วันอังคารที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ชีวิตเรา..เราลิขิต By : นิติธร ม.


Posted Buy : นิติธร ม.
หลาย ๆ คน ชักเริ่มจะหมั่นไส้ผมแล้วหล่ะ (มั้ง) 5555555
วัน ๆ ไม่ทำอะไรรึไง มีแต่เที่ยว
เห็นแต่ภาพไปเที่ยวตรงนั้นมา ตรงนี้มา 
แล้วเอามาโพสต์ให้ดู เหมือนเอามาอ้างกันเลย 5555
" งานการไม่ทำรึอย่างไร วัน ๆ เอาแต่เที่ยว "...ผมถูกถามมา 55555
ผมเลยต้องตอบไปว่า.."ผมมีงานทำ ผมทำงาน
แต่ผมหาเวลาท่องเที่ยวบ้าง ทำกิจกรรมที่อยากจะทำบ้าง
ไม่คิดที่จะทำงานอย่างเดียวตลอดไป จนไม่มีโอกาสพักผ่อนหย่อนใจเลยครับ"

หลาย ๆ คนที่แก่ตัวไป เริ่มจะเสียดายเวลาและโอกาสอันมีค่าไป
อ่านบทความข้างล่างนี้นะครับ เป็นบทความที่เก็บรวบรวมจากคนใกล้ตายส่วนใหญ่รู้สึกเสียดายกันมากที่สุด ได้แก่ 5 สิ่งต่อไปนี้

1. เสียดายที่ไม่ได้ทำตามสิ่งที่ใจต้องการ นี่เป็นสิ่งที่คนใกล้ตายรู้สึกเสียดายกันมากที่สุด เมื่อพวกเขารู้ตัวว่าเวลาชีวิตเหลือน้อย และลองมองกลับไปในอดีต พวกเขามักจะเห็นว่ามีความฝันอีกมากมายที่ยังไม่ถูกเติมเต็ม บางคนก็ดำเนินชีวิตไปตามความคาดหวังของคนอื่นจนไม่เป็นตัวของตัวเอง ทั้งที่จริง ๆ แล้ว ทุกคนล้วนมีอิสระ มีเวลาที่จะเติมเต็มความฝันและทำอย่างที่ใจต้องการได้ทั้งชีวิต น่าเสียดายที่กว่าจะรู้ตัว พวกเขาก็ไม่มีเวลาชีวิตเหลืออยู่อีกต่อไปแล้ว

2. เสียดายที่ทำงานอย่างหนัก ไม่ใช่แค่ผู้ป่วยชายใกล้ตายเท่านั้นที่รู้สึกเสียดายชีวิตที่ทุ่มเทไปกับการทำงานมากเกินไป แต่ผู้หญิงก็เช่นกัน พวกเขามักเสียดายที่เวลาชีวิตไม่น้อยถูกใช้ให้หมดไปกับการทำงาน จนทำให้เวลาที่อยู่กับคนรัก ลูก ๆ และครอบครัวมีน้อยมากในความรู้สึก

3. เสียดายที่ไม่ยอมเปิดเผยความรู้สึกของตัวเองให้คนอื่นรู้ ผู้ป่วยใกล้ตายหลายคนกดเก็บความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อใครหลายคนไว้ เพื่อรักษาความสัมพันธ์กับคนเหล่านั้น ผลสุดท้ายก็ต้องมานอนเสียดายหรือเจ็บใจที่ความไม่กล้าเปิดเผยความรู้สึกในอดีต ทำให้เขาไม่ได้เป็นในสิ่งที่เขาสามารถเป็นได้ นอกจากนี้ ยังมีการพบว่าผู้ป่วยหลายรายมีสุขภาพจิตย่ำแย่จากการเก็บกดความรู้สึกเช่นนี้ในช่วงสุดท้ายก่อนตายอีกด้วย

4. เสียดายที่ปล่อยให้เพื่อนฝูงห่างหาย ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า แม้ว่าบางช่วงชีวิต "เพื่อน" อาจดูไม่ได้สำคัญกับชีวิตเท่าไร แต่เมื่อถึงตอนใกล้ตาย คนแทบทุกคนมักจะคิดถึงและเรียกร้องหาเพื่อนเก่าทั้งนั้น เพราะพวกเขามักจะมานั่งนึกถึงอดีตและมองเห็นความดีของเพื่อนที่เข้าใจเมื่อสาย กว่าจะรู้ตัวก็ปล่อยให้เพื่อนเก่าห่างหาย ไม่รู้จะตามหาได้ที่ไหนเสียแล้ว

5. เสียดายที่ไม่ทำให้ตัวเองมีความสุขมากกว่านี้ ชีวิตคนเรามีเวลามากมายในการทำให้ชีวิตและจิตใจตัวเองมีความสุขในทุก ๆ วัน แต่บางครั้งคนเรากลับเคยชินที่จะอยู่กับชีวิตแบบเดิม ๆ พฤติกรรมแบบเดิม ๆ และความไม่กล้าที่จะเปลี่ยนแปลง ทำให้หลายคนต้องแสร้งทำเหมือนตัวเองมีความสุขให้คนอื่นเห็น บางครั้งก็หลอกตัวเองว่ามีความสุขด้วย ทั้ง ๆ ที่ลึก ๆ แล้ว รอยยิ้มและเสียงหัวเราะเกิดขึ้นได้ยากมาก สุดท้ายก็มานั่งเสียดายที่ปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับสิ่งเดิม ๆ และเพิ่งจะมาตระหนักรู้เอาตอนช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตว่าความสุขนั้นเป็นสิ่งที่เราเลือกที่จะเป็นได้

อ่านดูแล้ว จะช้าอยู่ไยครับ...อยากทำอะไรที่ไม่เดือดร้อนใคร เริ่มลงมือทำสิ่งเหล่านั้นเสียเลย อย่างน้อยในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต จะได้ไม่มาบ่นเสียดายหรือเสียใจในสิ่งที่ครั้งหนึ่งเคยมีโอกาสทำแต่ก็ไม่ได้ทำ


****** ชีวิตเราเราลิขิต ******

โอ้ชีวิตคิดไฉน ใครหนอใครลิขิต

ประกาศิตของพระศิวะ หรือของพระพรหมเจ้า

เราได้กำเนิดเกิดมา พอมองตาดูโลก

บ้างมีโชคบ้างอับโชค ต่างสุขโศกปนเศร้า

ฝ่ายจอมนราพิสุทธิ์ ท่านสอนพุทธบริษัท

เป็นธรรมะปรมัตถ์ อ้างถึงอำนาจกรรมเก่า

ท่านสอนสิ่งที่จริงแท้ เรามีเกิดแก่เจ็บตาย

ชีวิตก็เหมือนนิยาย สุดท้ายก็ต้องถูกเผา

แต่คนเราใกล้จะตาย สำนึกเสียดายหลายอย่าง

ไอ้นั่นก็ค้างไอ้นี่ก็ค้าง ล้วนยังไม่บรรลุเป้า

ยังเหลืออยู่หลายความฝัน ที่ยังไม่ทันได้ทำ

เพราะงานเร่งเร้าเช้าค่ำ เป็นงานประจำเก่า ๆ

เงินทองชื่อเสียงเกียรติยศ ที่เคยปรากฏล้ำค่า

เมื่อใกล้ความตายเข้ามา ไม่มีราคาหรอกเจ้า

เราเคยทุ่มเทเวลา แสวงหาสิ่งเหล่านี้

ความสุขตัวเองแทบไม่มี คิดดูดี ๆ น่าเศร้า

หลายอย่างที่ต้องเก็บกด ต้องทนต้องอดเอาไว้

ไม่กล้าบอกออกจากใจ ไฉนเราจึงโง่เง่า

กับคนรอบ ๆ ในครอบครัว คล้ายเราทำตัวไม่ดี

เรารักเขาไม่เต็มที่ ภรรยาสามีลูกเต้า

เวลาที่อยู่ด้วยกัน ไฉนไม่ทันได้คิด

พอใกล้จะสิ้นชีวิต จึงพาให้จิตแสนเศร้า

ถ้าย้อนได้กลับไปอดีต ก็คงจะคิดโดยชอบ

ใช้สติปัญญามาประกอบ ฉลาดรอบคอบกว่าเก่า

ไม่รอให้ถึงวันตาย วันที่ร่างกายขึ้นเตา

(ศ. ศาลาเงียบเหงา)

ป่ะ ๆ อยากทำอะไร ก็รีบทำกันเถอะ อิอิ



ไม่มีความคิดเห็น:

Most watched