วันพุธที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2561

อาลัยรักคุณแม่นิด แซ่ตั้ง จากลูกๆหลานๆ



 • งานประชุมเพลิงศพคุณแม่นิด แซ่ตั้ง ณ วัดสุวรรณ เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร วันที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๖๑  •

วันพฤหัสบดีที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2561

บทเรียนจากชีวิตของ.."นกอินทรี"

                             "นกอินทรี" 🦅


นกอินทรีเป็นสัตว์ปีกที่มีอายุยาวนานที่สุดในโลก มันมีอายุยาวนานถึง 70 ปี เมื่อเราเอ่ยถึงมัน ก็คงต้องนึกถึงปีกอันสง่างามและกรงเล็บที่ทรงพลัง แต่จะมีใครรู้หรือไม่ว่ามันมีช่วงชีวิตที่เป็นอุปสรรคอันใหญ่หลวงของมันด้วย

นกอินทรี พออายุ 40 ปี ปากของมันจะงองุ้ม จะจิกจะกินอะไรก็ทำได้ยาก เล็บมันจะยาวและโค้งงอ มันจะจับสัตว์กินเป็นอาหารเหมือนเดิม มันก็ไม่อาจจะสามารถทำได้ง่าย และปีกที่งามของมันก็จะเกิดขนปกคลุมจนหนาและหนักที่ให้มันบินแต่ละครั้งต้องทำด้วยความยากลำบาก ช่วงเวลานี้กินเวลายาวนานถึง 150 วัน หรือ 5 เดือนกว่า พอมาถึงช่วงนี้ มันมีทางเลือก 2 ทางในชีวิต คือ...

1. ฆ่าตัวตายเสีย👎🏻
2. ต้องอดทนและต้องผ่านบททดสอบนี้ไปให้ได้ 💪🏼

เมื่อมันเลือก ทางเลือกที่ 1...มันก็สามารถทำได้ด้วยการเอากรงเล็บปาดคอตัวเองจบชีวิตมันลง หรือไม่ก็ทรมานตายไปเอง... ☠️

แต่ถ้ามันเลือกทางเลือกที่ 2...มันต้องบินขึ้นสู่ภูเขาหินสูง และเคาะปากมันกับหินเป็นร้อยเป็นพันครั้ง เพื่อให้จงอยปากของมันหลุดออกมา หลังจากนั้น มันต้องเคาะเล็บตนเองที่งองุ้มกับพื้นหินที่แข็งๆ ให้เล็บหลุดออกมาทีละเล็บจนหลุดออกจนหมด มันต้องจิกขนที่หนาเตอะตรงอก ตรงปีกออกทีละชิ้น ทีละชิ้นจนขนที่หนาเตอะเหล่านั้นหมดไป แน่นอนกระบวนการเหล่านี้ต้องกินเวลานาน และเจ็บปวดทุกข์ทรมานแสนสาหัสสากรรจ์ กระบวนการจะเริ่มอย่างช้าๆ และสิ้นสุดลงเมื่อครบ 150 วัน 👏🏼

เมื่อมันผ่านไปได้รางวัลของมันคือ ปากที่จะงอกออกมาใหม่สวยงามกว่าเดิม เล็บที่จะงอกออกมาใหม่ แหลมคมและงอ อย่างสวยงาม เหมาะแก่การล่าสัตว์หาอาหาร เหมาะแก่การดำรงชีวิต และของขวัญล้ำค่าอีกอย่างคือ ชีวิตที่จะมีต่อไปได้อีก 30 ปี เป็นชีวิตที่สง่างามและมีเกียรติ มันจะบินขึ้นบนท้องฟ้าอีกครั้ง ด้วยปีกที่ทรงพลังกว่าเดิม แต่ถ้าหากว่ามันไม่ผ่านบททดสอบ มันไม่ยอมทนทุกข์ และไม่ยอมเจ็บทน เอาปากออก และไม่ยอมเจ็บเพื่อจะเอาเล็บตนเองออก และไม่ยอมอดทนที่จะจิกเอาขนที่มีจำนวนมากมายและหนาเตอะออก เมื่อผ่าน 150 วัน มันจะต้องตายในที่สุด...มีนกอินทรีหลายตัวมากที่ผ่านบททดสอบ และก็มีจำนวนมหาศาลมากเช่นกันที่ตายในบททดสอบ 150 วันนี้ 🙌🏼

มนุษย์เราเมื่อเกิดมาแล้วเราก็ต้องมีทั้งสุขและทุกข์...เมื่อเราเจอเหตุการณ์ เจ็บปวด ที่ทำให้เราต้องอดทนจนถึงที่สุด เพราะเรารู้ว่าเมื่อเราผ่านมันไปได้ ชีวิตเราย่อมมีสิ่งที่ดีๆ รอเราข้างหน้าแน่นอน...
ถ้ามีหลายครั้งที่เราเจ็บเหลือเกิน ล้มเหลว พ่ายแพ้ เราร้องไห้ เราล้มลงทั้งยืน ให้เรา...อย่าหมดหวังในชีวิต จงลุกขึ้นสู้อุปสรรคนั้น อย่าคิดทิ้งบททดสอบ...เหมือนนกอินทรีบางตัวที่ไม่ยอม ทนเจ็บ ไม่ยอมทนทรมานเพียงชั่วคราว 🤟🏼

เวลาแห่งความทุกข์มีกันทุกคน แต่มันไม่ได้มีตลอดนิรันดร์ เมื่อเราผ่านได้ มันก็จะหายไปเอง เหลือทิ้งไว้แต่ความเข้มแข็งของเราที่มีมากกว่าเดิม อุปสรรคไม่เคยฆ่าใครตาย...อุปสรรค เป็นกำแพงที่มีเพื่อให้เราข้าม เพื่อที่เราจะเติบโต เพื่อที่เราจะแข็งแกร่งขึ้น เพื่อที่เราจะงดงามขึ้น...✨

จงเป็นดั่งนกอินทรี ที่มีชีวิตต่อไป...และร่ำรวยมั่งคั่งในทุกด้าน ได้อีก 30 ปี ข้างหน้า...และส่งต่อมรดกให้ลูกหลาน คนรัก ได้อย่างภาคภูมิใจ...🌈

#คำคม

Cr : Forward LINE

"แจ๊ค หม่า" ผู้สร้างอาณาจักรอาลีบาบาอันยิ่งใหญ่ ประวัติและกำลังจะโบกมือลาเพื่อส่งไม้ต่อให้ ซีอีโอคนใหม่

'แจ็ค หม่า'
ประวัติและกำลังจะโบกมือลาเพื่อส่งไม้ต่อให้ ซีอีโอคนใหม่




Source
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก youtube.com
SpringNews , TMN24

วันพฤหัสบดีที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2561

เปิดประเด็นหนังสือเด็ด แฉ ทรัมป์ จัดหนัก-เจาะลึก เขย่าเก้าอี้ ปธน. สะเทือน


ขอขอบคุณวีดีโอข่าวจาก youtube.com : มิติโลก

เปิดประเด็นหนังสือเด็ด แฉ โดนัลด์ ทรัมป์
​HANDOUT / HENRY HOLT AND COMPANY / AFP

             นักเขียนชื่อดัง เขียนหนังสือตีแผ่ข้อมูลวงใน แฉ โดนัลด์ ทรัมป์ แบบเจาะลึก ชนิดเขย่าเก้าอี้ประธานาธิบดี ด้านทำเนียบขาวออกโรงโจมตี ชี้เป็นเรื่องแต่ง ไม่มีความจริง ทนายส่วนตัวทรัมป์รีบสั่งสำนักพิมพ์ให้หยุดพิมพ์และห้ามขาย และเตรียมยื่นฟ้องนักเขียนแล้ว 

             Fire and Fury: Inside the Trump White House หนังสือเล่มล่าสุดของนักเขียนชื่อดัง ไมเคิล วูล์ฟ (Michael Wolff) ที่เผยแพร่ทางออนไลน์ไปเมื่อวันที่ 3 มกราคม 2561 และจะวางแผงในวันที่ 5 มกราคม นั้น ได้กลายเป็นหัวข้อข่าวใหญ่ที่ปรากฏบนสื่อทั่วโลก เพราะมันเป็นหนังสือที่เปิดเผยข้อมูลวงในเกี่ยวกับ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แน่นอนว่าหลาย ๆ คนคงทราบดีว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนปัจจุบันนี้มีเรื่องฉาวให้วิพากษ์วิจารณ์มากมาย แต่หนังสือเล่มนี้แตกต่างกว่าเรื่องซุบซิบเหล่านั้น เพราะมันทั้งเจาะลึกเรื่องราวทุกอย่างที่เกิดขึ้นตลอดจนแคมเปญเลือกตั้งของทรัมป์ ซึ่งมันทั้งฉาว ช็อก และแรง ชนิดที่ขาเก้าอี้ในห้องทำงานรูปไข่ต้องสั่นสะเทือน


        โดยจากการรายงานของสำนักข่าวบีบีซีเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2561 ระบุว่า ไมเคิล วูล์ฟ ผู้เขียนหนังสือ Fire and Fury: Inside the Trump White House คือนักข่าวและนักเขียนชื่อดัง วัย 64 ปี ผู้มีชื่อเสียงในเรื่องการเขียนวิเคราะห์เจาะลึก และตีแผ่เรื่องราววงในของวงการต่าง ๆ และกลุ่มอิทธิพลที่อยู่เบื้องหลัง ไมเคิลเป็นคอลัมนิสต์ประจำหนังสือพิมพ์และนิตยสารชื่อดังหลายเล่ม เขาเคยได้รับรางวัลด้านการเขียนมาแล้ว และผลงานที่สร้างชื่อเสียงมากที่สุดให้กับเขา คือ The Man Who Owns the News หนังสือชีวประวัติของ รูเพิร์ต เมอร์ดอค (Rupert Murdoch) ที่ถูกตีพิมพ์ในปี 2551 
เปิดประเด็นหนังสือเด็ด แฉ โดนัลด์ ทรัมป์
ไมเคิล วูล์ฟ ผู้เขียนหนังสือ Fire and Fury: Inside the Trump White House 
ภาพจาก Ben Gabbe / AFP

             สำหรับการเขียนหนังสือ Fire and Fury: Inside the Trump White House นั้น รายงานระบุว่า ไมเคิลทุ่มเทเวลาของเขาไปกับการเก็บข้อมูลในช่วงตลอด 18 เดือนของแคมเปญเลือกตั้งประธานาธิบดีที่ผ่านพ้นมา โดยเขาได้สัมภาษณ์ผู้คนมากมาย ทั้งตัวโดนัลด์ ทรัมป์ เจ้าหน้าที่ระดับสูง ทีมงาน และคนอื่น ๆ มากกว่า 200 คน หนึ่งในนั้นคือ สตีฟ แบนนอน อดีตหัวหน้าผู้เชี่ยวชาญด้านยุทธศาสตร์ประจำทำเนียบขาว ซึ่งข้อมูลที่ได้จากปากของเขานั้นค่อนข้างอื้อฉาวและฮือฮามาก ข้อมูลนั้นก็คือ ทีมหาเสียงของทรัมป์ และเจ้าหน้าที่ระดับสูง รวมทั้งนักกฎหมายของรัสเซีย ได้มีการนัดหมายพูดคุยกันที่อาคารทรัมป์ทาวเวอร์ ซึ่งเขากล่าวว่ามันเป็นการกระทำที่ขายชาติ นอกจากนี้เขายังกล่าวอีกว่า ทรัมป์ไม่มีสติปัญญาเหมาะสมที่จะเป็นประธานาธิบดี 

             นอกจากนี้แล้ว ในหนังสือยังมีข้อมูลอะไรต่าง ๆ อีกมากมาย รวมทั้งประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ที่ทรัมป์แต่งตั้งลูกเขยให้มีบทบาทหน้าที่ในทำเนียบขาว, ข้อมูลที่ว่ากลุ่มคนร่ำรวยที่ใกล้ชิดทรัมป์ มองว่าเขาเป็นคนโง่ และไม่มีวันได้เป็นประธานาธิบดี, ความกังวลของเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวในช่วงแรกที่ทรัมป์เข้าทำงาน เพราะแทบไม่มีใครรู้เลยว่าอะไรเป็นอะไร และควรทำอย่างไรต่อไป 

             รวมทั้งประเด็นที่ว่า ทรัมป์คิดถึงบ้านหรู ๆ ของเขา เพราะไม่ชอบทำเนียบขาว เนื่องจากเขาคิดว่ามันรบกวนจิตใจและน่ากลัว เขาไม่อนุญาตให้ใครแตะต้องข้าวของใด ๆ ในห้องส่วนตัวของประธานาธิบดี โดยเฉพาะแปรงสีฟัน เพราะเขากลัวการลอบวางยาพิษมาก และนี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมทรัมป์ถึงชอบกินแมคโดนัลด์ เพราะมันปรุงมาโดยปลอดภัย และไม่มีใครรู้ว่าเขาจะสั่งมากิน
เปิดประเด็นหนังสือเด็ด แฉ โดนัลด์ ทรัมป์
Jim WATSON / AFP

             อย่างไรก็ตาม ไม่นานหลังจากที่ Fire and Fury: Inside the Trump White House ปรากฏเป็นข่าว ซาราห์ ฮัคคาบี แซนเดอร์ส โฆษกประจำทำเนียบขาว ก็ได้ออกมาโจมตีผู้ที่จรดปากกาเขียนมัน โดยเธอประกาศว่า หนังสือเล่มนี้คือ เรื่องแต่งขยะ ๆ บนแท็บลอยด์ที่ไร้ค่า มันเต็มไปด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จ ซึ่งออกมาจากผู้คนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องและไม่เคยย่างกรายเข้ามาใกล้ทำเนียบขาว ประธานาธิบดีไม่ได้พบเจอกับ สตีฟ แบนนอน ตั้งแต่เขาดำรงตำแหน่ง และข้อมูลที่อ้างว่าสตีฟ เอ่ยถึงนั้น มันเป็นสิ่งที่น่าขบขันและน่าละอายอย่างมาก

             "หนังสือเล่มนี้คือความผิดพลาดที่มาจากความผิดพลาดและผิดพลาด เขา (ทรัมป์) คือผู้ลงสมัครจากพรรครีพับลิกันที่ได้คะแนนเสียงสูงที่สุดเท่าที่เคยมีมา ถ้าเขาไม่เหมาะสมแล้วละก็ เขาไม่มาอยูู่จุดนี้ได้ เขาคือ ผู้นำที่ดีและแข็งแกร่งอย่างน่าทึ่ง และนี่คือเหตุผลที่เราประสบความสำเร็จมาตลอดปี 2560" โฆษกทำเนียบขาว กล่าว 

             ด้าน นายชาร์ล เจ ฮาร์เดอร์ ทนายประจำตัวของทรัมป์ ในขณะนี้กำลังเตรียมดำเนินการฟ้องร้องผู้เขียนหนังสือ ฐานหมิ่นประมาท และเขาก็ได้ส่งจดหมายไปหาสำนักพิมพ์ ระบุว่าให้ยุติการตีพิมพ์หนังสือโดยทันที และระงับการตีพิมพ์เพิ่มไปจากเดิม รวมทั้งยุติการวางขาย หรือเผยแพร่ส่วนใดส่วนหนึ่งของหนังสือ อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ทางสำนักพิมพ์ยังคงนิ่งเงียบ ไม่ได้ออกมาชี้แจงใด ๆ และไม่ปรากฏแน่ชัดว่าจะมีการวางขายหนังสือต่อไปตามกำหนดเดิมหรือไม่ 


ข้อมูลจาก vanityfair.comindependent.co.uk

วันพุธที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2561

วิกฤตเศรษฐกิจเวเนสุเอลา จากประเทศเศรษฐีน้ำมันสู่อัตรเงินเฟ้อสูงถึงล้านเปอร์เซ็น

เวเนสุเอลา ประเทศที่เคยมั่งคั่งประเทศหนึ่งในทวีปอเมริกาใต้ ...  จากการส่งออกน้ำมัน กลายเป็นประเทศที่กำลังประสบภาวะวิกฤตเศรษฐกิจถดถอย และกำลังประสบปัญหาอัตราเงินเฟ้อที่ขึ้นสูงถึงล้านเปอร์เซนต์ (1,000,000 %) ซึ่งนั่นหมายถึงการที่จะซื้อแม้แต่ข้าวสักถุงจะต้องใช้เงินถึงหลักแสนโบโลวาทีเดียว... 

ดูเนื้อหาข่าว
ขอขอบคุณข่าวจาก Youtube.com :  Thai PBS

วันพุธที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2561

ต้นไม้ 58 ชนิดกู้เงินได้

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก
|บทบรรณาธิการ หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
|ฉบับ 3388 หน้า 16 ระหว่างวันที่ 2-4 ส.ค.2561

ที่ประชุมครม.สัปดาห์ก่อนได้อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทรัพย์สินอื่นเป็นหลักประกันทางธุรกิจ พ.ศ. ... โดยกระทรวงพาณิชย์เป็นผู้เสนอ ซึ่งเป็นผลต่อเนื่อง มาจากคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านสังคม เสนอแผนขับเคลื่อนระบบการเสริมสร้างชุมชนเข้มแข็ง ในส่วนของระบบการจัดการทรัพยากรและชุมชน ที่จะผลักดันกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมให้ประชาชนปลูกต้นไม้ยืนต้นมูลค่าสูงในที่ดินกรรมสิทธิ์

กระทรวงพาณิชย์ ในฐานะผู้กำกับดูแลพระราชบัญญัติหลักประกันทางธุรกิจ พ.ศ.2558 ได้เสนอออกกฎกระทรวงตามพ.ร.บ.นี้ให้นำไม้ยืนต้นที่มีมูลค่าสูงมาเป็นหลักประกันทางธุรกิจ โดยออกกฎกระทรวงตามมาตรา 8 (6) พ.ร.บ.หลักประกันทางธุรกิจที่บัญญัติให้หลักประกัน ได้แก่ ทรัพย์สินอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง จึงได้กำหนดไม้ยืนต้นที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจ 58 ชนิดตามบัญชีท้ายกฎหมายว่าด้วยสวนป่าให้เป็นหลักประกันทางธุรกิจได้



ต้นไม้ตามบัญชีท้ายกฎหมายว่าด้วยสวนป่า 58 ชนิด อาทิ ต้นสัก ต้นพะยูง ต้นชิงชัน ต้นกระซิก ต้นกระพี้เขาควาย ต้นสาธร ต้นแดง ต้นประดู่ป่า ต้นประดู่บ้าน ต้นมะค่าโมง ต้นมะค่าแต้ ต้นเคี่ยม ต้นพะยอม ต้นตะเคียนทอง ต้นตะเคียนหิน ต้นตะเคียน

ต้นสะเดา ต้นสัตบรรณ ต้นตีนเป็ดทะเล ต้นปีบต้นตะแบกนา ต้นแคนา ต้นกัลปพฤกษ์ ต้นมะขามป้อม ต้นจามจุรี ต้นหลุมพอ ต้นกฤษณา ไม้หอม ต้นเทพทาโร ไผ่ทุกชนิด ไม้สกุลมะม่วง ไม้สกุลทุเรียน ต้นมะขาม

กฎหมายหลักประกันธุรกิจออกมาเมื่อปี 2558มีผลใช้บังคับปี 2559 โดยหลักประกันทางธุรกิจกำหนดไว้เดิม เช่น กิจการ, สิทธิเรียกร้อง เช่น สินค้าคงคลัง-เครื่องจักร, บัญชีเงินฝาก, อสังหาริมทรัพย์, ทรัพย์สินทางปัญญาและทรัพย์สินอื่นๆ ที่ผ่านมาที่นิยมใช้เป็นหลักประกัน แค่เพียงบัญชีเงินฝาก ทรัพย์สินทางปัญญา ส่วนอื่นๆแบงก์ยังไม่ค่อยรับเป็นหลักประกัน ซึ่งตามเจตนารมณ์ของกฎหมายต้องการให้เอสเอ็มอีที่เข้าไม่ถึงแหล่งเงินทุน สามารถมีหลักทรัพย์มาใช้เป็นหลักประกันได้เพิ่มขึ้น

การนำไม้ยืนต้นมาเป็นหลักประกันได้ จะไปสอดรับกับโครงการธนาคารต้นไม้ ที่กำลังอยู่ระหว่างการจัดทำพ.ร.บ.ธนาคารต้นไม้ รองรับการส่งเสริมการปลูกไม้ยืนต้นมูลค่าสูงเพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ การออม รองรับสังคมสูงวัย และยังต้องแก้ไข พ.ร.บ. ป่าไม้ พ.ศ. 2484 และ พ.ร.บ.อื่นๆ และกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อขจัดอุปสรรค ส่งเสริม สนับสนุน และจูงใจให้ประชาชนและชุมชนปลูกต้นไม้ยืนต้นมูลค่าสูงในที่ดินกรรมสิทธิ์เพื่อการออม และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ

การปลดล็อกให้ไม้ยืนต้น 58 ชนิดเป็นหลักประกันธุรกิจได้ อาจยังไม่เพียงพอ รัฐบาลจะต้องเร่งพิจารณาแก้กฎหมายปลดล็อกให้สามารถตัดไม้มีค่าบางชนิดในที่ดินตัวเองมาขายได้ด้วยตามความเหมาะสม เปลี่ยนแปลงเป็นรายได้ ช่วยส่งเสริมท้องถิ่นเข้มแข็ง เพิ่มทางเลือกในการลงทุน เอื้ออำนวยต่อเศรษฐกิจฐานราก

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง...
พณ.แจง “ต้นไม้” เป็นหลักประกันกู้ เพิ่มช่องทางให้ผู้มีรายได้น้อย


Source : ฐานเศรษฐกิจ

Here’s how to pass 12 CompTIA certification exams

You don’t have to look far for someone to certify your IT skills. There are literally dozens of organizations and services that’ll test you and declare you fit to jump in and tackle a company’s various hardware and software needs.
But if you’re interested in the pedigree of that assessment group, then your certification needs to come from the Computing Technology Industry Association (CompTIA). They’ve been the global gold standard in system maintenance and management certification for nearly three decades.
Now, you can round out your skill set with a “greatest hits” package of their top-notch training with the Complete 2018 CompTIA Certification Training Bundle. It’s only $29.50 (an over 90 percent savings) from TNW Deals with coupon code: DIGITALWEEK50. 
The 12-course collection features more than 140 hours of training in all the most important skills and disciplines a well-rounded IT pro needs. Seriously, these courses touch on everything, including installation, preventative maintenance, networking, security, troubleshooting, customer service, client communication, cloud technologies, Linux systems, Wi-Fi, even radio frequencies. Yeah, even radio…so you KNOW this is comprehensive.

Of course, each course comes packed with the exact training needed to ace that particular CompTIA exam. So once you’re done, you’ll be a dozen certifications heavier and ready to chase almost any new IT job or promotion.

Your certification courses include: CompTIA A+ 220-901, CompTIA A+ 220-902, CompTIA Cloud Essentials CLO-001, CompTIA Cloud+, CompTIA Linux+ XKO-002, CompTIA Network+ N10-006, CompTIA CSA+, CompTIA Advanced Security Practitioner, CompTIA Security+ SY0-401, CompTIA Security+ SY0-501, CompTIA IT Fundamentals FC0-U51 and CompTIA Mobility+ MB0-001.

Separately, this coursework would normally set you back over $4,300, but get in on this offer now to score the entire deal for just $29.50 with coupon code “DIGITALWEEK50” for a limited time. 

Cr.: thenextweb.com

Most watched