล้ว ธนาคารกรุงเทพถือเป็นลำดับท้ายๆ ที่หันมาปรับเกณฑ์ขึ้นมา โดยถึงตอนนี้มีเพียงธนาคารกรุงไทยเท่านั้นที่ยังใช้เกณฑ์ 500 บาท แล้วคิดค่ารักษาบัญชีเดือนละ 50 บาทอยู่" นางรัชนี กล่าว นางรัชนี กล่าวว่า จุดประสงค์ของการปรับเกณฑ์เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้ามาเดินบัญชี เพราะธนาคารมีลูกค้าหลายล้านบัญชี หากลูกค้าทิ้งเงินไว้เฉยๆ จะกลายเป็นต้นทุน ทั้งต้นทุนด้านการพนักงาน และระบบคอมพิวเตอร์ที่ต้องเพิ่มขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ "ถ้ามีเงินต่ำกว่า 2,000 บาท ก็ไม่ควรทิ้งไว้ในบัญชีออมทรัพย์เฉยๆ อยู่แล้ว แต่เราจะเก็บเฉพาะบัญชีที่ไม่เคลื่อนไหวเกิน 1 ปี ถึงจะมีเงินเหลือ 3 บาทในบัญชี แต่มีความเคลื่อนไหว 1 ครั้ง ไม่ว่าจะฝาก ถอน โอน หรือบิลเพย์เมนต์ก็ไม่โดนเก็บ แบงก์จะเริ่มนับหนึ่งใหม่ หรือกรณีรับเงินเดือนผ่านแบงก์กรุงเทพ ก็ไม่โดนเก็บ เพราะมีเงินเข้าทุกเดือน" นางรัชนี กล่าว นางรัชนี กล่าวว่า ขณะนี้ธนาคารได้ติดประกาศเกณฑ์ใหม่ในทุกสาขาทั่วประเทศ พร้อมกับให้เจ้าหน้าที่แจ้งลูกค้าให้รับทราบ แต่คงไม่สามารถส่งจดหมายแจ้งลูกค้ารายคนได้ เพราะฐานจำนวนลูกค้าใหญ่มาก พนักงานธนาคารกรุงเทพ แนะนำว่า หากจะทิ้งเงินไว้ในบัญชีออมทรัพย์เฉยๆ โดยไม่ทำอะไร ขอแนะนำว่าให้เปลี่ยนมาเปิดบัญชีฝากประจำไว้ดีกว่า อาทิ ฝากประจำ 3 เดือน 6 เดือน หรือ 12 เดือน เพราะเมื่อครบกำหนดฝาก นอกจากจะได้รับโอนดอกเบี้ย ธนาคารจะต่ออายุเงินฝากให้อัตโนมัติ ทำให้ไม่ถูกเก็บค่ารักษาบัญชี 50 บาท และบัญชีฝากประจำกำหนดการรับฝากขั้นต่ำไว้ที่ 2,000 บาท ด้านธนาคารกรุงไทย แจ้งว่า ธนาคารยังไม่มีนโยบายปรับเกณฑ์ค่ารักษาบัญชีไม่เคลื่อนไหว ปัจจุบันยังใช้เกณฑ์เก็บค่าธรรมเนียมสำหรับยอดเงินคงเหลือต่ำกว่า 500 บาท ไม่เคลื่อนไหวเกิน 12 เดือน ขณะที่พนักงานธนาคารทหารไทย แจ้งว่า ได้ปรับเกณฑ์เก็บค่ารักษาบัญชีสำหรับยอดฝากต่ำกว่า 500 บาท เป็นต่ำกว่า 1,000 บาท ไปเมื่อกลางปี ยังไม่มีนโยบายจะปรับเป็น 2,000 บาทตามระบบ จากการตรวจสอบพบว่า ปัจจุบันเหลือเพียงธนาคารกรุงไทย นครหลวงไทย ธนชาต เกียรตินาคิน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ไทยเครดิต เอไอจี ที่คิด 50 บาทต่อเดือน หากมีเงินเหลือในบัญชี 500 บ

วันพฤหัสบดีที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2551

แม่หมาขี้เรื้อนกับคนใจดำ‏

แม่หมาขี้เรื้อนกับคนใจดำ‏
Credit:FW Mail Fromพี่กาแฟ Thanich Kafae 
เรื่องมีอยู่ว่า พี่ชิตแกเป็นคนใจดำครับ ชอบยิงนกตกปลาไปเรื่อย

แต่ที่หนักก็คงเป็นเนื้อหมา แกกินแหลกครับแต่

แม่แกบอกมันบาปนะลูก(ไม่สนโว้ย)

เมื่อราว 15 ปีก่อนมีเหตุการณ์ที่ทำให้แกเปลี่ยนไป

ครั้งนั้นมีหมาขี้เรื้อนตัวหนึ่ง มันมักวิ่งไปหาของกินแถวๆบ้านแกบ่อย ๆ

เพราะบ้านแกติดตลาด พี่แกกินหมาอยู่สม่ำเสมอแต่กรณีหมาขี้เรื้อน

แกบอกว่า ' กูกินไม่ลงว่ะ 'แกทำอย่างเดียวคือไล่ฆ่า แต่มันรอดได้ทุกครั้ง

(สงสัยมีของ)มันมักจะไปหาของกินทีตลาด บางทีก็ได้ แต่บางทีก็ไม่ได้

คราวนั้นเนื้อแห้งที่แกตากไว้หายไป พอมองไปก็เห็นแม่หมาขี้เรื้อนวิ่งหลุนๆไป

แกเดือดทันทีครับ วิ่งตามไป คราวนี้ทันครับ เพราะหมาขี้เรื้อนวิ่งช้ามาก

แกทุบไปทีเดียว หมานั่นล้มลงชักทันที

(แกบอกว่า หากตีตรงจุด แค่ไม้บรรทัดก็ตาย)

แกทิ้งไว้ตรงนั้นไม่อยากจับ แต่จะทำกินตรงนั้น

กลับบ้านไปเตรียมของ ( แค้นจัดอยากกินหมาขี้เรื้อน)

ให้ผมเฝ้าไว้(ยังเด็กอายุแค่ 12) ผมก็มัวแต่เก็บตะขบจนลืมดู

(ในใจอยากให้มันรีบไปจะได้ไม่ตาย) มันไปจริงครับ หายวับไป

พี่ชิตแกโกรธมาก คงอยากเตะผมเต็มแก่

แต่ลุงผมแกเป็นนักเลงใหญ่ และเป็นคนสอนวิธีฆ่าหมาให้ ก็ต้องวิ่ง

ตามอย่างเดียวพร้อมบ่น ' ทำไมมันไม่ตายวะ '

พักหนึ่งก็ได้ยินเสียงหมาเห่า

แกตามทันทีพอไปถึง ภาพที่เห็น หมาขี้เรื้อนกำลังจะตายมันมีลูกที่ต้องเลี้ยง 5 ตัวครับ วัยกำลังหย่านมบาง

ตัวยังกินนมอยู่ บางตัวก็วิ่งไปคาบเนื้อที่แม่หมาขี้เรื้อนคาบไปฝาก(เห็นกับตา) ที่มันยังไม่ยอมตาย เพราะ

ต้องกลับไปให้นมลูกแม้น้ำนมแห้งกรังเอาอาหารไปให้ลูกมันมันเรียกลูกๆ เพื่อให้นมให้อาหารเป็นครั้งสุดท้าย

แม่หมาพยายามอย่างดีที่สุดมันมองผมกับพี่ชิตอย่างขอร้อง ขอให้มันให้นมลูกเป็นครั้งสุดท้ายก่อนตายไม่

อยากเชื่อ นั่นคือน้ำตาของหมาขี้เรื้อน มันแค่ต้องการให้นมลูกก่อนตาย พี่ชิตไม้หล่นลงกับพื้นเดินเข้าไปดูแม่

หมานั่น ในยามนั้นสิ่งที่แกเห็นไม่ใช่หมาขี้เรื้อน แต่แกเห็นแม่ที่ยิ่งใหญ่ที่ทนเจ็บกลับไปหาลูกแกไม่พูดอะไร

ทุกอย่างจุกอยู่ที่ลำคอ สายตาอ่อนโยนลง

ลูกหมาตัวหนึ่ง วิ่งไปหาแก กระดิกหางให้แกอุ้มลูกหมาขึ้นพร้อมพูดว่า '

ขอโทษ ' พูดได้แค่นั้นแม่หมาก็ตาย

เราช่วยกันฝังแม่หมาแกรับเลี้ยงหมานั่นไว้ ทั้ง 5 ตัวตั้งแต่นั้นแกกลาย

เป็นคนใจดี ไม่ไล่ยิงนกยิงหมายิงแมวอีกแกบอก ' มันอาจมีลูกรออยู่ก็ใด้ '

เมื่อ 12 สิงหา 2 ปีที่แล้ว แกเอามะลิร้อยเป็นพวงไปให้แม่ทั้งๆที่ไม่เคย

ทำ

พูดกับแม่ว่า' แม่ตอนผมอายุ 16 แม่สอนผมยังไงนะสอนอีกหนได้ไหมครับ '

แม่แกน้ำตาคลอพูดไม่ออก

ไม่อยากเชื่อ แม่หมาขี้เรื้อนตายไป 1 ตัว

กลับทำให้คนใจดำอย่างแกเปลี่ยนไปขนาดนี้


วันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2551

มิตรภาพ

เก็บมาจากTorakhong;Cradit:คุณกาแฟครึ่งถ้วย
มีหลายสิ่งที่คุณรู้สึกได้ ในมิตรภาพที่ไร้ข้อจำกัดของความเป็นเพื่อน ความผูกพันเหล่านั้นถูกถ่ายทอดผ่านตัวอักษรเพื่อบ่งบอกถึงความสัมพันธ์ ที่แสนจะพิเศษของทุกๆคนที่มีเพื่อน คุณขาดข้อไหนหรือเปล่า ?????Always be honest , would you want them to lie to you?
จงซื่อสัตย์เสมอ...คุณต้องการให้เพื่อนโกหกคุณเหรอ
Be there when they need you, or you may wind up aloneจ
จงอยู่เคียงข้างเมื่อเขาต้องการ...หรือคุณต้องการจะอยู่คนเดียว
Cheer them on, we all need encouragement now and then
ให้กำลังใจ...เราทุกคนต่างก็ต้องการการสนับสนุนเป็นบางครั้ง
Don't look for their faults, even if you have none
อย่ามองหาข้อผิดพลาดของเขา...แม้ว่าคุณจะไม่มีข้อผิดพลาดแม้แต่ข้อเดียว
Encourage their dreams, what would we be without them?
สนับสนุนให้เขาทำตามความฝัน...เราจะอยู่อย่างปราศจากความฝันได้อย่างไร
Forgive them, you just may do something wrong sometime
ให้อภัย ...คุณอาจจะเคยทำผิดพลาดในบางเวลา
Get together often, misery loves company, so does glee
เจอกันบ่อยๆ...เมื่อมีความทุกข์ ต้องมีเพื่อน เพราะการคบค้าสมาคมทำให้เกิดความสนุกสนาน
Have faith in them, the human animal is remarkable
มีศรัทธาในเพื่อน...การมีศรัทธาเป็นสิ่งที่แบ่งแยกมนุษย์ออกจากสิ่งมีชีวิตอื่น
Include them, you may need to be included sometime
รวมเขาเข้าไปด้วย...คุณก็อาจจะต้องการถูกรวมบ้างบางครั้ง
Just be there when they need you
อยู่ข้างๆ...เมื่อเขาต้องการคุณ
Know when they need a hug, and couldn' t you use one?
รู้ว่าเมื่อไหร่ที่เขาต้องการให้กอด...เคยกอดเพื่อนบ้างหรือยัง
Love them unconditionally, that is the only condition
รักโดยไร้ข้อแม้...นี่เป็นเพียงเงื่อนไขข้อเดียวเท่านั้น
Make them feel spicial, because aren't we all special?
ทำให้เขารู้สึกเป็นพิเศษ...เพราะเราทุกคนก็เป็นคนพิเศษไม่ใช่เหรอ
Never forget them, who wants to feel forgotten
อย่าลืมเพื่อน...ใครบ้างอยากถูกลืม
Offer to help, and know when " No thanks" is just politeness
เสนอตัวที่จะช่วยเหลือ...และควรรู้ว่าเมื่อไหร่ที่คำว่า "ไม่เป็นไร ขอบคุณ" เป็นคำพูดแค่เพื่อมารยาท
Praise them honesly and openly
ยกย่องเพื่อนอย่างจริงใจ และเปิดเผย
Quietly disagree, noisy No's make enemies
อย่าโต้แย้งอย่างโจ่งแจ้ง...การทำเช่นนั้นก่อให้เกิดศัตรู
Really listen, a friendly ear is a soothing balm
ตั้งใจรับฟัง...การรับฟังของเพื่อนคือยารักษาอาการ
Say you're sorry, don't let them assume it
กล่าวคำขอโทษ...อย่าปล่อยให้เพื่อนต้องสันนิษฐานเอาเอง
Talk frequently, communication is important
พูดคุยกันบ่อยๆ ...การสื่อสารเป็นสิ่งสำคัญ
Use good judgement
ใช้ข้อตัดสินที่ดี
Verbalsise your feelings
อธิบายความรู้สึกของคุณเป็นคำพูด
Wish them luck, hopeftlly good
อวยพรให้โชคดี..........หวังว่าเขาจะพบแต่เรื่องดี
Examine your motives before you 'help' out
ตรวจสอบเจตนาของคุณ ก่อนที่จะขอความช่วยเหลือ
Your words count, use them wisely
คำพูดของคุณมีค่า......จงใช้อย่างชาญฉลาด
Zip your lips when they told a secret
ปิดปากให้สนิทเมื่อเพื่อนบอกความลับ

กับอีกบทความ ฝากไว้ให้คิด
คนๆ หนึ่งการที่เราจะคบหาหรือรู้จักใครสักคน
ไม่ว่าจะในฐานะอะไรก็ตามสิ่งหนึ่งที่ควรท่อง ควรจำไว้อยู่เสมอ
ก็คือ“คน” เป็นสิ่งมีชีวิต ที่มีทั้งด้านบวก และด้านลบ อยู่ในนั้น
อย่าตั้งใจกับคน 1 คนมากเกินไป
เพราะไม่มีใครอยากเป็นต้นเหตุของความล้มเหลว
อย่าคาดหวังกับ คน 1 คนมากเกินไป
เพราะไม่มีใครสามารถเป็นทุกอย่าง ที่ทุกคนอยากให้เป็น
อย่าให้เวลากับคน 1 คนมากเกินไป
เพราะไม่ว่าใครก็อยากมีช่วงเวลาของความเป็นส่วนตัว. . . คนเดียว ....
อย่าพยายามเปลี่ยนแปลงคน 1 คนมากเกินไป
เพราะนั่นจะทำให้เค้าไม่หลงเหลือความเป็นตัวของตัวเอง
อย่าควบคุมชีวิตคน 1 คนมากเกินไป
เพราะมนุษย์มักจะหาวิธีการแทรกตัว เพื่อออกมาจากกฎที่ถูกกำหนด
อย่าบีบบังคับคน 1 คนมากไปกว่านี้
เพราะถ้าคนๆนั้น หลุดจากภาวะบีบบังคับมาได้
คุณจะกลายเป็นคนที่ถูกหันหลังให้ในทันทีเธอ. . .
ลองมองดูฉันดีๆ ฉันมีลมหายใจ
ไม่ใช่ภาพวาด ที่จะสวยงามอยู่ตลอดเวลา
ฉันเองก็เป็น “คน” เป็นสิ่งมีชีวิตที่มี 2 ด้าน. . . เช่นกัน..
.อยากรู้จักใครสักคน ต้องหัดเรียนรู้ ไม่ใช่เปลี่ยนแปลง..
.------------------------------------------

Most watched